รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 900

พัดชาอึ้งทึ่งไปทั้งตัวเลย แล้วจ้องมองเกรียงไกรไปอย่างเหม่อลอย เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงเลย ว่าเกรียงไกรจะทิ้งเธอไว้ที่นี่สักพักหนึ่ง เพื่อที่จะเป็นการลงโทษเธอ!

“คุณ……คุณเกรียงไกร คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ ทำแบบนี้ไม่ได้นะ!”

พอผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดพัดชาก็ตั้งสติกลับมาได้ ดวงตาก็ปูดโปนขึ้นมา แล้วก็อ้อนวอนเกรียงไกรไม่หยุด “คุณเกรียงไกร ขอร้องคุณละค่ะ อย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่เลยนะคะ ฉันสำนึกผิดแล้วจริง ๆ ต่อไปฉันจะไม่ขัดคำสั่งของคุณอีกแล้ว จริง ๆ นะคะ! เพราะฉะนั้นช่วยฉันออกไปด้วยได้ไหมคะ ช่วยฉันออกไปด้วยค่ะ!”

เกรียงไกรฟังเสียงที่ขอร้องอ้อนวอนอย่างโศกเศร้าของพัดชาไป และใบหน้ายังคงไม่มีปฏิกิริยาอะไร

เขายันไม้เท้าลุกขึ้นมา แล้วไม่มองพัดชาที่ถูกกักตัวอยู่บนเก้าอี้ จนไม่มีทางลุกไปไหนได้เลยสักนิด แล้วก็เดินไปทางประตูห้องสอบสวน เดินไปด้วย และทิ้งคำพูดไว้ประโยคหนึ่งโดยไม่หันหลังกลับมามองสักนิดว่า “ฉันยังยืนยันคำพูดเดิม ทำผิดก็ต้องแบกรับค่าตอบแทนที่สมควรต้องจ่าย เธอหักหลังฉัน ฉันให้เธออยู่ที่นี่สักพัก ก็ถือได้ว่าฉันมีเมตตาแล้ว เพราะฉะนั้นเธอควรรู้สึกดีใจที่เธอยังมีประโยชน์ ไม่งั้นรอเธอเข้าคุกไปแล้ว ไม่ต้องให้พวกเปปเปอร์ทำอะไรเธอ ฉันก็ให้คนในคุก ฆ่าเธอให้ตายไปอย่างไม่มีสุ้มเสียงได้เลย!”

คำพูดนี้ทำให้คำอ้อนวอนของพัดชาหยุดไปทันที บนใบหน้ามีแต่ความหวาดกลัวถึงที่สุดจ้องมองไปที่แผ่นหลังของเกรียงไกร ร่างกายก็สั่นอย่างรุนแรงขึ้นมา

คนคนนี้ อยากจะเอาชีวิตเธอเหรอ!

ใช่ซิ สำหรับตาแก่ที่โหดร้ายคนนี้ ถ้าไม่มีค่าให้ใช้งานแล้ว ก็แน่นอนว่าไม่มีทางเก็บคนคนนั้นไว้แน่

เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอควรจะดีใจ ที่ตัวเองยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง จึงไม่ทำให้ตาแก่คนนี้อยากจะฆ่าเธอไป

แต่เธอก็ชัดเจนดี ขอแค่เป้าหมายในอนาคตของตาแก่คนนี้สำเร็จแล้ว เธอก็ไม่มีประโยชน์ในการใช้งานอีกต่อไป พอถึงตอนนั้นตัวเธอก็ไม่มีทางหลบหนีออกไปจากฝ่ามือของตาแก่นี้ได้เหมือนกัน

พูดมาก็ใช่ ไม่ว่ายังไง ตาแก่นี่ก็ไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่ เป็นแค่เรื่องไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น

พอคิดมาถึงตรงนี้ ร่างกายของพัดชาก็ตัวสั่นจนหดตัวขึ้นมา และไม่กล้าที่จะเปิดปากขอร้องอ้อนวอนอีกเลย

เพราะว่าไม่มีความหมายแล้ว

แถมเธอยังกลัวว่าการขอร้องอ้อนวอนที่เธอคิดไว้ อาจจะทำให้ตาแก่นั่นโกรธขึ้นมา จนทำให้ตาแก่นี่หมดความอดทนไปตั้งแต่ตอนนี้แล้วมาฆ่าเธอไปซะ

