รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 205

“ไม่จำเป็นต้องทำให้ยุ่งยากขนาดนั้นหรอกครับ ผมมีไอเดีย”ลาเต้ยิ้ม

มายมิ้นท์มองไปที่เขา“ไอเดียอะไรเหรอคะ?”

“คุณลืมไปแล้วเหรอครับว่า สองเดือนก่อนคุณได้นำดวงใจสีครามและแหวนแต่งงานของคุณมาให้ผม ให้ผมช่วยขายให้ หรือไม่ก็บริจาค ผมยังไม่ขายเลยครับ คุณบริจาคสองชิ้นนี้ก็ได้แล้วครับ”ลาเต้เผยมืออก

มายมิ้นท์เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ“คุณยังไม่ได้ขาย”

“ใช่ครับ”ลาเต้พยักหน้า“ดวงใจสีครามราคาสูงเกินไป นี่ก็เป็นสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ซื้อไม่ไหว อีกอย่างคนก็ต่างรู้ว่าดวงใจสีครามเป็นของเปปเปอร์ หากซื้อไปก็กลัวที่จะล่วงเกินเปปเปอร์ ดังนั้นก็เลยขายไม่ออก แล้วนับประสาอะไรกับแหวนแต่งงานของคุณ”

เขามองไปที่เธอ“เดิมทีผมวางแผนว่าหากดวงใจสีครามขายได้แล้ว ค่อยขายแหวนแต่งงานของคุณ ใครจะไปรู้ว่าดวงใจสีครามจะขายไม่ได้ ก็เลยยังคงอยู่กระทั่งวันนี้”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”มายมิ้นท์เงยคางขึ้นอย่างฉับพลัน“ถ้างั้นตอนนี้แหวนอยู่ที่ไหนคะ?”

“อยู่บ้านผมครับ คุณแพลนที่จะบริจาคแหวนแต่งงาน?”ลาเต้ถาม

มายมิ้นท์อึมหนึ่งที“เมื่อกี้คุณก็เพิ่งพูดว่า ราคาของดวงใจสีครามแพงเกินไป แม้ว่าฉันจะบริจาค ก็ใช่ว่าจะมีคนซื้อ อีกอย่างเปปเปอร์ก็คงจะปรากฎตัวในงานประมูล หากคนพวกนั้นกล้าซื้อดวงใจสีคราม ก็คงจะเป็นเพราะไว้หน้าเปปเปอร์?ดังนั้นบริจาคแหวนน่าจะดีกว่า ราคาประมาณแสนกว่าหยวน”

“ที่คุณพูดก็ถูก งั้นก็รอให้คุณผ่าตัดเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยนำแหวนไปบริจาคในนามของคุณ”ลาเต้ลูบคางพลางถามขึ้น

ช่วงบ่าย หลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ทั้งสองก็ออกไปโรงพยาบาล

เมื่อถึงหน้าประตูทางเข้าของโรงพยาบาล ขณะที่มายมิ้นท์เพิ่งลงจากรถ ทามทอยก็โบกมือ

ลาเต้จงใจเบิกตากว้างมองเขา“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”

“ผมมาเป็นเพื่อนมายมิ้นท์ผ่าตัดครับ”ทามทอยทำทีไม่เห็นว่าล้าเต้จะไม่ต้อนรับเขา ยิ้มระรื่นพลางพูดขึ้น

ลาเต้เหลือบตามองอย่างรังเกียจ พลางมองไปยังมายมิ้นท์“ที่รัก แม้แต่เรื่องนี้คุณก็บอกเขาเหรอครับ?”

“พอดีเขาถาม ฉันก็เลยบอกไปค่ะ”มายมิ้นท์ยิ้ม

สีหน้าของลาเต้รู้สึกน้อยใจ“ที่รัก ไหนคุยกันแล้วว่าจะให้ผมไปเป็นเพื่อนคุณคนเดียวไงครับ”

“อ่า?พูดกันเมื่อไหร่เหรอคะ?”สีหน้าของมายมิ้นท์งงงวย

ทามทอยหัวเราะฮ่าๆๆ“เพื่อน ได้ยินแล้วใช่ไหมว่า มายมิ้นท์ไม่ทราบว่าคุยกับคุณไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ดังนั้นคุณก็อย่าได้ถือสาเลย อีกอย่างคนเพิ่มมาคนหนึ่งแรงก็มากขึ้น หากมายมิ้นท์ผ่าตัดออกมาแล้ว ต้องการหยิบยา ก็ยังมีอีกคนดูแลอยู่ที่ห้องผู้ป่วยคอยดูแลเธอ”

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ ลาเต้ก็รู้สึกว่าถูกต้องมีเหตุผล

แม้ว่าจะไม่ชอบให้มีคนเพิ่มมากอีกคนหนึ่ง แต่เพื่อมายมิ้นท์ จึงไม่ปฏิเสธอีก

ทามทอยถอนหายใจเล็กน้อย

ดีที่เขาแสดงเก่ง จึงไม่ได้เผยความรู้สึกที่มีต่อมายมิ้นท์ออกมา เพราะหากถูกลาเต้ดูออก ก็คงต้องถูกไล่ออกมาเป็นแน่

เพราะถึงยังไงลาเต้ก็มีใจให้กับมายมิ้นท์ แต่มายมิ้นท์ยังคงไม่รู้เรื่อง คิดว่าลาเต้คิดกับเธอแบบเพื่อนสนิทจริงๆ

เฮ้อ ศัตรูเยอะเยอะเกินไป ก็ยิ่งปวดหัว

ทามทอยยิ้มอย่างขมขื่น แต่แววตากลับยืนหยัดแน่วแน่

ไม่ว่าจะมีศัตรูมากมายแค่ไหน เขาก็จะไม่ยอมแพ้ ไม่ง่ายเลยที่จะหลงรักผู้หญิงสักคน ยังไงก็ต้องช่วงชิงให้ถึงที่สุด

“พอได้แล้วค่ะ พวกเราเข้าไปข้างในก่อนเถอะ”มายมิ้นท์มองดูเวลา ใกล้จะบ่ายสองแล้ว จึงพูดกับเขาทั้งสอง

ผู้ชายทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน“งั้นก็เข้าไปเถอะ”

เมื่อพูดจบ คนทั้งสามก็เข้าไปที่โรงพยาบาล

และริมถนนที่อยู่ไม่ไกลนัก ภายในรถเก๋งสีดำ สายตาหม่นหมองของเปปเปอร์มองไปยังเงาหลังของทั้งสาม ใบหน้าเย็นชาจนทำให้คนไม่กล้าสบตา

การผ่าตัดครั้งเดียว กลับมีชายถึงสองคนมาเป็นเพื่อน

มายมิ้นท์ คุณนี่ไม่ธรรมดาเลย!

มือขนาดใหญ่ของเปปเปอร์ที่วางอยู่ตรงหน้าขากำแน่น จนเส้นเอ็นสีเขียวบริเวณหลังมือนูนออกมา

ผู้ช่วยเหมันตร์ที่นั่งอยู่เบาะคนขับมองเห็นท่าทีโมโหของเขาผ่านกระจกหลังรถ จึงส่ายหัวอย่างจนปัญญา

เขาพูดได้เพียงว่า สมน้ำหน้าประธานเปปเปอร์ ตอนที่มีคุณมายมิ้นท์อยู่ข้างกายกลับไม่ทะนุถนอม เย็นชากับทุกคนแม้แต่เขาที่เป็นคนนอกก็แทบจะทนมองไม่ไหว ตอนนี้แยกจากกันแล้ว กลับรู้สึกหึงหวงอยู่ทุกวี่วัน จำเป็นด้วยเหรอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว