ผ่านไปสักพัก ชาวเน็ตก็พากันหัวเราะเยาะ
“สุดยอด สุดยอดจริงๆ นี่สินะคือความจริง รูปภาพนั้นมันปลอมชัดๆ!”
“แล้วไหนที่บอกว่าเป็นความรักอันสวยหวานล่ะ โผล่หน้าออกมาหน่อยสิ นี่มันตบหน้าตัวเองแท้ๆ!”
“ฉันบอกแล้วไง แม้ว่าเรด้าจะเป็นลูกสาวของตระกูลที่มั่งคั่ง แต่ตระกูลนี้ก็แทบจะล้มละลายแล้ว เรด้าชอบอวดความร่ำรวยของเธอทางอินเทอร์เน็ต ทำท่าทางเหมือนมั่งคั่งสูงส่ง ไม่มีความสงบเสงี่ยมเลย ส่วนเขาเป็นถึงประธานนวบดินทร์กรุ๊ป เป็นหัวหน้าตระกูลนวบดินทร์ จะสายตาไม่ดีคว้าผู้หญิงแบบนี้มาเป็นภรรยาได้อย่างไร?”
เมื่อเห็นการวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ต มายมิ้นท์ก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
นั่นสิ เธอก็คิดแบบนี้เหมือนกัน
หากว่าเปปเปอร์ชอบเรด้านั่น หมายความว่าเขามีตาหามีแววไม่
โชคดีเหลือเกินที่ดูเหมือนเขาจะยังคงตาสว่างอยู่บ้าง
คิดได้ดังนั้นมุมปากของมายมิ้นท์ก็กระตุกเล็กน้อย ความรู้สึกตะขิดตะขวงใจและความกังวลเกี่ยวกับภาพใบนั้น เมื่อเธอได้ดูคลิปวิดีโอนี้ก็ได้คลายลงทันที
จะว่าไปแล้วก็แปลก หลังจากที่เธอเอ่ยถามเปปเปอร์ถึงเรื่องรูปภาพนั้นไปไม่นาน บัญชีทางการของนวบดินทร์กรุ๊ปก็ได้ออกมาเผยแพร่คลิปวิดีโอนั้น หรือว่าเป็นการเข้าใจผิด?
มันเป็นเรื่องบังเอิญเหรอ?
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดงเรื่อของเธอแล้วปฏิเสธการคาดเดาไปอย่างรวดเร็ว
ไม่สิ เปปเปอร์ไม่เห็นคำถามของเธอที่ถามออกไป ดังนั้นมันคงน่าจะเป็นแค่ความบังเอิญแหละ
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
มายมิ้นท์จัดการกับความคิดของตนเองแล้วเอียงศีรษะไปชะโงกดูโทรศัพท์
เมื่อพบว่าเป็นสายของลาเต้เธอก็ปล่อยเมาส์แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ค่ะลาเต้”
“ที่รัก” น้ำเสียงของลาเต้ดังออกมาจากทางโทรศัพท์
มายมิ้นท์เอียงศีรษะด้วยความรู้สึกสับสน “เป็นอะไรไปคะ?”
“ก็เรื่องเปปเปอร์น่ะสิ” ลาเต้ยกมือเกาศีรษะด้วยความหงุดหงิด ก่อนหน้านี้มีข่าวบอกว่าเขาและเรด้าหมั้นหมายกันไม่ใช่เหรอ? ผมดีใจแทบตายตั้งใจว่าจะเตรียมของขวัญไปให้สักหน่อย สรุปว่าผมยังไม่ทันจะซื้อของขวัญเสียด้วยซ้ำ เปปเปอร์กลับมาชี้แจงว่าข่าวนั้นเป็นข่าวเท็จ ให้ตายสิ โมโหจริง!”
เขาและเปปเปอร์นับว่าเป็นศัตรูทางหัวใจต่อกัน
ในฐานะที่เป็นคู่แข่งด้านความรัก แน่นอนว่าเขาต้องการให้เปปเปอร์ไปคบกับผู้หญิงคนอื่น
เพราะถ้าเป็นแบบนี้เปปเปอร์จะได้ไม่มายุ่งวุ่นวายกับที่รักของเขาอีก
แม้เปปเปอร์จะเคยบอกว่าเขาจะวางมือจากมายมิ้นท์ แต่ใครจะไปรู้ละว่าจริงหรือเท็จ
ดังนั้นถ้าหากว่าเปปเปอร์ไปคบกับผู้หญิงคนอื่นเมื่อไหร่ เขาจึงจะสามารถเชื่อได้ว่าเป็นความจริง
แล้วยังไงล่ะ ผลลัพธ์คือ?
ลาเต้หัวเราะออกมาเหอะๆ
มายมิ้นท์ได้ยินประโยคนั้นของลาเต้เธอก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยจนขมวดคิ้วเข้าหากัน “มีอะไรให้น่าหงุดหงิดกันคะ มันไม่ใช่เรื่องจริงตั้งแต่แรก คุณจะไม่ให้เขาออกมาชี้แจงเหรอ ถ้าเป็นคุณ คุณอยากจะจมอยู่กับเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้เหรอคะ?”
“แน่นอนว่าผมก็ไม่ชอบหรอก แต่นี่มันไม่เหมือนกัน” ลาเต้เอามือขึ้นกุมศีรษะแล้วพูดขึ้น
มายมิ้นท์พ่นลมหายใจออกมา “แตกต่างกันยังไง?”
“ก็ตรงที่......เดี๋ยวนะที่รัก” ลาเต้พูดได้เพียงครึ่งหนึ่งจู่ๆ ดูเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ท่าทางการแสดงออกของเขาดูจริงจังขึ้นมาทันใด “ที่รัก ทำไมผมถึงพบว่าคุณดูมีความสุขที่เปปเปอร์ออกมาชี้แจงว่างานการหมั้นของเขานั้นเป็นข่าวเท็จ ไม่เพียงเท่านี้ คุณยังช่วยเขาพูดอีกด้วย ตอนที่ผมกำลังว่าเปปเปอร์เมื่อสักครู่คุณก็ออกมาตอบโต้ทันที ที่รัก คุณ......”
“ฉันไม่ได้สนใจเปปเปอร์เลยนะคะ” เขายังไม่ทันพูดจบ มายมิ้นท์ก็สะดุ้งและรีบตอบกลับทันที
และด้วยประโยคนี้ ทำให้ท่าทางการแสดงออกของลาเต้สงบขึ้น อารมณ์ของเขาดูหนักอึ้งมากกว่าเดิม
เขาสูดลมหายใจเข้า พยายามทำน้ำเสียงให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด “ที่รัก ผมยังไม่ได้บอกว่าคุณสนใจเปปเปอร์หรือเปล่าเลย แต่คุณกลับโต้ตอบผมมาว่าคุณไม่ได้สนใจเขา นี่คุณกำลังยอมรับออกมาเองใช่ไหม?”
มายมิ้นท์ผงะลงก่อนจะได้สติกลับคืนมาและรับรู้ว่าปฏิกิริยาของเธอเมื่อครู่ดูผิดปกติไป เธอต้องการจะซ่อนมันเอาไว้
เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ รูม่านตาของมายมิ้นท์ก็สั่นคลอน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพบว่ามือของเธอก็สั่นเล็กน้อย ดวงตาของเธอคู่นั้นเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและสับสน
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...