“ราตรีสวัสดิ์” มู่ซีซีมองตาของหลิงชวนและพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว
จี้หลิงชวนกลับไปที่ห้องของเขา เขายกมือขึ้นมานวดๆที่หว่างคิ้วของตัวเอง จากนั้นก็โทรหา ฟางเซิ่งในทันที
รอไม่นานฟางเซิ่งก็รับโทรศัพท์ และเปล่งเสียงออกมาด้วยความเคารพว่า"คุณชายจี้ มีเรื่องอะไรให้รับใช้ครับ?"
“ก่อนหน้านี้ให้นายไปสืบหาเกี่ยวกับชาติกำเนิดของมู่ซีซีตอนนี้ตรวจสอบพบอะไรแล้วบ้าง?”
หากจี้หลิงชวนยังไม่สามารถยืนยันหรือตรวจสอบได้ว่าจริงๆมู่ซีซีเป็นลูกพี่ลูกน้องเขาหรือไม่ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาคงจะรู้สึกอึดอัดใจจนตายแน่!
และเขาก็ไม่สามารถรอได้นานขนาดนั้น
จากนั้นจี้หลินชวนก็ออกคำสั่งต่อไปอีกว่า “สั่งคนให้ไปตรวจสอบเพิ่มอีก ฉันไม่สนหรอกว่านายจะใช้วิธีไหน แต่นายต้องสอบสวนความจริงเรื่องนี้มาให้ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์! นายได้ยินชัดเจนใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดผ่านทางโทรศัพท์ดังกลับมา ฟางเซิ่งแอบเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาทางหน้าผากของเขาและตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า “ครับ คุณชายจี้ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ ”
เนื่องจากเป็นคำสั่งของจี้หลิงชวน ฟางเซิ่งจึงไม่กล้ารอช้า เขารีบไปจัดการส่งคนออกไปเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดตามเบาะแสที่มีอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
โชคดีที่ฟ้ายังมีความปรานีอยู่บ้าง หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ในที่สุดฟางเซิ่งก็สามารถค้นพบความจริงในเรื่องนี้
“คุณชายจี้ เกี่ยวกับเรื่องชาติกำเนิดของคุณมู่ พวกเราได้สืบจนพบความจริงแล้ว” ฟางเซิ่งมองไปที่จี้หลิงชวนที่อยู่ตรงด้านหน้า เขาก้มหัวลงเล็กน้อยและพูดอย่างสุภาพพร้อมทั้งยื่นซองเอกสารในมือให้กับจี้หลิงชวน "ผลการตรวจสอบทั้งหมดถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อยแล้วครับ”
จี้หลิงชวนเหลือบมองไปที่ฟางเซิ่ง จากนั้นสายตาของเขาก็ค่อยๆเคลื่อนลงไปมองที่ถุงเอกสารตรงด้านหน้า คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายอย่างจี้หลิงชวน อดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึกวิตกกังวลในตอนที่เขามองลงไปที่ซองเอกสารที่อยู่ตรงหน้าแล้ว
หากผลการสอบสวนปรากฏว่ามู่ซีซีเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาจริง ๆ เขาควรทำอย่างไรต่อไป?
หากเป็นไปตามความคิดของคุณย่าแล้ว ท่านคงจะไม่ยอมให้ซีซีอยู่ด้วยกันกับเขาแน่ สิ่งที่จี้หลิงชวนคิดได้ในตอนนี้คือ หากว่าคุณย่ารู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ครั้งก่อนของมู่ซีซีกับเขา เกรงว่าความคิดแรกของท่านคือการบังคับให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นโดยเร็ว หรือว่าให้มู่ซีซีแต่งออกไป เพื่อที่ทั้งสองคนจะได้ยุติความสัมพันธ์กัน!
แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน จี้หลิงชวนก็คงไม่ยินยอมเป็นแน่ !
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือมู่ซีซีไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องกับจี้หลิงชวน ทุกอย่างเป็นเพียงความเข้าใจผิด
จี้หลิงชวนพยายามข่มความคิดในใจของตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้นมองฟางเซิ่งที่ยืนอยู่ตรงด้านหน้าของเขา พร้อมพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ ฉันรู้แล้ว นายออกไปก่อนเถอะ!”
ฟางเซิ่งรีบถอยหลังและเดินออกไปด้วยความเคารพ ในห้องทำงานขนาดใหญ่เหลือเพียงจี้หลิงชวน
จี้หลิงชวนเอื้อมมือไปหยิบซองเอกสารที่อยู่ทางด้านหน้าของเขา จากนั้นก็หยิบเอกสารที่อยู่ทางด้านในออกมา แล้วค่อยๆบรรจงอ่านทีละบรรทัดๆ
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วแน่น หลังจากเห็นข้อความบรรทัดสุดท้ายของเอกสาร คิ้วของจี้หลิงชวนที่ขมวดแน่นก็ค่อยๆคลายตัวออก
จากนั้นไม่นาน จี้หลิงชวนก็ถือเอกสารพร้อมกับกุญแจรถ แล้วก็ออกไปข้างนอกในทันที
ทันทีที่เดินออกจากห้องทำงานเขาก็พบกับฟางเซิ่ง
เมื่อเห็นว่าจี้หลิงชวนกำลังรีบร้อนจะจากไป ฟางเซิ่งก็รีบกล่าวขึ้นว่า “คุณชายจี้ ในอีกสิบห้านาที คุณมีประชุมสำคัญที่จะต้องเข้าร่วมกับคณะกรรมการ...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...