“รัชทายาท ท่านจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ ข้ากับคุณหนูยังไม่ได้เตรียมพร้อมเลย!”
เสี่ยวจวี๋ปกป้องนายโดยไม่สนใจเนื้อตัวเปียกปอนของตัวเอง ขวางอยู่หน้ามู่หรงจิ่นโดยตรง
เดิมถังอาบน้ำทำขึ้นสำหรับสองคน ยามนี้อยู่ในนั้นสามคนจึงดูคับแคบทันที เสี่ยวจวี๋ที่อยู่ตรงกลางแทบจะตัวติดกับฉินอวิ๋นฟานแล้ว
ครั้นเสี่ยวจวี๋แช่ตัวอยู่ในนั้น ชุดกระโปรงผ้าโปร่งแนบตัว กล้ามหน้าอกอวบอั๋นฟูขึ้นมาเรื่อย ๆ จนจะทิ่มหน้าฉินอวิ๋นฟานอยู่แล้ว เช่นนี้ใครจะไปอดใจไหว?
“เรื่องนี้ยังมีอะไรต้องเตรียมตัวอีก? ยิ่งคาดไม่ถึงยิ่งเร้าใจ”
ฉินอวิ๋นฟานคว้ากระโปรงของเสี่ยวจวี๋แล้วกระชากแรง ๆ เรือนร่างขาวสะอาดดังหยกปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาในบัดดล เนื่องจากตื่นเต้นเกินไป หัวใจของสองนางจึงเต้นเร็วมากขึ้น หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงชัดเจนกว่าเดิม
เวลานี้อะดรีนาลีนที่ไตของฉินอวิ๋นฟานพุ่งปรี๊ด ท้องน้อยร้อนรุ่มหนัก ความต้องการปราบพยศอันแรงกล้ากำลังกระตุ้นสมองของเขา
“ไม่ อย่านะ!”
เสี่ยวจวี๋หวีดร้องและขัดขืนอย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงหน้ามู่หรงจิ่น ยิ่งนางร้องมากเท่าไร ฉินอวิ๋นฟานก็ยิ่งคึก ภายใต้มืออันมีกำลังพละกำลังของเขา สองนางมิอาจขัดขืนได้เลย ต้องปล่อยให้อีกฝ่ายเหิมเกริมลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอย่างจำยอม
“ปากว่าอย่า ๆ แต่ร่างกายซื่อตรงดีนี่!”
ฉินอวิ๋นฟานเห็นท่าทางอยากขัดขืนแต่ความจริงกลับยินดีต้อนรับของทั้งสอง มือทั้งคู่จึงเหิมกำเริบเสิบสานมากกว่าเดิม
ด้วยการลูบไล้อันหยาบกระด้างของมือฉินอวิ๋นฟานที่กำแหงมากขึ้น พวกนางเช่นกระดาษขาว ไหนเลยจะผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน? จึงต้านทานการบุกของฉินอวิ๋นฟานไม่ไหว
อืม...
ช่วงเวลานี้ พวกนางส่งเสียงหายใจหนักออกมาระยะหนึ่ง จากนั้นร่างกายของทั้งสองก็อ่อนระทวยโดยสมบูรณ์ ล้มอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่นของฉินอวิ๋นฟาน ไม่ดิ้นรนขัดขืนใด ๆ อีก
ฉินอวิ๋นฟานโต้รุ่ง กระทั่งฟ้าสางแล้วเพิ่งจะบรรเลงเพลงรักของคืนนี้จบอย่างลำบาก
สองดรุณีสิ้นเรี่ยวแรงอยู่บนเตียงนานแล้ว เนื่องจากอ่อนเพลียเกินไปจึงหลับปุ๋ยไปเลย
“คิดไม่ถึงว่ามู่หรงจิ่นยังเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่ ดูท่านางยังรู้จักการวางตัวมีขอบเขต การจะมีใจให้อัจฉริยะถือว่าปกติ เพราะไม่ว่าใครก็ไม่สมัครใจแต่งกับคนโง่อยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมู่หรงจิ่นที่เป็นคุณหนูตระกูลใหญ่อย่างนี้”
สีแดงสองวงบนเตียงเป็นเครื่องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกนาง ฉินอวิ๋นฟานย่อมไม่เอาความอีก เด็ดดวงขนาดนี้ เขาไม่เพียงแต่ได้ตัวของพวกนาง แต่อนาคตยังต้องได้ใจของพวกนางด้วย
ฉินอวิ๋นฟานทิ้งกระดาษไว้แผ่นหนึ่ง สวมเสื้อผ้าสะอาดและย่างเท้าออกจากห้องนอน
ในห้องหนังสือตำหนักรัชทายาท!
“เสี่ยวฟาน เจ้า เจ้าไม่ทึ่มแล้วจริง ๆ หรือ? กลับเป็นปกติแล้วจริงหรือ?”
หน้าโต๊ะหนังสือ ชายอายุสี่สิบต้น ๆ น้ำตาคลอ ถามด้วยความตื่นเต้นที่สุด
“อาจ้าน ข้าหายดีแล้วจริง ๆ สิบกว่าปีมานี้ลำบากท่านแล้ว”
ฉินอวิ๋นฟานรีบเดินขึ้นหน้า โค้งต่ำคำนับให้ชายตรงหน้าที่ชื่อว่าอู่จ้านทีหนึ่ง จากนั้นก็คุกเข่าลงทันที โขกศีรษะหนหนึ่ง!
ในความทรงจำเดิมของฉินอวิ๋นฟาน อู่จ้านอยู่ข้างกายปกป้องเขาแต่เล็ก เห็นว่าอู่จ้านเป็นองครักษ์ที่มารดาพามาจากแคว้นต้าเหลียงและได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากมารดาเขาที่สุด
เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตของเขา จึงต้องให้อีกฝ่ายลดตัวเป็นพ่อบ้านของตัวเอง จัดการงานในชีวิตประจำวัน ครั้นอยู่ก็ล่วงเลยมาสิบกว่าปี แม้มารดาจะจากโลกนี้ไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังคอยปกป้องด้วยชีวิต ไม่เคยหวั่นไหว
เกิดอยู่ในตระกูลราชา หากไม่มีคนจงรักภักดีคอยช่วยเหลือ เขาที่เป็นรัชทายาทก็คงม่องเท่งไปนานแล้ว ดังนั้นอู่จ้านคู่ควรให้เขาคุกเข่าให้
“รัช รัชทายาท ไม่ได้นะขอรับ ข้ามีคุณงามความดีอะไรถึงให้รัชทายาทคุกเข่ากราบได้? ท่านกำลังทำให้ข้าอายุสั้นอยู่นะขอรับ”
อู่จ้านรีบเดินเข้าไปประคองฉินอวิ๋นฟานลุกขึ้น เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของฉินอวิ๋นฟานในวันนี้แล้ว เขาก็เกิดความรู้สึกตื้นตันอย่างที่พูดไม่ออก
“ใครหรือ?”
“องค์ชายหกฉินอวิ๋นกว่าง!”
ขณะได้ยินชื่อนี้ ฉินอวิ๋นฟานไม่มีความทรงจำเลย ในความทรงจำของเขา ชื่อนี้แทบไม่เคยปรากฏ คนที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเช่นนี้กลับทำให้อาจ้านหวั่นใจได้เพียงนี้เชียวหรือ?
“ไหนท่านลองว่ามาดูเถิด!”
ฉินอวิ๋นฟานใคร่รู้
“องค์ชายหกฉินอวิ๋นกว่างเก็บตัวมาก ไม่ร่วมการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นใดในราชสำนัก แต่พ่อตาของเขาถังเจิ้นไห่คือแม่ทัพฝ่ายขวาระดับหนึ่งชั้นเอก แม้มีอิทธิพลไม่เท่าฮั่วเจิ้นหลงที่เป็นแม่ทัพฝ่ายซ้าย แต่ก็เป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งชั้นเอกขนานแท้ มีชื่อเสียงและอำนาจสูงมาก”
“ท่านต้องรู้นะ องค์ชายเก่ง ๆ มากมายอย่างนั้น แต่ทำไมถังเจิ้นไห่ถึงต้องให้ลูกสาวตัวเองออกเรือนกับคนที่ไม่เด่นดังด้วย?”
“ตามหลัก ด้วยฐานะและหน้าที่การงานของเขา องค์ชายที่อยากเกี่ยวดองเป็นญาติกับเขามากมีคณานับ เขาไม่มีเหตุผลที่จะเลือกองค์ชายหกที่เก็บตัว”
อยู่ในตระกูลจ้าวสิบกว่าปี มีแต่รู้เขารู้เราจึงจะอยู่ในช่องแคบเล็ก ๆ ได้ ถึงอู่จ้านจะเป็นทหารนามหนึ่ง กลับมีความคิดละเอียดรอบคอบ ปฏิภาณเหนือคน เชี่ยวชาญการสังเกตและการวิเคราะห์
และนี่ก็คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาคุ้มครองความปลอดภัยรัชทายาทฉินอวิ๋นฟานได้ตลอดสิบกว่าปี
“ท่านสันนิษฐานมีเหตุผล!”
ฉินอวิ๋นฟานพยักหน้าแสดงออกว่าเห็นด้วย
ที่ภายนอกดูอันตรายไม่น่ากลัว เพราะเดากลยุทธ์รับมือได้ ทว่าศรคมที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับต่างหากที่น่ากลัวที่สุด ไม่ลงมือก็แล้วไป แต่หากลงมือเมื่อไรคือตายในการโจมตีเดียว
อู่จ้านขมวดคิ้วมุ่น “ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญมากที่ข้ารู้สึกว่าองค์ชายหกไม่ธรรมดา นั่นคือเป็นไปได้มากว่าเบื้องหลังที่แท้จริงของเขาจะเป็นเฮ่อชินอ๋องฉินอ้าวในรัชกาลปัจจุบัน!!!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รัชทายาทชะตาฟ้า