ช่วงบ่ายโมงกว่าๆ พิศมัยสีหน้าบึ้งตึงกลับมา
ปีโป้กำลังเล่นเกม เห็นเป็นเช่นนี้จึงเอ่ยถามออกไป “แม่ ใครทำให้แม่โมโห?”
พิศมัยโยนกระเป๋าลงบนโซฟา นั่งลงอย่างโมโห “ทั้งหมดต้องโทษนังมายมิ้นท์นั่น!”
“ใครนะ?” ปีโป้รีบวางเครื่องเกมลง ขยับเข้าไป “แม่ไปเจอเธอมาเหรอ?”
“แม่ว่างมากจนต้องไปเจอมันหรือไง? แค่ครั้งก่อนที่ลักชัวรี แบรนด์ พลาซ่า มันกับชายชู้รวมหัวกันรังแกแม่ และไม่รู้ว่าพวกมันทำอะไร วันนี้แม่ไปซื้อของกับเพื่อนๆ พนักงานรักษาความปลอดภัยถึงไม่ให้แม่เข้าไป? บอกว่าแม่ติดแบล็กลิส!”
พิศมัยแทบจะกัดฟันจนแหลกละเอียดด้วยความโกรธ เล่าต่ออย่างโกรธแค้น “พวกแม่เป็นคุณนายร่ำรวยไปกันทั้งหมดห้าคน คนอื่นเข้าได้ แต่ไม่ให้แม่เข้า? น่าโมโหจริงๆ! ลูกไม่เห็นสายตาคุณนายคนอื่นที่มองแม่ เหมือนกับแม่เป็นคนต่ำต้อย แม่เกลียดมายมิ้นท์นังสารเลวนั่น!”
อาจเพราะเสียงของเธอดังเกินไป เปปเปอร์กับส้มเปรี้ยวลงมาจากชั้นบนด้วยกัน
“เกิดอะไรขึ้น?”
เปปเปอร์ติดกระดุมที่ข้อมือ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเทา ดูมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ
ส้มเปรี้ยวก็ดูเหมือนแต่งตัวอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ กระโปรงขาวสะอาด อ่อนโยนเหมือนสายน้ำ
พิศมัยเล่าเรื่องให้เขาฟังคร่าวๆ
เปปเปอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมหย่ากับเธอแล้ว แม่ไม่มีธุระก็อย่าไปวุ่นวายกับเธอ”
มายมิ้นท์ไม่ได้เป็นคนธรรมดาอย่างที่คนอื่นเห็น ส่วนนิสัยของคุณแม่เขาเองก็รู้ดี หลังจากนี้เธออาจเจอปัญหา เขาจึงพูดเตือน
แต่จิตใจของพิศมัยยังคงไม่สงบลง แบะปากพูด “เธอเป็นคนมาวุ่นวายกับแม่ก่อนนะ”
หยุดไปสักพัก เห็นทั้งสองคนกำลังจะออกไปข้างนอก รีบมองไปทางส้มเปรี้ยว ยิ้มถาม “ส้มเปรี้ยว พวกลูกจะออกไปไหนกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...