ดังนั้นคนที่ผิดคือใคร มองดูครั้งเดียวก็รู้
จะต้องให้เปปเปอร์รับผิดชอบมายมิ้นท์ให้ได้ เรื่องอะไรจะให้มายมิ้นท์ทุกข์ทรมานคนเดียว !
ขณะที่คิด ทามทอยก็โทรศัพท์หาเปปเปอร์ด้วยสีหน้าที่เย็นชา
ในเวลานี้เปปเปอร์กำลังขับรถอยู่ เตรียมที่จะส่งส้มเปรี้ยวกลับไปยังตระกูลภักดีพิศุทธิ์
เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาก็ใส่หูฟังบลูทูธ“ใคร?”
“ผมเอง!”ทามทอยตอบอย่างเสียงดัง
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว“มีเรื่องอะไร?”
ขณะที่ทามทอยกำลังจะเอ่ยปาก จู่ๆก็ได้ยินเสียงออดอ้อนดังออกมาจากข้างกายเขา“เปปเปอร์ ใครเหรอ?”
“เปปเปอร์ ส้มเปรี้ยวอยู่ข้างๆคุณเหรอ?”ทามทอยถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
หางตาของเปปเปอร์มองไปยังส้มเปรี้ยวที่นั่งอยู่บริเวณเบาะข้างคนขับ พร้อมอึมอย่างราบเฉย
“งั้นก็ช่างเถอะ อีกสักพักค่อยคุยก็แล้วกัน รอส้มเปรี้ยวไม่อยู่แล้ว คุณก็โทรหาผมแล้วกันนะ”
เมื่อพูดจบ ทามทอยก็วางสายโทรศัพท์ลง
เปปเปอร์หรี่ตาลง
จู่ๆทามทอยก็โทรศัพท์มาหา เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับเขา แต่กลับหลบหลีกส้มเปรี้ยว
ดูเหมือนว่าเรื่องที่ต้องการพูดนี้ ถ้าไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจก็คงเกี่ยวกับมายมิ้นท์
“เปปเปอร์ เมื่อกี้นี้ใครโทรมาเหรอคะ?”เมื่อส้มเปรี้ยวเห็นชายหนุ่มก้มหน้าไม่พูดไม่จาจึงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจหนึ่งประโยค
แววตาของชายหนุ่มกระพริบเล็กน้อย“ทามทอย โทรหาผมเพื่อคุยธุระทางธุรกิจ”
“อ่อ”ส้มเปรี้ยวพยักหน้า ไม่ได้สงสัยอะไร“ใช่แล้ว เปปเปอร์ อีกไม่กี่วันจะมีการประมูลการกุศุลคุณจะไปไหมคะ?”
“แน่นอนท่านธนวัฒน์เป็นเพื่อนสนิทของคุณปู่ ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ร่างกายของคุณย่ายังฟื้นฟูได้ไม่ค่อยดีนักไม่สามารถไปได้ ผมต้องไปแทนหล่อน”เปปเปอร์หมุนทิศทางพวงมาลัยพลางตอบกลับ
ส้มเปรี้ยวปรบมือ“ดีจังเลยค่ะ ถึงเวลานั้นฉันก็จะไปกับคุณพ่อคุณแม่เหมือนกันค่ะ แต่ว่าฉันยังไม่มีชุดราตรีเลย เปปเปอร์พรุ่งนี้คุณไปเป็นเพื่อนฉันซื้อชุดราตรีหน่อยได้ไหมคะ?”
หล่อนมองไปที่เขาอย่างมีความหวัง
สายตาของเปปเปอร์เผยความรู้สึกขอโทษออกมา“ต้องขอโทษด้วยนะครับส้มเปรี้ยว พรุ่งนี้มีนักลงทุนมาจากต่างประเทศ ผมไม่สามารถไปเป็นเพื่อนคุณได้ เดี๋ยวผมจะให้เลขาไปเป็นเพื่อนคุณสองคนนะครับ ”
“ไม่ต้องค่ะ”ส้มเปรี้ยวก้มหน้าอย่างไม่พอใจเล็กน้อย“ฉันให้ผิงไปเป็นเพื่อนฉันก็ได้ค่ะ”
ไม่นานก็มาถึงตระกูลภักดีพิศุทธิ์
เปปเปอร์จำได้ว่าต้องโทรกลับหาทามทอย จึงปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารเย็นที่คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เชื้อเชิญ ขับรถกลับบริษัทตระกูลนวบดินทร์
เมื่อเข้าไปในห้องทำงาน เขาถอดเนคไท้พลางหยิบโทรศัพท์ออกมา และโทรศัพท์กลับหาทามทอย
ทามทอยตั้งตารอโทรศัพท์ของเขา เมื่อเห็นโทรศัพท์ดังขึ้น ก็รีบรับสาย“ส้มเปรี้ยวไปแล้วเหรอครับ?”
เปปเปอร์ อึม หนึ่งที“คุณอยากจะคุยอะไรกันแน่?”
“ผมอยากจะบอกคุณเรื่องที่มายมิ้นท์ท้อง”ทามทอยตอบกลับ
เปปเปอร์หรี่ตาครู่หนึ่ง
ที่แท้ที่หลบหลีกส้มเปรี้ยว ไม่ใช่เรื่องธุรกิจแต่ต้องการพูดเรื่องมายมิ้นท์
“มายมิ้นท์เป็นอะไรเหรอครับ?”เปปเปอร์เม้มริมฝีปากพลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม น้ำเสียงเผยความเป็นห่วงออกมา
ทามทอยฟังออก แต่ไม่เปิดโปง ทำทีเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ตอนนี้เปปเปอร์ยังไม่กระจ่างชัดถึงความรู้สึกที่ตนมีต่อมายมิ้นท์
หากเขาเปิดโปงว่าเปปเปอร์เป็นห่วงมายมิ้นท์มาก เดี๋ยวเปปเปอร์อาจจะรู้ถึงความรู้สึกที่ตนมีต่อมายมิ้นท์เร็วขึ้น
เมื่อถึงเวลานั้น หนทางในการจีบมายมิ้นท์ของเขาก็จะเจออุปสรรคไม่น้อยเลย
“เธอไม่ได้เป็นอะไร แต่เธอวางแผนจะทำแท้ง”ทามทอยตอบพลางนอนอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์
สีหน้าของเปปเปอร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย“เอาเด็กออก?”
“ใช่แล้ว”
“คุณรู้ได้ยังไง?”มือของเปปเปอร์กำโทรศัพท์แน่นมาก
ทามทอยยักไหล่“แน่นอนว่าเธอบอกผมกับปากของเธอเอง”
บอกด้วยปากของเธอเอง……
ริมฝีปากของเปปเปอร์เม้มจนเป็นเส้นตรง สีหน้าไม่ค่อยดีนัก ในใจมีความรู้สึกโกรธและหงุดหงิดประทุขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เขาเป็นพ่อของเด็กแท้ๆ สุดท้ายแล้วลูกของตนจะอยู่หรือตายก็ต้องมาได้ยินจากปากของคนอื่น
“เปปเปอร์ คุณยังอยู่ไหม?”เมื่อทามทอยพบว่าคู่สนทนาไม่มีการตอบกลับ จึงเอ่ยปากตะโกนขึ้นมาหนึ่งประโยค
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...