รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 107

หลังจากนั้นมายมิ้นท์ก็ไม่ได้คุยต่อและวางโทรศัพท์ลง

ลาเต้เบ้ริมฝีปากของเขาอย่างมีไม่พอใจ “คุยนานดีนี่!”

มายมิ้นท์ได้ยินถึงความหมายจากน้ำเสียงของเขา และอดไม่ได้ที่จะมองมาทางเขา “เอาละ คุณบอกว่าจะกลับไปที่บริษัทไม่ใช่เหรอคะ? ทำไมยังไม่ไปอีก?”

“เหอะๆ ผู้หญิง! วันๆเอาแต่ไล่ผม!” ลาเต้ลุกขึ้นยืนแล้วบ่นออกมาด้วยน้ำแสงแปลกๆ

มายมิ้นท์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอไม่อยากสนใจเขาอีกต่อไป จึงหยิบแฟ้มขึ้นมาเปิดอ่าน

……

ณ ตระกูลภักดีพิศุทธิ์

เมื่อคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์รู้ว่าเยี่ยมบุญถูกจับกุมตัวไป เธอก็รู้สึกตกตะลึงไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร เธอทำได้เพียงแค่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น

เธอนั่งอยู่บนโซฟา วางกล่องกระดาษไว้บนตัก

บนโต๊ะกาแฟตรงหน้ามีกระดาษกองเล็กกองรวมกันอยู่

“ส้มเปรี้ยว เราจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี?” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ร้องไห้และมองไปยังลูกสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยดวงตาสีแดงเรื่อ

ส้มเปรี้ยวไม่ได้ร้องไห้ออกมา เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น “หนูก็ไม่รู้ค่ะ หนูจะลองโทรไปถามลุงในบริษัทดูว่าพอมีวิธีประกันตัวพ่อไหม”

“ถ้าอย่างนั้นก็รีบเร็วเข้าเถอะ” คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เร่งเร้า

เธอเป็นแม่บ้านเต็มตัว ก่อนหน้านี้ได้แต่อาศัยเยี่ยมบุญมาเสมอ

ตอนนี้เมื่อเยี่ยมบุญถูกจับ เธอจึงรู้สึกราวว่าท้องฟ้าจะถล่ม

ส้มเปรี้ยวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาผู้ถือหุ้นซึ่งค่อนข้างสนิทกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์

สายถูกรับขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที ส้มเปรี้ยวก็วางโทรศัพท์ห่างออกจากหูด้วยใบหน้าที่ไม่ดีนัก

เมื่อคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เห็นดังนี้ เธอก็มีลางสังหรณ์ใจที่ไม่ดีนัก แต่เธอก็ยังถามอย่างมีความหวังว่า “เป็นอย่างไรบ้าง?”

ส้มเปรี้ยวส่ายหัว “คุณลุงโอ บอกว่า พ่อส่งคนไปทุบทำลายพิพิธภัณฑ์จริงๆ มีหลักฐานมันตัว ไม่สามารถประกันตัวได้”

ใบหน้าของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ซีดลงทันใด เธอรู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังหมุน

เธอเอามือขึ้นจับหน้าอกตัวเองและร้องไห้ “เป็นไปได้ยังไง......ทำไมพ่อเราถึงไปทุบทำลายพิพิธภัณฑ์ได้!”

ส้มเปรี้ยวไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอก้มศีรษะเพื่อบิดเบือนอารมณ์บนใบหน้าของตนเอง

เธอดองก็ไม่เข้าใจว่าพ่อของเธอส่งคนไปทำลายอาคารโรงงานของมายมิ้นท์แต่ทำไมจู่ๆ จึงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติไปได้?

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

“ส้มเปรี้ยว ไปหาเปปเปอร์สิ” จู่ๆ คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็หาวิธีได้และจับมือส้มเปรี้ยว

ส้มเปรี้ยวมองไปที่มารดา “ไปหาเปปเปอร์?”

“ใช่ พ่อของเราไม่สามารถประกันตัวออกมาได้ ถ้าอย่างนั้นคงต้องให้ทางหน่วยงานราชการปล่อยเขาออกมาเอง เปปเปอร์กับทามทอยสนิทกันไม่ใช่เหรอ? ให้เปปเปอร์คุยกับทามทอยแล้วปล่อยพ่อออกมาสิ” คุณนายพูด

ดวงตาของส้มเปรี้ยวเป็นประกาย เธอลุกขึ้นยืนทันที “หนูจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”

ยังไงก็ต้องช่วยพ่อออกมาให้ได้ มิฉะนั้นหากนานไป ตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทจะโดนถอดถอนอย่างแน่นอน แม้ว่าหุ้นในมือของพ่อจะมากที่สุด แต่จะหมดสิทธิในการพูดและถูกควบคุมอำนาจ

เมื่อถึงเวลานั้น สถานะของเธอในแวดวงตระกูลชั้นสูงก็คงจะตกต่ำลงไป

ส้มเปรี้ยวหยิบกระเป๋าเดินออกมาจากตระกูลภักดีพิศุทธิ์ และตรงไปที่ตระกูลนวบดินทร์

เมื่อเปปเปอร์กลับมาจากเลิกงาน เขาก็เห็นเธออยู่ที่นั่นกำลังคุยกับพิศมัย

“เปปเปอร์คะ” เมื่อส้มเปรี้ยวหันไปเห็นเปปเปอร์ เธอก็ยืนขึ้นทักทายด้วยรอยยิ้ม “คุณกลับมาแล้วเหรอคะ”

พิศมัยก็ยิ้มขึ้นเช่นกัน “ฉันก็ว่าทำไมจู่ๆส้มเปรี้ยวก็หยุดคุย ที่แท้เพราะเห็นเปปเปอร์มานี่เอง เอาละ คนแก่อย่างฉันคงจะไม่อยู่รบกวนหนุ่มสาวแล้ว”

“คุณป้าคะ” ส้มเปรี้ยวหน้าแดงด้วยความเขินอายเล็กน้อย

พิศมัยเม้มริมฝีปากยิ้มแล้วเดินจากไป

“คุณมาที่นี่ทำไม?” เปปเปอร์วางกระเป๋าเอกสารของเขาลงแล้วมองไปที่ส้มเปรี้ยว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว