รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 318

เพราะว่าทนายความบอกเธอว่า แม้ว่าเธอจะอุทธรณ์ไปศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา ในท้ายที่สุดจะยึดเฉพาะการตัดสินของศาลชั้นต้นเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยื่นอุทธรณ์

“น่าโมโหจริงๆ!”ลาเต้กำหมัดต่อยที่นั่ง

ราเม็งไม่ได้พูดอะไรออกมา ก้มหน้าไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

มายมิ้นท์มองไปยังส้มเปรี้ยวที่ถูกนำตัวไป เยี่ยมบุญสองสามีภรรยาก็จากไปพร้อมกันด้วย

ราวกับรับรู้ได้ถึงสายตาของมายมิ้นท์ เยี่ยมบุญสองสามีภรรยาหันมามองที่เธอ พลางเผยรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ กระทั่งอยากจะเดินมายังเบื้องหน้าของมายมิ้นท์พลางหัวเราะอย่างมีความสุขใส่เธอ

หลายวันมานี้ เพราะรู้สึกว่าส้มเปรี้ยวจะต้องถูกขังคุก หล่อนตะลอนหาคนนั้นคนนี้ให้ช่วยเหลือ ไม่รู้ว่าถูกปิดประตูใส่และถูกดูถูกไปเท่าไหร่แล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมายมิ้นท์กับเปปเปอร์ เมื่อนึกถึงพวกเขาทั้งสองในหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ ที่มองหล่อนราวกับขยะ ในใจหล่อนโกรธจนแทบอยากจะบ้าตาย

แต่ว่าตอนนี้โล่งใจแล้ว คนที่ควรโกรธน่าจะเป็นมายมิ้นท์มากกว่า

ขณะที่คิด คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ลูบศีรษะของส้มเปรี้ยว พลางมองมาที่มายมิ้นท์แล้วยิ้มอย่างสะใจครู่หนึ่ง

มายมิ้นท์บีบฝ่ามือแน่น เหลือบตามองไปที่หล่อนสองทีอย่างเย็นชา สุดท้ายก็เคลื่อนสายตามองไปยังส้มเปรี้ยว

ส้มเปรี้ยวก้มหน้าลง เธอไม่เห็นอารมณ์ของส้มเปรี้ยวในตอนนี้ แต่ว่าคิดว่าส้มเปรี้ยวน่าจะได้ใจมากในตอนนี้

คนของตระกูลภักดีพิศุทธิ์ได้ออกจากศาลแล้ว แต่ว่ามายมิ้นท์ยังไม่ได้จากไป เพราะว่ายังมีการพิจารณาคดีของคอฟฟี่อีก

สำหรับเรื่องที่คอฟฟี่สาดน้ำกรด โทษนั้นรุนแรงกว่าส้มเปรี้ยว

เพราะว่าระหว่างการคิดร้ายของส้มเปรี้ยว มายมิ้นท์ยังไม่เคยปรากฏตัวเลย

แต่คอฟฟี่นั้นไม่เหมือนกัน เขาสาดน้ำกรดใส่มายมิ้นท์โดยตรง ดังนั้นผลการตัดสินคือต้องจำคุกเป็นเวลาสามปี

ส่วนชาวเน็ตที่ส่งพวงหรีดและมีด ก็ถูกควบคุมตัวและถูกวิพากษ์วิจารณ์

ส่วนพวกปล่อยข่าวและสื่อเหล่านั้นร้ายแรงที่สุด ความผิดของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงปล่อยข่าวลือให้มายมิ้นท์เสียหาย แต่ยังทำผิดในฐานอื่นด้วย ผลจะเป็นอย่างไรตอนนี้ไม่สามารถทราบได้ เพราะว่าจะต้องแยกออกจากเรื่องของมายมิ้นท์

มายมิ้นท์ก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ ขอเพียงแค่รู้ว่าพวกปล่อยข่าวและสื่อพวกนั้นไม่มีจุดจบที่ดีก็เพียงพอแล้ว

เมื่อออกจากศาล มายมิ้นท์เงยหน้ามองยังท้องฟ้าอึมครึม คาดว่าฝนน่าจะตก

ลาเต้ก็เงยหน้าขึ้นมา พลางพูดเย้นหยันว่า:“ผู้คนต่างพูดว่า หากชนะการพิจารณาคดีออกมาแล้วท้องฟ้าจะปลอดโปร่ง พวกเราชนะแล้วแต่กลับ ……”

“พี่ ไม่เป็นไรใช่ไหม?”ราเม็งมองมายมิ้นท์ด้วยความเป็นกังวล

มายมิ้นท์มุมปากกระตุก พยายามฝืนยิ้มออกมา “ไม่เป็นไร แม้ว่าผลจะไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิด แต่ว่าส้มเปรี้ยวก็คงไม่กล้าทำอะไรส่งเดช อย่างน้อยต่อไปหล่อนก็คงใช้ชีวิตหดหัวอยู่อย่างเงียบๆ ดังนั้นผลลัพธ์นี้ดีไม่น้อย”

ดูเหมือนว่าเธอจะเสแสร้งแกล้งทำเป็นว่าเป็นไร สายตาของลาเต้กับราเม็งประสานกันและไม่เปิดโปงเธอ

ผ่านไปไม่กี่วินาที จู่ๆลาเต้ก็เอ่ยปาก“งานเลี้ยงฉลองในคืนนี้ ก็ช่างมันเถอะ”

ราเม็งพยักหน้า ไม่ได้แย้ง

มายมิ้นท์อยากจะบอกว่าไม่ต้อง แต่ว่าคำพูดก็ติดอยู่ที่ปาก แต่กลับไม่พูดออกมา

เพราะว่าเธอพบว่า ตนก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับผลลัพธ์นี้สักเท่าไหร่

หากไม่สนใจแล้วทำไมถึงไม่มีอารมณ์แม้แต่จะจัดงานฉลองล่ะ

ทั้งสามเดินไปยังลานจอดรถอย่างเงียบๆ

เมื่อเดินถึงด้านหน้ารถ ก็มีนักข่าวคนหนึ่งพุ่งเข้ามาถามว่า

“คุณมายมิ้นท์ สำหรับคำตัดสินของส้มเปรี้ยว คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ?”

“ใช่แล้ว คุณมายมิ้นท์ แสดงทัศนะสักหน่อยเถอะค่ะ คุณพอใจหรือไม่?”

มายมิ้นท์ลดเปลือกตาลง ใบหน้าจิ้มลิ้มเย็นรู้สึกเย็นเล็กน้อย ไม่ได้สนใจนักข่าวเหล่านั้น

ราเม็งกับลาเต้ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่

ทั้งสองประคองเธอขึ้นรถ พลางขับไล่นักข่าวพวกนี้ออกไป

ใช้ความพยายามมหาศาล ในที่สุดทั้งสองก็สามารถออกจากวงล้อมของนักข่าวพวกนี้ได้ รีบขับรถออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

ระหว่างทาง ลาเต้มองผ่านกระจกหลังยังคงเห็นกลุ่มนักข่าวไล่ตามพวกเขาอยู่ จึงตบพวงมาลัยด้วยความโกรธพลางพูดขึ้นว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว