บทที่ 369 ไม่สามารถย้ายโรงพยาบาลได้ – ตอนที่ต้องอ่านของ รักหวานอมเปรี้ยว
ตอนนี้ของ รักหวานอมเปรี้ยว โดย สายฝน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 369 ไม่สามารถย้ายโรงพยาบาลได้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
เยี่ยมบุญจัดเนกไทครู่หนึ่ง “เรื่องแบบนี้ ให้คนใช้ไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำด้วยตนเองหรอก”
ขณะที่พูด เขาก็เรียกคนใช้มา
“คุณหนู เอาขยะมาให้ฉันเถอะค่ะ”คนใช้ยื่นมือให้กับชวนชม
ชวนชมอยู่ต่อหน้าเยี่ยมบุญปฏิเสธได้ยาก ทำได้เพียงยื่นถุงขยะออกไป
ขณะที่ปล่อยมือ เห็นได้ชัดว่าหล่อนไม่อยากให้เท่าไหร่
คนใช้จึงมองหล่อนด้วยความประหลาดใจหนึ่งที ไม่เข้าใจว่าก็แค่ถุงขยะถุงหนึ่ง ทำไมต้องอาลัยอาวรณ์
แต่ว่าคนใช้ก็ไม่ได้คิดมาก หิ้วถุงขยะแล้วออกไปข้างนอก
ชวนชมมองดูเงาหลังของคนใช้ สองมือบีบแน่น ราวกับกำลังกังวลอะไรอยู่
แต่ว่าไม่นานหล่อนก็คลายมือออก และปล่อยตัวตามสบาย
ช่างเถอะ ถึงยังไงที่ทิ้งขยะของตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็มีแค่ที่เดียว ไม่ว่าใครจะทิ้งของนั้น ผลออกมาก็ไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อคิดเช่นนี้ ชวนชมก็เผยรอยยิ้มที่มุมปากออกมา จากนั้นไม่นานท่าทางก็กลับสู่ภาวะปกติ มองไปยังเยี่ยมบุญพลางถามขึ้นว่า:“ใช่แล้วค่ะพี่ เดี๋ยวสักพักลูกจะไปเยี่ยมน้องที่โรงพยาบาลกับแม่ พ่อจะไปด้วยไหมคะ?”
เมื่อเยี่ยมบุญได้ยินคำพูดนี้ จู่ๆสีหน้าของเขาก็ขรึมลง “ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนของตระกูลภักดีพิศุทธิ์แล้ว มีอะไรต้องดูอีก ลูกก็บอกแม่เถอะว่าอย่าไปเลย”
“แม่ไม่ฟังลูกหรอกค่ะ เพราะถึงยังไงน้องสาวก็ใกล้จะเข้าไปอยู่ในคุกแล้ว แม่ต้องการถือโอกาสก่อนที่น้องจะเข้าไป ไปเยี่ยมน้องสักหน่อย ดังนั้น……”ชวนชมก้มหน้าลง สีหน้ากระอักกระอ่วนใจ
เยี่ยมบุญฮึออกมา“พ่อรู้แล้ว เดี๋ยวพ่อคุยกับแม่เอง”
แววตาของชวนชมเป็นประกาย“ขอบคุณมากค่ะพ่อ”
ดีจังเลย หล่อนไม่อยากไปเยี่ยมส้มเปรี้ยวเลยแม้แต่น้อย แต่แม่ก็จะไปให้ได้
ตอนนี้หากพ่อออกหน้า แม่ก็น่าจะล้มเลิกความคิด
……
โรงพยาบาล เปปเปอร์มองไปยังพยาบาลที่เข้ามาเปลี่ยนน้ำเกลือให้กับมายมิ้นท์“เมื่อไหร่เธอจะตื่นขึ้นมา?”
พยาบาลหยิบสมุดประวัติการรักษาของมายมิ้นท์ออกมาดู“ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดค่ะ ผู้ป่วยได้รับการกระทบกระเทือนในระดับปานกลาง ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนน่าจะฟื้นค่ะ”
พรุ่งนี้ มะรืนนี้……
ก็ไม่ถือว่านานมาก
เปปเปอร์รู้สึกวางใจ
เขาเกรงว่าจะต้องรอนานกว่าจะฟื้น
เพราะว่าหากนานกว่าจะฟื้น นั้นก็หมายความว่าอาการป่วยของเธอนั้นรุนแรง
หลังจากพยาบาลเปลี่ยนน้ำเกลือเสร็จก็ออกไป
เปปเปอร์มองไปยังการันต์“สถานการณ์เช่นนี้ของมายมิ้นท์ สามารถเคลื่อนย้ายได้ไหม?”
“เฮ้ คนสกุลตระกูลนวบดินทร์ คุณคิดจะทำอะไร?”ลาเต้ที่อยู่ข้างๆได้ยินคำพูดนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
การันต์ขยับแว่นตา“คุณต้องการให้เธอย้ายโรงพยาบาลงั้นเหรอ?”
เปปเปอร์พยักหน้า“ใช่ ย้ายไปโรงพยาบาลของคุณ สะดวกในการรักษา”
เพราะถึงยังไงโรงพยาบาลนิวเวอร์ของการันต์ ก็เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเดอะซี
อุปกรณ์ต่างๆในการรักษา ก็ดีที่สุด หากมายมิ้นท์ไปรักษาที่นั่น เขาก็วางใจไม่น้อย
จากนั้น การันต์ยังไม่ได้รับคำ ลาเต้จึงหัวเราะขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คนสกุลตระกูลนวบดินทร์ การที่คุณต้องการให้ที่รักย้ายโรงพยาบาลไม่ใช่เพราะความสะดวกในการรักษาหรอก แต่เป็นเพราะสะดวกที่คุณจะมาเยี่ยมเธอใช่ไหม?”
