รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 225

พิศมัยไหนเลยจะสามารถสู้กับมายมิ้นท์ที่มีอาวุธยู่ในมือได้ ไม่นานก็ถูกตีจนเธอต้องหลบหนีไปทั่วทุกที่อย่างรวดเร็ว

มายมิ้นท์ไม่ได้ยั้งมือเพราะสาเหตุนี้ แต่กลับตีแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเธอต้องการระบายความไม่เป็นธรรมที่ได้รับจาก พิศมัยในช่วงหกปีที่ผ่านมาออกมาอย่างไรอย่างนั้น

เธอดึงไปพลาง และยังยิ้มเยาะเย้ยไปพลาง แล้วพูดว่า “ตบคุณแล้วยังไง ใครเป็นคนกำหนดว่าฉันไม่สามารถตบคุณได้? คุณคิดว่าคุณยังเป็นแม่สามีของฉันอยู่เหรอคะ? ฉันจะบอกคุณเอาไว้เลยนะ ตอนนี้คุณไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น คุณมันก็แค่ผู้หญิงบ้าๆคนหนึ่ง และฉันก็แค่ตบผู้หญิงบ้าเท่านั้นเอง”

“แก...แก...” พิศมัยโมโหจนตัวสั่นไปทั้งตัว

พอเธอหยุดชะงักลงอย่างนี้ ไม้ขนไก่ของมายมิ้นท์ก็ตีไปบนน่องขาของเธอจนทำให้เธอกระโดดขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด

ในท้ายที่สุด พิศมัยถูกตีจนกลัวไปหมดแล้ว เธอจึงตะโกนให้หยุดมืออย่างไม่หยุดยั้ง

มายมิ้นท์ก็เหนื่อยบ้างแล้วเช่นกัน เมื่อเห็นว่าพิศมัยถูกตัวเองตีจนมีสภาพกระเซอะกระเซิงไปทั้งตัว ก็รู้ว่าตีมากพอแล้ว ไม่สามารถตีได้อีกต่อไปแล้ว ก็เลยถือโอกาสหยุดมือ แล้วค้ำตู้รองเท้าเพื่อพักหายใจเล็กน้อย

พิศมัยคิดไม่ถึงเลยว่ามายมิ้นท์ในตอนนี้จะไม่ควรเข้าไปยั่วโมโหได้ถึงขนาดนี้ และกล้าลงมือเสียแล้ว แล้วก็ยังเสียใจเล็กน้อยอยู่พักหนึ่งว่าทำไมตัวเองถึงต้องมาที่นี่ด้วย

ในขณะนั้นเอง ลิฟต์ตรงทางเดินก็เปิดขึ้นพร้อมกับเสียงดังติ๊ง

เมื่อปีโป้ออกมาจากในลิฟต์ ก็เห็นมายมิ้นท์กับพิศมัยที่อยู่หน้าประตู ดวงตาของเขาจึงเปล่งประกายขึ้นมา แล้วรีบตะโกนว่า “พี่มายมิ้นท์ แม่”

มายมิ้นท์กวาดสายตามองเขาด้วยสายตาที่เมินเฉย และขี้เกียจไปสนใจเขา

แต่พิศมัยก็อิจฉาริษยาเป็นอย่างยิ่ง

นี่คือลูกชายของเธอ คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่เขาเอ่ยปากเรียกก่อนจะไม่ใช่แม่คนนี้อย่างเธอ

แต่เป็นมายมิ้นท์ผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้น เธอโกรธเขามากจริงๆ

“แม่ ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าแม่ไม่ต้องมาที่นี่? แม่......”

หลังจากที่พูดมาถึงครึ่งทางแล้ว สุดท้ายปีโป้ก็พบความผิดปกติของพิศมัยจึงถามด้วยความประหลาดใจว่า “เกิดอะไรขึ้นกับหน้าของแม่? ทำไมถึงได้บวมอย่างนี้ล่ะ?”

พิศมัยตอบกลับด้วยสีหน้าที่บูดบึ้งว่า “ก็แม่ถูกมันตบเข้าแล้วน่ะสิ มันไม่เพียงแต่ตบหน้าแม่ มันยังใช้ไม่ขนไก่ตีแม่อีก ลูกดูบาดแผลที่อยู่บนร่างกายแม่สิ”

เธอถลกแขนเสื้อขึ้นเพื่อให้เขาดูรอยฟกช้ำที่อยู่บนแขน ทีละรอยๆ ซึ่งดูน่าตื่นตลึงเป็นอย่างมาก

ปีโป้เบิกตาโพลงโต และมองไปยังผู้หญิงพิงตู้รองเท้าอยู่ด้วยความเกียจคร้านอย่างไม่อยากจะเชื่อ “พี่มายมิ้นท์ พี่......พี่ตบแม่ผมจริงๆเหรอ?”

