“กลับมาแล้วเหรอ?” เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินกลับมา มายมิ้นท์ก็วางโทรศัพท์ลงแล้วลุกขึ้นยืน
ชายหนุ่มตอบอืมในลำคอ เอ่ยพูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “ผมกลับมาแล้ว”
เขาชอบคำว่า “กลับมาแล้วเหรอ” ของเธอมาก มันให้ความรู้สึกเหมือนเธอกำลังรอเขากลับบ้านอย่างไรอย่างนั้น
“ซื้ออะไรมา?” สายตาของมายมิ้นท์จ้องมองไปที่มือขวาของเขา จึงเห็นว่าเขากำลังถือผ้าอะไรสักอย่างอยู่ในมือ ในผ้าพองออกมาเหมือนห่ออะไรเอาไว้
มายมิ้นท์มองมาที่ชายหนุ่มด้วยใบหน้างุนงง “คุณซื้อผ้ามาทำไม?”
“ไม่ได้ซื้อ” เปปเปอร์นั่งลง “เขาให้ฟรี”
เขามองไปยังจุดขายของ
“อ๋อ~” มายมิ้นท์ลากเสียงยาว มองมาที่ชายหนุ่มด้วยแววตาอ่านยาก “ให้ฟรีหรอกเหรอ”
“อืม” เปปเปอร์พยักหน้า
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปาก “ถ้าฉันเดาไม่ผิด คงเป็นพนักงานผู้หญิงคนนั้นให้มาสินะ พอผู้หญิงให้ คุณก็รับเลยนะ ทำไม กลัวว่าถ้าไม่รับมาแล้วเธอจะเสียใจเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดคำจาเหมือนหึงหวง เปปเปอร์เลิกคิ้วขึ้น
เขาก้มมองผ้าในมือ แล้วมองผู้หญิงที่แสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างชัดเจน จึงอดไม่อยากที่จะขำออกมา
มายมิ้นท์ถลึงตา “ยังจะขำอีกนะ มีอะไรน่าขำ?”
“โอเค ผมไม่ขำแล้วก็ได้” เปปเปอร์เม้มปากพร้อมกระแอมไอ หุบยิ้มอย่างที่ปากว่า
ทว่าในแววตาของเขายังซุกซ่อนไปด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ไม่ชัดเจนขนาดนั้น
“คุณหึงเหรอ?” เขามองมาที่หญิงสาวพร้อมกับเอ่ยถาม
มายมิ้นท์เปลี่ยนสีหน้า แล้วหันไปทางอื่น เอ่ยพูดอย่างปากไม่ตรงกับใจว่า “ใครหึง ฉันไม่ได้หึงสสักหน่อย”
เปปเปอร์ดูออกว่าเธอกำลังปากแข็ง จึงตบที่นั่งข้างๆแล้วพูดว่า “คุณเข้าใจผิดแล้ว นี่เป็นของตอบแทนหลังจากที่ผมเหมาซื้อของเลี้ยงคนที่ให้ผมแซงคิวต่างหากล่ะ เพราะว่าผมช่วยซื้อจนพวกเธอขายของหมดก่อนกำหนด พอรู้ว่าผมต้องการไอ้เจ้านี้ ก็เลยให้มาฟรีๆ”
ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง
พนักงานคนนั้นไม่ได้ให้ฟรีๆ เพราะเห็นว่าเขาหน้าตาดี
ก็จริง ใครมันจะไปให้ของคนอื่นฟรีๆ เพียงเพราะเห็นว่าหน้าตาดีกัน
เมื่อตระหนักได้ว่าตัวเองหึงไม่เข้าเรื่อง ใบหน้าของมายมิ้นท์ก็ร้อนวูบ รู้สึกกระดากอายขึ้นมานิดหน่อย “ขอโทษ ที่ปรักปรำคุณ”
เธอเอ่ยขอโทษเสียงเบา
เปปเปอร์วางผ้าในมือลง แล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ขยี้ผมของเธอ “เอาล่ะ คุณไม่ต้องขอโทษผมหรอก ตรงกันข้าม ผมกลับดีใจเสียอีกที่คุณปรักปรำผม”
“เห๋?” มายมิ้นท์เงยหน้ามองเขา “ทำไมล่ะ?”
“เพราะว่าการที่คุณหึง มันหมายความว่าคุณแคร์ไม่ใช่หรือไง?” เปปเปอร์หลุบตาลง เพื่อสบสายตากับเธอ
มายมิ้นท์ก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เมื่อเปปเปอร์เห็นใบหูแดงๆของเธอ ก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นก็ดึงเธอให้นั่งลง เอื้อมมือไปหยิบผ้าที่พึงวางลงเมื่อกี้แล้วยื่นไปหาเธอ
มายมิ้นทฺสะดุ้ง ”จะทำอะไร?”
“ประคบตาให้คุณไง” เปปเปอร์พูดพร้อมกับวางผ้าลงบนตาของเธอ
ชั่วขณะนั้น สัมผัสเย็นชื้น ก็ทำให้เธอต้องหลับตาลง
ที่แท้ในผ้าก็มีน้ำแข็งอยู่นี่เอง
“นี่ของที่คุณไปซื้อ คือน้ำแข็งเองหรอกเหรอ?” มายมิ้นท์เอ่ยถาม
เปปเปอร์ตอบอืม “ตอนอยู่ในโรงหนังคุณร้องไห้หลายครั้ง จนตาแดง ถ้าไม่ประคบสักหน่อย พรุ่งนี้ตาต้องบวมตุ่ยแน่ๆ”
“คุณนั่นแหละที่จะตาบวมตุ่ย” มายมิ้นท์แขวะเขากลับ
เปปเปอร์ตอบกลับอย่างจริงจังว่า “ไม่มีทาง เพราะผมไม่ได้ร้องไห้”
“แล้วคุณภูมิใจนักเหรอ?” มายมิ้นท์ดึงมุมปาก
เปปเปอร์ขำออกมาเบาๆ “เอาล่ะ อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวจะประคบหน้าแล้ว”
มายมิ้นท์ส่งเสียงฮึดฮัด จากนั้นก็นั่งหลังตรงและหยุดดิ้น
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เปปเปอร์ก็รู้สึกว่าน้ำแข็งเริ่มละลายไปเยอะแล้ว เพราะไม่ได้พองเหมือนตอนแรก
เขาจึงว่าจะหยุดประคบให้มายมิ้นท์ต่อ ไม่อย่างนั้นถ้ารอให้น้ำแข็งละลายทั้งหมด มันจะหยดใส่เสื้อของเธอจนเปียก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...