แววตาของชวนชมสั่นไหวเล็กน้อย
ที่เธอพูดมาทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น
แต่ว่าจะยังไงล่ะ ขอแค่สามารถปิดบังความลับของไฝแดงได้ก็พอแล้ว
“ความคิดของฉันเหมือนกับทามทอย ที่ไม่เชื่อเรื่องไร้สาระที่ว่าดวงฉันไปชงกับเธออะไรแบบนี้” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วไว้แล้วเปิดปากพูดขึ้น
ชวนชมกัดริมฝีปากไว้ “ที่ฉันพูดมามันเป็นความจริงเลยนะ”
“ในเมื่อเป็นความจริง งั้นเธอบอกฉันมาซิ ว่าหมอดูคือใคร?” มายมิ้นท์ถามขึ้นมา
ชวนชมหรี่เปลือกตาลงต่ำ “ฉันไม่รู้จักค่ะ ฉันแค่บังเอิญไปเจอเท่านั้น เขาดูดวงให้ฉันเสร็จแล้วก็ไปเลย”
“เหอะ มีพิรุธเต็มไปหมด” ทามทอยโกรธจนรู้สึกขำ
ชวนชมบีบฝ่ามือเล็กน้อย “ฉันรู้ว่าพวกคุณไม่เชื่อถือ แต่ว่าความจริงมันก็คือแบบนี้”
“ได้ ในเมื่อเธอปากแข็งไม่ยอมสารภาพออกมา งั้นฉันก็จะไปสืบหาเอง รอให้ฉันหาความลับของไฝแดงเม็ดนี้เจอแล้ว ฉันจะมาคิดบัญชีกับเธอคนแรกเลย” มายมิ้นท์ตบที่พักแขนรถเข็นทีหนึ่ง “ทามทอย สิ่งที่ควรถามเราก็ถามหมดแล้ว พวกเราไปกันเถอะ ที่เหลือก็มอบให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเถอะ”
“อืม ก็ดีจะได้กลับไปปรึกษาเรื่องที่จะเปิดโปงว่าเธอเป็นชวนชมตัวปลอมกันยังไงสักหน่อย” ทามทอยพยักหน้าขึ้น
สีหน้าของชวนชมเปลี่ยนไป “พวกคุณจะเปิดโปงฉันเหรอคะ?”
“เธอลอบทำร้ายมายมิ้นท์ ก็ได้หักหลังพวกเราไปแล้ว เธอนึกว่า พวกเรายังจะยอมให้เธอเป็นชวนชมต่อไปอีกเหรอ? และที่สำคัญเธอก็อยากจะเป็นชวนชมมาตลอดไม่ใช่เหรอ? งั้นก็หมายความว่าใจของเธอไม่ได้อยากจะทำงานให้พวกเรามาตั้งนานแล้ว ไม่อยากทำให้ตระกูลภักดีพิศุทธิ์พังพินาศแล้ว เพราะเธอรู้ว่า ถ้าตระกูลภักดีพิศุทธิ์พังพินาศไปแล้ว ถึงเธอจะได้เป็นชวนชมตลอดไป ก็ไม่มีทางที่จะได้ใช้ชีวิตร่ำรวยอย่างตอนนี้แล้ว” ทามทอยจ้องมองเธอ แล้วก็พูดอย่างเยาะเย้ยไป
ท่าทีของชวนชมเกิดหวาดกลัวขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าโดนเปิดเผยความในใจออกมาแล้ว
เป็นอย่างที่เขาพูดมาจริง ๆ เธอไม่อยากกลับไปเป็นเจินเจินแล้ว แค่อยากจะเป็นชวนชมตลอดไป
แต่ถ้าจะเป็นชวนชมตลอดไป งั้นตระกูลภักดีพิศุทธิ์และเอสซีกรุ๊ปก็จำเป็นที่จะต้องคงอยู่ต่อไป ไม่งั้นทุกอย่างที่เธอทำในวันนี้ ก็จะไม่มีความหมายอะไรเลย
เพราะฉะนั้น ในตอนที่เธอลงมือกับมายมิ้นท์นั้น ก็ได้ตัดสินใจที่จะยืนอยู่ข้างตระกูลภักดีพิศุทธิ์เลย
จ้องมองท่าทางที่เงียบไม่พูดอะไรของชวนชม ในใจของทามทอยก็เยาะเย้ยตัวเองไม่หยุด
เขายังหลงคิดว่าตัวเองมีสายตาดีมาก โตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยมองใครผิดไปเลยสักคน
แต่ตอนนี้ กลับมาตกม้าตายอยู่ในมือผู้หญิงคนหนึ่ง นี่มันแม่งเฮี้ยมากจริง ๆ เลย
“พอแล้วเจินเจิน รักษาชีวิตที่อยู่สุขสบายของเธอไปให้ดีเถอะ เพราะว่าอีกไม่นาน เธอก็จะได้กลับไปเป็นเจินเจินอีกครั้งแล้ว” พอพูดจบ ทามทอยก็เข็นมายมิ้นท์ออกไปจากห้องสอบสวนเลย
ชวนชมหรี่เปลือกตาลง บดบังความมืดมนในดวงตาไป
เปลี่ยนกลับไปเป็นเจินเจินเหรอ?
ไม่มีทาง เธอไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด!
นอกสถานีตำรวจ ทามทอยเข็นมายมิ้นท์เดินไปทางรถของเธอที่อยู่ข้างหน้า
ระหว่างทาง เธอก้มหน้าไว้ตลอด และลูบข้อมือที่พันผ้าพันแผลของตัวเองไป เหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่
พอทามทอยเห็นเข้า ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “กำลังคิดเรื่องไฝแดงเม็ดนี้ของคุณอยู่เหรอ?”
มายมิ้นท์ตอบอืมไปคำหนึ่ง “ใช่ค่ะ ไม่คิดไม่ได้ การกระทำของเจินเจินที่มาทำลายไฝแดงเม็ดนี้มันน่าแปลกมากเลย แต่เธอก็ไม่ยอมที่จะบอกเหตุผลออกมา เพราะฉะนั้นยังไงในใจของฉันก็ยังมีปมอยู่อันหนึ่ง”
“ที่เจินเจินทำร้ายคุณ เพราะรู้สึกว่าคุณจะมาเปิดโปงสถานะของเธอ และก่อนหน้านี้ลำดวนก็เคยบอกกับคุณว่าไฝแดงของคุณสามารถเป็นภัยคุกคามต่อสถานะของเจินเจินไม่ใช่เหรอ? ส่วนสถานะที่เจินเจินสนใจมากที่สุด ก็คือสถานะของชวนชม เพราะฉะนั้นที่ข้อมือของชวนชมตัวจริงอาจจะมีไฝแดงอยู่หรือเปล่า จากนั้นเจินเจินก็รู้สึกว่าคุณเป็นชวนชมตัวจริง เพราะฉะนั้นก็เลย......”
“จะเป็นไปได้ยังไง” มายมิ้นท์พูดขัดคำพูดของเขาขึ้นอย่างไม่รู้จะขำหรือว่าจะหัวเราะดี แล้วส่ายหน้าแล้วก็พูดขึ้นว่า “ฉันจะไปเป็นชวนชมได้ยังไง ฉันเป็นลูกแท้ ๆ ของพ่อแม่นะ คุณเคยได้ยินว่าพ่อแม่ฉันไปอุ้มใครมาเป็นลูกสาวบุญธรรมมาจากที่อื่นไหมล่ะ?”
“มันก็ไม่เคยมีนะ” ทามทอยยักไหล่เล็กน้อย
“แค่นี้ก็พอแล้วไง” มายมิ้นท์เหล่ตามองเขาทีหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...