เมื่อสิ้นคำกล่าวของพ่อมู่ แม่มู่รีบวิ่งไปหาพ่อมู่ในทันที เธอส่ายศีรษะไปมา "ไม่ได้ ตาเฒ่ามู่! อย่าทำแบบนั้น!"
ขณะพูด แม่มู่สังเกตเห็นว่าพ่อมู่นั้นสงบนิ่งมาก เธอจึงร้องห่มร้องไห้และดึงแขนเสื้อของพ่อมู่ไว้แน่นไม่ยอมปล่อยพร้อมกับพูด "ตาเฒ่ามู่ อย่าทำแบบนั้นเลย หากคุณทำแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ แล้วมู่อวี๋เฟยของเราจะเป็นอย่างไร? แย่งชิงสามีของน้องสาวตัวเอง หากว่าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปทั่วเมืองหรง เราไม่ต้องคิดไปถึงเรื่องหาครอบครัวและสามีที่ดีให้กับอวี๋เฟยเลย คนอย่างคุณชายจี้จะต้องไม่ปล่อยมู่อวี๋เฟยของเราไปง่ายๆแน่ ตาเฒ่ามู่ คุณอย่าทำอย่างนั้นเลย!"
พ่อมู่ได้ฟังในสิ่งที่แม่มู่พูด ใบหน้าที่เดิมทีสงบนิ่งกลับเผยอาการสั่นสะท้าน เขาขมวดคิ้วแน่นอย่างอดไม่ได้
ใช่แล้ว ทันทีที่เขาพูดความจริงออกไป เรื่องที่มู่อวี๋เฟยแต่งงานกับจี้หลิงชวนแทนมู่ซีซีจะต้องแพร่งพรายออกไปแน่ ข่าวลือนั่นจะกระจายไปทั่วเมือง ในตอนนั้นไม่รู้ว่าเรื่องเหล่านั้นจะทำให้มู่อวี๋เฟยกลายเป็นคนแบบไหน ว่ากันว่าการซุบซิบนินทาจะทำให้คนคนนั้นดูแย่มาก ถ้าเป็นเช่นนั้นในอนาคตจะมีชายคนไหนกล้าแต่งงานกับมู่อวี๋เฟย!
ยิ่งเขาคิด การตัดสินใจที่แน่วแน่ของเขาเมื่อครู่นี้ก็ค่อยๆสั่นคลอน
ทางแม่มู่ เมื่อเห็นว่าพ่อมู่ส่ายศีรษะ เธอรีบคว้ามือของพ่อมู่ไว้และพูดว่า "ตาเฒ่ามู่ พวกเราคิดหาวิธีอื่นเถอะ จะต้องมีทางออกอื่นอีกแน่นอน"
ขณะเธอพูด แม่มู่รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและต่อสายโทรศัพท์หามู่อวี๋เฟย
พ่อมู่ที่ยืนอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วและนิ่งเงียบแต่เขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่จะให้ไปสารภาพกับจี้หลิงชวนอีก
ในขณะที่แม่มู่โทรหามู่อวี๋เฟยนั้น มู่อวี๋เฟยกำลังอยู่โรงพยาบาลคอยเฝ้านายหญิงจี้
นายหญิงจี้ไม่รู้เป็นเพราะว่าดีใจและมีความสุขที่จี้หลิงชวนได้แต่งงานกับมู่อวี๋เฟยหรือไม่ แต่ตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นดีกว่าแต่ก่อนมาก
ก่อนหน้าที่มู่อวี๋เฟยจะมาโรงพยาบาล เธอตั้งใจโทรหาสาวใช้ของนายหญิงจี้ เธอถามสาวใช้ว่านายหญิงจี้ชอบทานผลไม้อะไร จากนั้นเธอก็ซื้อผลไม้ที่นายหญิงจี้โปรดปรานมามากมาย
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลมู่อวี๋เฟยทั้งคอยเล่าเรื่องสนุกๆให้กับนายหญิงจี้ฟังทั้งคอยนวดบ่านวดไหล่ให้กับเธอ เธอปอกผลไม้ให้กับนายหญิงจี้คอยดูแลรับใช้นายหญิงจี้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ขณะที่กำลังพูดคุยกับเกี่ยวเรื่องในชีวิตประจำวัน โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของเธอก็ส่งเสียงดังขึ้น มู่อวี๋เฟยจึงต้องหยุดพูดคุยและหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเพื่อดูว่าใครโทรเข้ามา และสายที่โทรเข้ามาก็คือเบอร์โทรศัพท์ของแม่มู่ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยและตัดสายไปโดยไม่คิด
นายหญิงจี้ที่อยู่ด้านข้างมองท่าทางของมู่อวี๋เฟยที่ตัดสายโทรศัพท์ เธอขมวดคิ้ว ดวงตาที่รับรู้ได้จ้องมองมู่อวี๋เฟยและกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า "อวี๋เฟย ใครโทรมาหรือ ทำไมไม่รับสาย?"
เมื่อมู่อวี๋เฟยได้ยินนายหญิงจี้ถามเช่นนั้น เธอหัวเราะเบาๆและยิ้มพร้อมกับอธิบายให้นายหญิงจี้เข้าใจ "คุณย่า คนที่โทรมาไม่ใช่คนสำคัญอะไร ไม่รับก็คงไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ"
มู่อวี๋เฟยนำองุ่นนำเข้ามาวางไว้ด้านข้างนายหญิงจี้อย่างระมัดระวัง เธอมองนายหญิงจี้และกล่าวว่า "คุณย่า คุณอยากทานองุ่นไหม? เดี๋ยวอวี๋เฟยเอาไปล้างให้ค่ะ"
ขณะเธอพูด อวี๋เฟยเตรียมตัวจะลุกขึ้นเพื่อนำองุ่นไปล้าง แต่นายหญิงจี้ที่อยู่ด้านข้างห้ามมู่อวี๋เฟยเอาไว้ "อวี๋เฟย เรื่องพวกนี้หนูไม่ต้องทำหรอก ให้สาวใช้ไปจัดการก็ได้"
เมื่อสิ้นเสียงของนายหญิงจี้ โทรศัพท์ในกระเป๋าของมู่อวี๋เฟยก็ดังขึ้นอีกครั้ง มู่อวี๋เฟยขมวดคิ้วด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดูชื่อคนที่โทรเข้ามา สายโทรศัพท์นั้นยังคงเป็นสายจากแม่มู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ย่าก็ปักใจเชื่อเลย ไม่ตรวจดีเอ็นเอหน่อยล่ะ...
ตรวจดีเอ็นเอก็จบ งง นังพี่เลวยังคิดได้ แต่พระเอกคิดไม่ได้...
เรื่องนี้อ่านจบแล้ว...