เมื่อทั้งสามคนเข้าไปดูในวงจรปิดก็พบว่า มายมิ้นท์กับลาเต้ได้เข้าไปในโรงน้ำพุร้อนเมื่อชั่วโมงครึ่งที่แล้ว แต่หลังจากนั้น มายมิ้นท์ก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า มายมิ้นท์น่าจะยังอยู่ในโรงน้ำพุร้อน
“ผมจะไปดูที่โรงน้ำพุร้อนสักหน่อย!” พอพูดประโยคนี้จบ ลาเต้ก็ชิงเปิดประตูออกไปเลย
ส้มเปรี้ยวเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายที่อยู่ข้างๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “เปปเปอร์ งั้นเราก็ไม่ต้องไปแล้วใช่ไหมคะ?”
“ไปสิ!” เปปเปอร์ขมวดคิ้วแล้วตอบ “ลาเต้สงสัยว่าการหายตัวไปของมายมิ้นท์มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณ เพื่อที่จะปัดเป่าการเป็นที่ต้องสงสัยในตัวคุณ พวกเราก็ต้องไปด้วย ไปเถอะ”
ส้มเปรี้ยวยิ้มเล็กน้อย “ค่ะ ฉันจะฟังคุณ”
ทั้งสองคนมาถึงหน้าประตูทางเข้าโรงน้ำพุร้อน ลาเต้ก็กำลังเจรจากับยามอยู่
“คุณครับ ผมก็บอกคุณไปแล้ว ว่าตอนนี้เลยเวลาทำการของโรงน้ำพุร้อนแล้ว ด้านในไม่มีคนแล้วครับ” ยามกำลังขวางลาเต้อยู่และห้ามไม่ให้เขาเข้าไป
ลาเต้เอามือจับผม และกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังออกมาจากในโรงน้ำพุร้อน และได้ดึงดูดความสนใจของทั้งสี่คนให้เข้าไป
ทั้งสี่คนเห็นคุณป้าที่ทำความสะอาดคนหนึ่งวิ่งออกมาจากข้างในด้วยสีหน้าที่หวาดผวา ในระหว่างวิ่ง ปากของเธอก็พึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเองอยู่
ยามจับตัวของเธอเอาไว้ แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
คุณป้าที่ทำความสะอาดพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือว่า “คน......คนตายแล้ว!”
“อะไรนะ?”
ทุกคนตกตะลึง
แล้วมือที่กำลังสั่นเทาของคุณป้าที่ทำความสะอาดก็ชี้เข้าไปข้างใน และพูดว่า “ในห้องอาบน้ำของบ่อน้ำพุร้อนหญิง มีคนตายไปแล้วหนึ่งคน!”
“มิ้นท์!” สีหน้าของ ลาเต้เปลี่ยนไป และรีบพุ่งตัวเข้าไปในโรงน้ำพุร้อนทันที
เปปเปอร์กับยามก็รีบตามเข้าไปเช่นกัน
ระหว่างทาง สีหน้าของเปปเปอร์ก็เริ่มตึงเครียดขึ้นมาอย่างมาก และลมปราณที่แผ่กระจายอยู่รอบๆตัวก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจมากขึ้น
ผู้หญิงคนนั้นตายแล้วงั้นเหรอ?
ล้อเล่นอะไรน่ะ คงไม่ใช่การเล่นพิเรนทร์ของเธอหรอกนะ?
เปปเปอร์กัดกรามแน่น หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก ทำให้จังหวะการหายใจของเขาไม่เป็นระเบียบไปหมดแล้ว
ส้มเปรี้ยวรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกของเขาแล้ว ก็รู้สึกเจ็บแค้นอย่างเงียบๆอยู่ในใจ แต่บนใบหน้ากลับมีน้ำตาคลอเบ้า “เปปเปอร์คะ คุณว่าคุณมายมิ้นท์ยังอายุยังน้อยอย่างนี้ ทำไมถึงได้ประสบอุบัติเหตุแล้วล่ะคะ?”
เธอพูดราวกับว่าเธอรู้สึกเสียดายและเสียใจกับการตายของมายมิ้นท์มากอย่างไรอย่างนั้น
แต่มุมปากของเธอกลับถูกยกขึ้นมาในที่ที่ไม่มีใครมองเห็น
นี่ช่างเป็นข่าวดีจริงๆ
มายมิ้นท์ตายแล้ว เช่นนั้นเธอจะไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีกต่อไปแล้ว
คนสามสี่คนมาถึงนอกห้องอาบน้ำแล้ว ก็เปิดประตูตรงเข้าไป โดยที่ไม่สนใจตัวอักษรสี่คำที่เขียนอยู่บนประตูว่า “ผู้ชายห้ามเข้า”เลย พอเข้าไปก็เห็นมายมิ้นท์นอนอยู่บนพื้น และใต้ศีรษะของเธอยังมีเลือดไหลนองอยู่ซึ่งเป็นฉากที่ทำให้ผู้คนตกใจเป็นอย่างมาก
ลาเต้ใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าจะมีสติกลับคืนมา แล้วก้าวเดินไปทางมายมิ้นท์ด้วยร่างกายที่แข็งทื่อ
เปปเปอร์ยืนอยู่หน้าประตู ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าซีดนั้นของมายมิ้นท์อย่างไม่วางตา แล้วยกมือขึ้นมาทันทีด้วยจิตใต้สำนึก
คิดไม่ถึงว่าจะเป็นมายมิ้นท์จริงๆ!
เธอตายแล้วจริงๆ!
ในเวลานี้เปปเปอร์รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไปแล้ว หัวใจของเขาไม่เพียงแต่จะรู้สึกเจ็บปวด แต่ยังว่างเปล่าขึ้นมาอีกด้วย
และในขณะนั้นเอง เสียงที่ตื่นเต้นของลาเต้ก็ดังขึ้นมาว่า “ยังมีชีวิตอยู่ มิ้นท์ยังไม่ตาย เธอยังหายใจอยู่!”
ว่าไงนะ?
มุมปากที่โค้งขึ้นของส้มเปรี้ยวก็ชะงักในทันที และภายในดวงตาก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
มายมิ้นท์ยังไม่ตายเหรอ?
“จริงแท้แน่นอน มิ้นท์ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ” นิ้วมือของลาเต้กำลังวางอยู่ใต้จมูกของมายมิ้นท์ เขาจึงสามารถรู้สึกได้ถึงลมหายใจอ่อนๆของเธอได้อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...