“ตบจริงๆหมายความว่ายังไง ก็มันตบฉันมาแล้วนี่ไง!” ไม่รอให้มายมิ้นท์ตอบกลับมา พิศมัยก็พูดขึ้นมาก่อนด้วยความไม่พอใจ

ปีโป้ไม่ได้สนใจเธอ ยังคงมองมายมิ้นท์ “พี่มายมิ้นท์ ทำไมพี่ต้องตบตีแม่ผมด้วย?”

มายมิ้นท์ดีดเล็บไปมา พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและไม่แยแสว่า “ทำไม ใครเป็นคนกำหนดว่าแม่ของนายตบฉัน แล้วฉันจะตบแม่นายคืนไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?”

“ตบคืนเหรอ?” ปีโป้ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงมองไปที่พิศมัย แล้วถามว่า “แม่ แม่ตบพี่มายมิ้นท์ก่อนอย่างนั้นเหรอ?”

แววตาของพิศมัยแวววาวขึ้นมาด้วยความร้อนตัว หลังจากนั้นเธอก็ตอบเสียงดังขึ้นมาว่า “ตบแล้วยังไง มันทำให้พี่ชายของแกต้องเป็นแบบนี้ ฉันจะตบมันไม่ได้หรือไง? นอกจากนี้ ฉันก็ตบมันไปแล้วหนึ่งฉาด แต่ผลก็คือมันกลับไม่เป็นอะไรเลย มันไม่เพียงแต่จะตบแม่กลับ มันยังใช้ไม้ขนไก่ตีแม่ตั้งหลายที แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้หรอก ฉันจะต้องแจ้งตำรวจ ข้อหาที่มันจงใจทำร้ายฉันอย่างแน่นอน”

เธอชี้ไปตรงจมูกของมายมิ้นท์

ปีโป้กระวนกระวายใจ จึงรีบพูดกับมายมิ้นท์ว่า “พี่มายมิ้นท์ พี่รีบขอโทษแม่ผมเร็ว”

เขาไม่อยากให้มายมิ้นท์ติดคุก

มายมิ้นท์มองไปที่ปีโป้ด้วยสีหน้าที่มีเครื่องหมายคำถามสีดำขึ้นมาว่า “นายโง่ไปแล้วเหรอ ทำไมฉันต้องของโทษแม่นายด้วยล่ะ?”

ปีโป้กระทืบเท้าอย่างกระวนกระวายใจ แล้วพูดว่า “ถ้าพี่ไม่ขอโทษ แม่ผมก็จะแจ้งความจับพี่ ถึงเวลานั้นพี่ก็จะ......”

“หือ? สรุปว่านายเป็นห่วงฉันเหรอ?” มายมิ้นท์เลิกคิ้วขึ้นมา เขามองดูเด็กหนุ่มคนนี้อย่างขี้เล่น

เด็กหนุ่มหน้าแดง และสายตาของเขาก็เหม่อลอยไปที่อื่นด้วยความประหม่า “ใคร......ใครเป็นห่วงพี่กัน แต่อย่างไรก็ตามพี่รีบไปขอโทษแม่ผมเถอะ ไม่งั้นแม่ก็จะโทรแจ้งตำรวจจริงๆ”

มายมิ้นท์กอดแขนและถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า “นายคิดว่า ต่อให้ฉันขอโทษไปแล้ว แม่นายจะปล่อยฉันไปไหม?”

พิศมัยได้ยินดังนั้น ก็ทำเสียงหึหึอย่างภาคภูมิใจ แล้วพูว่า “ก็นับว่าหล่อนรู้จักเอาตัวรอดนะ!"

ปีโป้ตาค้าง ตอนนั้นเองเขาจึงได้เข้าใจอย่างชัดเจนว่าความคิดของตัวเองเมื่อสักครู่นั้นเรียบง่ายเพียงใด

ใช่แล้ว แม่เกลียดพี่มายมิ้นท์มากขนาดนั้น เธอจะล้มเลิกความคิดที่จะโทรหาตำรวจเพียงเพราะคำขอโทษของมายมิ้นท์ได้อย่างไรล่ะ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว