เมื่อได้ยินคำถามที่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโมโหของมู่ซีซี จี้หลิงชวนถึงกับแสยะยิ้มที่มุมปาก และตอบกลับมาว่า“มู่ซีซี ฉันก็ได้พูดไปแล้วหนิ ให้เธอมาขอร้องฉัน และตอบตกลงที่จะเป็นคนรักของฉัน และฉันจะรีบปล่อยเรื่องของบริษัทมู่ซือไป ”
เมื่อจี้หลิงชวนพูดจบ เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดูเย็นชาและเคร่งขรึมมากกว่าเดิม“มู่ซีซี ความอดทนของฉันมีขีดจำกัดนะ !หากว่าเธอคิดดีแล้ว ก็ค่อยโทรมาหาฉัน แต่มีเวลาแค่ถึงคืนนี้นะ !”
ทันทีที่พูดจบประโยคจี้หลิงชวนก็ตัดสายโทรศัพท์ไป จากนั้นเขาก็โทรศัพท์ไปสั่งผู้ช่วยของเขาฟางเซิ่ง “ฟางเซิ่ง!เรื่องของบริษัทตระกูลมู่ให้จัดการขั้นสุดท้ายได้เลย!”
“ได้ครับ คุณชายจี้ ผมจะไปจัดการตอนนี้เลย!”
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น บรรยากาศอันเงียบสงบในห้องรับแขกของตระกูลมู่ก็มีเสียงของโทรศัพท์ดังแสบแก้วหูเข้ามา
คุณพ่อรับสายโทรศัพท์ แต่ทว่าเพิ่งจะได้ฟังฝั่งตรงข้ามพูดเพียงไม่กี่ประโยค สีหน้าของคุณพ่อตระกูลมู่ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด รูปร่างอันสูงใหญ่ค่อยๆยืนขึ้นพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทาไปทั้งตัว
มู่ซีซีหัวใจเต้นตึกๆด้วยความตกใจ เธอรีบวิ่งเข้าไปพยุงคุณพ่อของเธอไว้
คุณพ่อตาเบิกค้าง มือไม้อ่อนแรงกระทั่งโทรศัพท์ที่อยู่ในมือตกลงกระทบกับพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
ทันทีที่คุณแม่เห็นคุณพ่อมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ก็รีบวิ่งเข้ามาดู “คุณคะ คุณเป็นอะไรไป ?หรือว่ามีข่าวอะไรมาใหม่จากบริษัท?”
“เมื่อครู่นี้เลขาหลี่เพิ่งจะโทรศัพท์มา แย่แล้วๆ ครั้งนี้บริษัทมู่ซือต้องแย่จริงๆแล้ว!ผ่านคืนนี้ไป มู่ซือก็จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นจี้ซือแล้ว !”เมื่อพูดจบ พ่อก็เป็นลมล้มพับลงไป
มู่ซีซีถึงกับช็อก เธอกับคุณแม่รีบเข้าไปพยุงคุณพ่อขึ้นไปที่ห้องนอน จากนั้นก็โทรเรียกให้คุณหมอประจำตัวเข้ามาดูอาการของคุณพ่อ
โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก สาเหตุของการเป็นลมเกิดจากมีเรื่องมากระทบจิตใจ
มู่ซีซีกลับมานั่งคิดที่ห้องคนเดียว ในหัวของเธอเห็นแต่ภาพของคุณพ่อที่นอนป่วยอยู่บนเตียง
บริษัทมู่ซือเป็นบริษัทที่คุณพ่อสร้างขึ้นมากับมือ สร้างด้วยชีวิตของคุณพ่อเอง หากว่าบริษัทมู่ซือถูกคนอื่นมาเอาไปล่ะก็ คุณพ่อคงรับไม่ไหวกับความจริงในข้อนี้แน่
คิดไปพลางมู่ซีซีกัดริมฝีปากของตัวเองแน่นด้วยความโมโห จี้หลิงชวนทำการครั้งนี้ล้วนตรงจุดอ่อนของมู่ซีซีแล้ว!
แม้ว่าคุณพ่อกับคุณแม่ตระกูลมู่จะไม่ค่อยดีกับเธอสักเท่าไหร่ แต่พวกท่านทั้งสองก็ล้วนแต่เป็นพ่อแม่แท้ๆของเธอ มู่ซีซีไม่เคยคิดแค้นพวกท่านเลย
มู่ซีซีเบิกตาโตขึ้นด้วยความเคียดแค้น เป็นใครมันจะทนไหว!
หากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆล่ะก็ กลัวว่าในชาตินี้เธอคงจะไม่ยอมให้อภัยตัวเธอเองเป็นแน่
แต่ทว่าหากเธอไปหาจี้หลิงชวนจริงๆ ก็เพียงแค่ไปตอบตกลงในข้อเสนอของจี้หลิงชวน ที่ให้เธอไปเป็นคนรักของเขา
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้มือทั้งสองข้างของเธอก็ค่อยๆกำแน่นขึ้น มู่ซีซีได้ยินเสียงของคุณแม่ร้องไห้เสียงดังมาจากทางด้านล่าง เธอหายใจเข้าออกลึกๆเพื่อทำสมาธิ
มู่ซีซีตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในเรื่องนี้แล้ว มู่ซีซีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากำแน่น จากนั้นก็โทรออกไปที่เบอร์ของจี้หลิงชวน
หากว่าต้องการให้เธอเสียสละเพื่อที่จะให้เรื่องบ้าๆพวกนี้จบลงจริงๆ อย่างนั้นเธอก็จะยอมเสียสละเอง
ก็แค่ทำหน้าที่เป็นคนรักของจี้หลิงชวนก็เท่านั้น ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยมีความสัมพันธ์บนเตียงกับจี้หลิงชวนนี่นา!อีกทั้งเธอก็เป็นคนที่ไร้อารมณ์ ไม่น่าสนใจ คิดว่าไม่เกินสองสามวันจี้หลิงชวนก็คงจะเบื่อแล้ว!
เสียงรอสายของโทรศัพท์ดัง ตู๊ด ๆ ๆ เสียงหัวใจของมู่ซีซีเต้นเร็วขึ้นแทบจะทะลุทรวงอกออกมาทางด้านนอกแล้ว
มีชั่วขณะหนึ่งที่เธออยากจะตัดสายโทรศัพท์ไป หรือขอให้จี้หลิงชวนไม่กดรับสายของเธอก็ได้ !
แต่ว่าเรื่องราวมันไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...