แววตาของเปปเปอร์เป็นประกาย จากนั้นมองไปยังลาเต้ พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“แล้วแต่คุณจะคิด แต่คุณคงปฏิเสธไม่ได้ว่า การย้ายโรงพยาบาลจะช่วยให้มายมิ้นท์ได้รับการรักษาที่ดีขึ้น”
คำพูดนี้ทำให้ลาเต้ชะงักลง ไม่สามารถคัดค้านได้
เป็นความจริงที่ แม้ว่าโรงพยาบาลแห่งนี้จะมีชื่อเสียงไม่น้อย แต่แน่นอนว่าคงสู้โรงพยาบาลของการันต์ไม่ได้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เพื่อที่รักแล้ว ย้ายโรงพยาบาลก็ย้ายเถอะ
ขณะที่คิด ลาเต้ก็พูดขึ้นอย่างประณีประนอม
ในเวลานี้ การันต์จึงเอ่ยปากขึ้นมาว่า“น่าเสียดายที่ต้องบอกทั้งสองท่านว่า ตอนนี้มายมิ้นท์ไม่เหมาะที่จะย้ายโรงพยาบาล”
“ทำไม?”เปปเปอร์ขมวดคิ้ว
ลาเต้ก็มองไปที่เขา
การันต์แบบมือพลางตอบกลับว่า:“เธอถูกตีที่หัวอย่างแรง ทางที่ดีอย่าขยับเขยื้อนน่าจะดีกว่า ไม่งั้นจะรุนแรงกว่านี้”
การันต์กับผู้ช่วยเหมันตร์ยังดีที่ไม่ได้คิดอะไร
เปปเปอร์มองไปยังประตูห้องพักผู้ป่วยที่ปิดแน่นด้วยสีหน้าที่เย็นชา คิดบัญชีไว้ในใจหนึ่งบัญชี
ระหว่างทางมายังโรงพยาบาลนิวเวอร์
เปปเปอร์กำลังดูวิดีโอกล้องวงจรปิดที่ผู้ช่วยเหมันตร์ส่งมาให้ เป็นช่วงเวลาที่มายมิ้นท์ถูกทำร้าย
มองดูคนที่ไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ยกไม้กระบองตีศีรษะของมายมิ้นท์ เปปเปอร์รู้เพียงว่าหัวใจของตนเองก็รู้สึกหวาดหวั่นตามไปด้วย
ตีครั้งเดียวก็สามารถทำให้คนคนหนึ่งสลบได้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า น้ำหนักมือของคนคนนั้นมากมายขนาดไหน
อีกทั้งในตอนนั้นมายมิ้นท์เจ็บขนาดไหน!
เปปเปอร์บีบโทรศัพท์แน่นราวกับจะระเบิด ใบหน้ามืดมนเป็นอย่างมาก
การันต์ที่นั่งอยู่เบาะคนขับหันลำตัวมา“ให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?ในฐานะที่เป็นหมอ เข้าใจสรีระของคนเป็นอย่างดี ไม่ว่าคนคนนั้นจะปกปิดขนาดไหน ผมก็น่าจะดูอะไรออกบ้าง”
เมื่อเปปเปอร์ได้ยินคำพูดนี้ แน่นอนว่าไม่ได้สงสัยอะไร โยนโทรศัพท์ให้เขาดู
การันต์ยกมือขึ้นในอากาศและคว้าโทรศัพท์มาได้พอดี หันศีรษะกลับไปและเปิดดู
เปปเปอร์ถามผู้ช่วยเหมันตร์ที่กำลังขับรถอยู่ว่า“วิดีโอกล้องวงจรปิดมีแค่ช่วงเดียวเหรอ?ช่วงที่ข้อมูลมายมิ้นท์ถูกกรีดไม่มีเหรอ?”
“คุณลาเต้บอกว่าเขาพบคุณมายมิ้นท์ที่บันไดหนีไฟ ดังนั้นผมก็เลยคิดว่าคนคนนั้นน่าจะใช้มีดกรีดข้อมือคุณมายมิ้นท์ที่บันไดหนีไฟ ดังนั้นหลังจากที่ผมโทรศัพท์เสร็จก็เลยรีบไปดูสถานที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พบว่าที่บันไดหนีไฟไม่มีกล้องวงจรปิด”ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบกลับ
ริมฝีปากของเปปเปอร์เผยความเย็นชาออกมา“ไม่มีทุกตึกเลยหรือว่าไม่มีแค่ตึกนั้นของมายมิ้นท์แค่ตึกเดียว?”
“ไม่มีทั้งหมดครับ”
เปปเปอร์ขมวดคิ้วเป็นรูปอักษรตัวชวน
คอนโดพราวฟ้าถึงยังก็เป็นคอนโดระดับไฮเอนด์ แต่กลับไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างแน่นหนา!
เปปเปอร์ตัดสินใจที่จะให้คอนโดพราวฟ้าได้รับบทเรียนอย่างเงียบๆ จากนั้นจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“แล้วกล้องวงจรปิดบริเวณแวดล้อมล่ะ ได้ถ่ายตอนที่คนคนนั้นมาปรากฏตัวอยู่ที่คอนโดพราวฟ้าหรือเปล่า?”
“มีครับ ผมได้ถามตำรวจแล้ว ตำรวจบอกว่ามี อีกทั้งยังนำวิดีโอทั้งหมดไปตรวจสอบแล้ว ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวพวกเขาจะแจ้งให้พวกเราทราบครับ”ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบคำถาม
เปปเปอร์อึมหนึ่งที ไม่ได้พูดอะไรออกมา
และในเวลานี้ จู่ๆการันต์ก็เอ่ยขึ้นว่า“นี่เป็นผู้หญิง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...