เปปเปอร์กำหมัดแน่นขึ้นกว่าเดิม “ทำไม”
มายมิ้นท์มองเขาแปลกๆครู่หนึ่ง “ทำไมอะไรกัน เดิมเด็กคนนี้ก็เป็นสิ่งมาอย่างไม่คาดคิด ฉันไม่ได้รักเขา อีกอย่างพ่อผู้ให้กำเนิดเขาก็ไม่ได้วางแผนยอมรับเขา ฉันจะเก็บไว้ทำไม”
แม้ว่ามายมิ้นท์จะรู้ว่าคำพูดนี้ของตัวเองไร้ความปราณี แต่ไหนเลยจะไม่ใช่การแสดงออกถึงความรับผิดชอบ
ไม่อย่างนั้นเด็กที่พ่อไม่ยอมรับ แม่ก็ไม่รักคนหนึ่ง จะน่าสงสารมากเพียงใด
เปปเปอร์เม้มริมฝีปาก “ถ้าหากว่าพ่อแท้ๆของเด็กคนนี้ยอมรับเขา คุณจะ...คลอดเขาออกมาไหม”
“หือ” มายมิ้นท์ตะลึงค้างไปครู่หนึ่ง
เปปเปอร์ถึงได้รู้สึกตัวขึ้นมาว่า ตัวเองพูดมากเกินไปแล้ว ทำให้เธอเกิดความสงสัยขึ้นได้ง่าย แววตาก็หนักอึ้ง รีบเอ่ยต่อว่า “ไม่มีอะไร ผมก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง”
มายมิ้นท์เสยผมอย่างไม่ได้คิดอะไรมาก “แน่นอนว่าไม่”
เปปเปอร์ขมวดคิ้ว
นี่เธอไม่ยินยอมจะคลอด?
คล้ายกับมองออกว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ มายมิ้นท์หลุบตาลงเอ่ยเสียงเรียบว่า “อาศัยอะไรให้ฉันคลอดลูกที่ฉันไม่รัก ให้ชายหนุ่มที่ฉันไม่รู้จักคนหนึ่ง”
เปปเปอร์หมดคำจะพูด
ใช่แล้ว เธอไม่รู้ว่าคนในคืนวันนั้นเป็นเขา
ดังนั้น เธออาศัยอะไรมาคลอด
เกรงว่า ถึงเธอจะรู้ว่าเป็นเขา เธอก็ไม่คลอดเช่นกัน
เธอพูดแล้วว่า จะไม่คลอดลูกให้กับคนที่ไม่ได้รัก และเขาในตอนนี้ก็เป็นคนที่เธอไม่รักคนนั้น
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เปปเปอร์ก็เม้มปากแน่น ในใจไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
จู่ๆเขาก็อยากถามเธอมากว่า ทำไมเธอถึงไม่รัก
ก็รักมาแล้วหกปีไม่ใช่หรือ สุดท้ายภายในระยะเวลาสั้นๆสองเดือน บอกว่าไม่รักก็ไม่รักแล้ว ปล่อยวางได้โดยสิ้นเชิง
เขาถึงกับสงสัยว่า เธอเคยรักเขาจริงๆหรือไม่กันแน่ หรือว่าเพียงแค่หยอกเขาเล่นเท่านั้น?
ในตอนที่ความคิดในการถามมายมิ้นท์ของเปปเปอร์รุนแรงขึ้น รุนแรงจนถึงขั้นจะอ้าปากถาม เสียงของผู้จัดการก็ดังขึ้นกะทันหัน “ตอนนี้ เชิญคุณพ่อคุณแม่ทั้งสี่ท่านมัดเชือกให้เรียบร้อย เกมส์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วครับ”
ทันใดนั้น เปปเปอร์ก็รู้สึกเหมือนถูกน้ำเย็นกะละมังหนึ่งราดลงบนร่าง ดับความหุนหันพลันแล่นทั้งหมดของเขาไป
เขามองผู้จัดการด้วยสายตาโกรธขึ้ง สีหน้าบิดเบี้ยวไม่น่ามอง
มายมิ้นท์เห็นเขาถือเชือกแดงเอาไว้รีรอไม่ยอมขยับ กลับมองไปทางผู้จัดการด้วยสีหน้าโมโห ก็รู้สึกมึนงงขึ้นมา
ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรไปอีก
เป็นพวกอารมณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ!
“ประธานเปปเปอร์ ส่งเชือกให้ฉัน ฉันมัดเอง” มายมิ้นท์ยื่นมือไปทางเปปเปอร์
เปปเปอร์ถอนสายตากลับมาจากผู้จัดการ มองมาทางเธอ
มองเสื้อผ้าที่เธอสวมแล้วก็ขมวดคิ้ว “ไม่ต้อง คุณไม่สะดวกที่จะก้มตัว ผมเอง”
พูดแล้ว เขาก็ย่อตัวลง เริ่มมัดเชือก
มายมิ้นท์ก้มหน้ามองตามสายตาที่เขามองตัวเองเมื่อครู่ มองเสื้อคอวีของตัวเองแล้วหน้าก็แดงระเรื่ออย่างอดมิได้
เธอยังคิดไม่ถึงเลยว่าเสื้อผ้าของตัวเองไม่เหมาะสมที่จะย่อตัวลง คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะคิดถึงจุดนี้
มองไม่ออกเลยว่า เขาก็มีด้านที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ด้วย
มายมิ้นท์มองศีรษะของชายหนุ่มด้วยแววตาซับซ้อนเล็กน้อย
ชายหนุ่มที่กำลังผูกเชือกรู้สึกได้ถึงสายตาเหนือศีรษะจึงเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นมายมิ้นท์จ้องมาที่ตัวเองอย่างเหม่อลอย เขาหรี่ตาลง “ทำไมหรือ”
“ไม่มีอะไร” มายมิ้นท์กวาดตามอง และเบนสายตาจากไป
เมื่อเห็นเธอไม่ยอมพูด เปปเปอร์ก็นัยน์ตาหม่นลง และไม่ได้ฝืนให้เธอพูด เขาลุกขึ้น “โอเค เรียบร้อยแล้ว ขยับดูเล็กน้อย ลองดูว่าความแน่นเท่านี้เหมาะสมหรือไม่”
มายมิ้นท์ส่งเสียงอืม ขยับน่องไปมาเล็กน้อยอย่างเชื่อฟัง
เนื่องจากน่องของเธอกับเปปเปอร์ถูกมัดอยู่ด้วยกัน
เมื่อเธอขยับ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูถูกน่องของเปปเปอร์เป็นธรรมดา
เปปเปอร์รู้สึกได้ถึงความรู้สึกคันยุบยิบเล็กน้อยที่ส่งผ่านมาจากน่อง ลูกกระเดือกขยับไปมา พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ลองเสร็จแล้วหรือยัง”
มายมิ้นท์ที่ตั้งใจปรับตัวให้ชินกับเชือกบนน่อง ก็ไม่ได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเขา พยักหน้าตอบคำถามว่า “เรียบร้อยแล้ว ใช้ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...