มายมิ้นท์ลูบท้องตัวเอง ขณะที่ใบหน้าเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา
เปปเปอร์ที่เห็นก็นัยน์ตาหม่นหมอง
เธอมองดูราวกับไม่ได้รังเกียจเด็กที่อยู่ในท้องนั่นเป็นพิเศษ
แต่ทำไม...
“แม่ครับ” ความรู้สึกนึกคิดของเปปเปอร์ถูกไมโลขัดจังหวะ
ไมโลแกว่งแขนของมายมิ้นท์ไปมา และฟ้องอีกว่า “พ่อรังแกผม”
มายมิ้นท์ได้สติกลับมา มองไปที่ไมโล “อา...คุณพ่อรังแกลูกอย่างไรจ๊ะ”
อันตรายจริงๆ เกือบจะความลับแตกแล้ว
โชคดีที่เปลี่ยนคำพูดได้ทันเวลา
“พ่อบีบแก้มผม” ไมโลชี้ใบหน้าตัวเอง ทว่าสายตากลับมองไปทางเปปเปอร์อย่างได้ใจ
เปปเปอร์สีหน้าทะมึน
“แม่ดูหน่อย” มายมิ้นท์ไม่ได้สังเกตเห็นถึงการแข่งขันระหว่างคนตัวโตกับคนตัวเล็ก ก้มหน้าพิจารณามองใบหน้าของเด็กน้อยอย่างจริงจัง
เมื่อเห็นรอยแดงบนใบหน้าของเด็กน้อย ก็ขมวดคิ้วทันที “เปปเปอร์ ไมโลยังเด็ก ทำไมคุณถึงได้ลงมืออย่างไม่มีขอบเขตแบบนี้?”
เธอตำหนิเปปเปอร์ พลางกอดไมโลด้วยความสงสาร
ไมโลยิ่งได้ใจ เชิดคางยั่วยุใส่เปปเปอร์
เปปเปอร์โกรธจนริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง
เด็กผีนี่น่ารังเกียจจริงๆ
ยังมีมายมิ้นท์ ถึงกับถามคำถามเชิงตำหนิเขาเพื่อเด็กผีนี่ เธอคิดว่าตัวเองเป็นแม่ของเด็กผีนี่จริงๆหรือ
“ความสัมพันธ์ในครอบครัวพวกคุณดีจริงๆ” ไม่รอให้เปปเปอร์ตอบกลับ พี่สาวคนเมื่อครู่ก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
มายมิ้นท์ตะลึง “ความสัมพันธ์ดี?”
นี่ทุกคนมองจากตรงไหนกันว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดี
เปปเปอร์ก็ประหลาดใจมากเช่นกัน
พี่สาวหัวเราะเหอๆ “ปกติภายในครอบครัว ลูกชายกับคุณพ่อมักจะรู้สึกขัดตาซึ่งกันและกันอยู่บ้าง หลังจากนั้นในตอนนี้ ลูกชายก็จะฟ้องคุณแม่ คุณแม่ก็จะตำหนิคุณพ่อ ก็เหมือนกับพวกคุณเมื่อครู่นี้ แม้ว่าจะดูแล้วเหมือนทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่ความจริงแล้วความสัมพันธ์ดีมาก”
“เป็น...เป็นแบบนี้เอง” มายมิ้นท์มุมปากกระตุก
อย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่า การที่เธอไม่อาจทนดูเปปเปอร์รังแกเด็กคนหนึ่งได้
จะกลายเป็นความสัมพันธ์อันดีจากปากของพี่สาวไปเสียอย่างนั้น
เปปเปอร์เหลือบตามองสีหน้าท่าทางหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออกของมายมิ้นท์แล้ว อารมณ์ก็ดีขึ้นมาพอสมควร เผยอริมฝีปากบางตอบกลับว่า “ขอบคุณคำชมของพี่สาวครับ”
“ไม่ต้องๆ ฉันก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ต้องเอ่ยขอบคุณเสียที่ไหนกัน” พี่สาวโบกมือไปมา
ตอนนี้เองที่พิธีกร หรือก็คือผู้จัดการคนเมื่อครู่นี้เดินเข้ามา “คุณพ่อคุณแม่และเจ้าตัวน้อยทุกท่าน เกมส์กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว เชิญไปนั่งยังตำแหน่งที่นั่งทางด้านนั้นให้เรียบร้อยครับ”
เขาชี้นิ้วไปยังโซฟาห้าตัวที่มีหมายเลข 12345 ที่อยู่ไม่ไกล
มายมิ้นท์ก้มหน้ามองหมายเลข 5 ที่แปะอยู่บริเวณเอว ก็เข้าใจว่าให้พวกเขาไปนั่งตามหมายเลข
ที่เอวของเปปเปอร์ก็มีหมายเลขแปะอยู่เช่นกัน หลังจากเข้าใจจุดนี้แล้ว ก็เอ่ยกับมายมิ้นท์และไมโลว่า “ไปเถอะ”
มายมิ้นท์ตอบอืม ขณะที่กำลังจะจูงมือไมโล
ก็เห็นไมโลถูกเปปเปอร์อุ้มขึ้นมา ให้ไมโลนั่งอยู่บนแขนขวาของเขา
“คุณ...” มายมิ้นท์ตะลึง
เปปเปอร์มองเธอ “ทำไมหรือ”
“คุณไม่ได้เป็นโรครักความสะอาดหรอกหรือ” มายมิ้นท์มองชุดสูทบนร่างเขาที่ถูกรองเท้าของไมโลถูจนมีฝุ่นเล็กน้อย พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ
เมื่อได้ยินวาจานี้ ริมฝีปากบางของเปปเปอร์ก็ยกโค้งเล็กน้อย และถามกลับโดยไม่ตอบว่า “คุณจำได้ด้วยหรือว่าผมเป็นโรครักความสะอาด”
เขานึกว่าหลังจากหย่ากันแล้ว เธอจะลืมไปหมดแล้วเสียอีก
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดง น้ำเสียงเฉยชาขึ้นมาก “แน่นอน ฉันไม่ได้ความจำเสื่อม จะไปลืมได้อย่างไรกัน”
เพียงแต่ไม่ได้รักแล้วเท่านั้นเอง
แต่ไม่ได้รัก ก็ไม่ได้แสดงว่าจะลืมในสิ่งที่เข้าใจเกี่ยวกับตัวเขาเมื่อก่อนไปด้วย
เปปเปอร์ไม่รู้ความคิดที่อยู่ในใจของมายมิ้นท์ เมื่อได้ยินว่าเธอไม่ได้ลืม หัวใจก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากนั้น เขาก็ยื่นมือไปทางเธอ
มายมิ้นท์มองมือข้างนั้นของเขาอย่างสงสัย “ทำอะไรน่ะ”
“พ่อแม่คู่อื่นล้วนจูงมือกันเดินไป” เปปเปอร์เอ่ยเตือน
มายมิ้นท์มองไปทางพ่อแม่เหล่านั้น เป็นอย่างที่เขาพูดเอาไว้จริงๆ มือล้วนจับจูงกันอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...