เขากระทั่งอดไม่ไหวที่จะยกมือขึ้น วางอยู่ใต้จมูกดมแล้วดมอีก ดมได้กลิ่นหอมบางๆอย่างหนึ่ง
ทามทอยรู้ว่า นั่นคือกลิ่นน้ำหอมของมายมิ้นท์ ตอนที่จับมือกับเธอ ตกค้างอยู่ในมือของเขา
กลิ่นหอมนี้สะอาดสดชื่นสวยงามสง่า ก็เหมือนกับบุคลิกเฉพาะตัวของมายมิ้นท์ ทำให้เขาอดไม่ไหวที่จะดมเพิ่มหลายที
และทามทอยก็ทำเช่นนี้ด้วย เขาก้มหัวนิดๆ ดมกลิ่นหอมที่อยู่บนมือ ในสมองกลับปรากฏฉากที่ตนเองกอดมายมิ้นท์ซุกหัวอยู่ซอกคอของเธอ ดมกลิ่นน้ำหอมที่อยู่บนกายเธอขึ้นมา
ในชั่วขณะ ปลายหูของทามทอยยิ่งแดงขึ้นเลย การเต้นของหัวใจก็เร็วขึ้นเยอะเลยเช่นกัน
ก็อยู่ในเวลานี้ ลิฟต์ที่อยู่ต่อหน้าเขา ติ่ง หนึ่งทีเปิดออกเลย
ลาเต้ถือถังฉนวนอันหนึ่งออกมาจากข้างใน นึกไม่ถึงว่าข้างหน้ามีคนเกือบจะชนกัน
โชคดีสุดท้ายลาเต้หยุดย่างก้าวได้ทัน นี่จึงหลีกเลี่ยงเหตุการณ์แบบนั้นที่จะเกิดขึ้น
“เป็นคุณได้ยังไง?” ลาเต้เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่ข้างหน้าคือทามทอย ถามอย่างสงสัยงงงวยว่า “คุณอยู่นี่ได้ยังไง?”
ภาพอาลัยอาวรณ์ที่อยู่ในสมองของทามทอยถูกทำลาย เดิมทีสีหน้าก็ไม่ค่อยดีเล็กน้อย
จากนั้นนึกถึงความสัมพันธ์ของลาเต้กับมายมิ้นท์อีก ก็ยิ่งไม่ดีอีก ฮึ เสียงหนึ่ง และไม่ได้ตอบกลับด้วย เดินผ่านลาเต้เข้าไปในลิฟต์โดยตรง
ลาเต้เอียงหัว บนหัวปรากฏเครื่องหมายคำถามออกมาอีกเป็นแถว “อาการอะไร?”
เขาไม่ได้ล่วงเกินทามทอยนะ?
ทามทอยผู้ชายคนนี้ ทำไมต้องใช้สายตาที่มองศัตรูแบบนั้นจ้องมองเขาล่ะ?
“ประสาทแดกเหรอ!” ลาเต้คิดไม่ออก ลืมตาขาวหนึ่งที หลังจากบ่นเสียงหนึ่ง เดินไปยังออฟฟิศของมายมิ้นท์
“ที่รักเอ่ย” ลาเต้ผลักประตูเข้าไป
มายมิ้นท์กำลังจัดการเอกสารอยู่ ได้ยินเสียงของเขา เงยหน้ามองไป “คุณทำไมมาแล้วล่ะ? งานที่บริษัทคุณหายยุ่งแล้วเหรอ?”
ตั้งแต่หลังจากเทนเดอร์กรุ๊ปก้าวเข้าสู่ลู่แนวทางที่ถูกต้อง ลาเต้ก็มาทางนี้ค่อนข้างน้อยแล้ว
ถึงยังไงบริษัทของเขาเอง ก็ต้องการเขากลับไปเฝ้าคุ้มครองอยู่เช่นกัน
“วันนี้ไม่มีอะไร ผมมาส่งของให้กับคุณ แม่ผมทำซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดง รู้ว่าคุณชอบกิน ให้ผมเอาเข้ามาสักหน่อย” ลาเต้ชูถังฉนวนที่อยู่ในมือขึ้น
ตาของมายมิ้นท์สว่างขึ้น “ซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดงนะ นานแล้วไม่ได้กิน ขอบคุณคุณป้ามากเลยจริงๆ”
“รีบมาชิมดู เดี๋ยวจะเย็นแล้ว” ลาเต้เอาถังฉนวนวางอยู่ที่โต๊ะทำงานของเธอ จากนั้นเอามือเปิดออก
เพิ่งเปิดออก กลิ่นหอมที่หอมกรุ่นก็เต็มอยู่ในอากาศไปด้วย
มายมิ้นท์ได้กลิ่นนี้ รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าแข็งทื่อทันที จากนั้นด้วยความเร็วที่ตาเนื้อมองเห็นได้ซีดขึ้นมาเลย ต่อจากนี้เธอเอามือปิดปากไว้ ผลักเก้าอี้ออกลุกขึ้นมาวิ่งไปยังห้องน้ำ
“เกิดอะไรขึ้นล่ะ?” ลาเต้ถูกการกระทำนี้ของเธอทำให้มึนงงแล้ว จนถึงได้ยินเสียงอาเจียนของเธอจึงมีปฏิกิริยากลับมา รีบวางจานที่อยู่ในมือลง รีบเร่งไปยังห้องน้ำ
เพิ่งเดินถึงหน้าประตูห้องน้ำ ลาเต้เห็นภาพที่มายมิ้นท์ค้ำอยู่บนอ่างล้างหน้า ก้มตัวอยู่อาเจียนจนมืดฟ้ามัวดิน
“ที่รักเอ่ย คุณเป็นยังไงแล้วล่ะ?” ลาเต้ขมวดคิ้วอย่างแน่น บนใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวล
มายมิ้นท์ปรับการหายใจสักหน่อย หลับตาลงนิดๆ พิงอยู่ที่ฝาผนังข้างอ่างล้างหน้า นี่จึงตอบกลับอย่างอ่อนแอว่า “ฉันไม่เป็นไร”
“นี่ยังบอกว่าไม่เป็นไร คุณล้วนอาเจียนจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว คุณดูสิใบหน้านั้นของคุณซีดเหลือเกิน ผมโทรเรียกหมอขึ้นมา” พูดอยู่ ลาเต้เอามือถือออกมา ก็จะกดโทร
มายมิ้นท์ลืมตาขึ้น ยื่นมือกดทับมือถือของเขาลง “เต้ ไม่ต้อง ฉันไม่ได้ป่วย”
“ไม่ได้ป่วยเหรอ?” ลาเต้มึนงงเต็มไปหมดจ้องมองเธออยู่ “งั้นคุณนี่คือ……”
มายมิ้นท์ถอนหายใจหนึ่งที “เรื่องถึงป่านนี้ ฉันก็ไม่ปกปิดคุณแล้ว ถึงยังไงช้าเร็วคุณก็ต้องรู้ ฉันตั้งครรภ์แล้ว”
“โอ๊ะ ตั้งครรภ์เหรอ ผมยังคิดว่า……” คำพูดพูดถึงที่นี่ อยู่ดีๆลาเต้มีปฏิกิริยาขึ้นมา ไม่ใช่ ตาเบิกโพลงมาก เสียงสูง “อะไร คุณตั้งครรภ์แล้วเหรอ?”
มายมิ้นท์พยักหน้าต่อๆกัน อืม เสียงหนึ่ง
ลาเต้สตันท์ไปเลย นานมากจึงหาเสียงกลับมา ถามอย่างเสียงแหบว่า “นานขนาดไหนแล้ว?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...