แบบนั้นก็จะยิ่งได้ไม่คุ้มเสียแล้ว

ดังนั้น ยังไงเธอก็อดทนอยู่ที่นี่สักพักดีกว่า

ที่โรงพยาบาลบ้าทนทุกข์ทรมานซะขนาดนั้น เธอยังอดทนมาได้ตั้งสองเดือน เธอไม่เชื่อหรอก ว่าตัวเองจะได้อยู่ที่นี่นานกว่าโรงพยาบาลบ้าอีก!

คิดแล้ว ในที่สุดพัดชาก็สงบนิ่งลง แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก และก้มหน้าลงไปด้วย

พอเกรียงไกรเห็นเธออยู่ ๆ ก็สงบนิ่งลง ยังรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง

แต่ไม่นาน เกรียงไกรก็หัวเราะขึ้นมา “ดูท่าเธอจะคิดถึงจุดจบของตัวเองชัดเจนแล้วก็เริ่มรู้จักกฎแล้ว ไม่เลวเลย แบบนี้ดีมาก เป็นแบบนี้ต่อไปเถอะ”

พูดจบ เกรียงไกรก็พาผู้ช่วยทัตจากไปเลย

พัดชาจ้องมองไปทางที่เขาจากไปด้วยดวงตาแดงก่ำทั้งคู่ แล้วกัดฟันกรอกขึ้นมา “ตาแก่ รอไปเถอะ ในมือของแกมีจุดอ่อนของฉันอยู่ ดังนั้นตอนนี้แกก็เลยข่มขู่ฉันได้ รอถ้าอนาคต ฉันคว้าจุดอ่อนของแกมาได้ ฉันจะเอาแกให้ตายก่อนแน่!”

เกรียงไกรที่เดินออกมาจากสถานีตำรวจแล้ว ไม่รู้ว่าพัดชากำลังเคียดแค้นเขาอยู่ พอเขาขึ้นรถแล้ว ก็หลับตาลงแล้วนวดขมับไปเล็กน้อย

ผู้ช่วยทัตคาดเข็มขัดนิรภัยไป แล้วก็หันหน้ามาถามขึ้นว่า “เจ้านายครับ ต่อไปจะกลับโรงแรมเลยไหมครับ?”

เกรียงไกรลืมตาอยู่ ในดวงตา ในดวงตาแฝงไปด้วยอารมณ์ที่ทำให้คนดูไม่ออก “สุสานที่ญาฝังอยู่ หาเจอหรือยัง?”

พอคำพูดนี้พูดออกมา ผู้ช่วยทัตก็ก้มหน้าลง แล้วก็ไม่ค่อยกล้ามองเขา “ขอโทษด้วยครับเจ้านาย ยังไม่เจอครับ ตระกูลนวบดินทร์เก็บซ่อนสุสานของคุณโรสไว้ดีมากเกินไป สิบกว่าปีมานี้ เหมือนว่ายังไม่เคยมีใครไปไหว้คุณโรสมาก่อนเลยครับ และด้วยเหตุนี้จนถึงตอนนี้แล้ว คนของเราก็ยังสืบหาไม่เจอว่าตกลงคุณโรสถูกฝังอยู่ที่ไหน นอกจากถามจากคนตระกูลนวบดินทร์เอง แต่ผมคิดว่า ถึงจะเป็นในตระกูลนวบดินทร์เอง คนที่รู้เรื่องก็คงจะมีอยู่แค่สองคน คือเปปเปอร์ กับท่านย่าตระกูลนวบดินทร์เท่านั้น”

คนที่ตระกูลนวบดินทร์แต่งเข้ามาในตอนหลัง รวมทั้งอีกคนที่คลอดออกมาในตอนหลัง คาดว่าคงจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย

เกรียงไกรไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่หมุนแหวนไป ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

พอผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ปล่อยแหวนออก แล้วก็ผายมือออกเล็กน้อย “กลับโรงแรมเถอะ”

“ครับ” ผู้ช่วยทัตตอบกลับมาคำหนึ่ง แล้วก็ขับรถออกไป

ที่คอนโดพราวฟ้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว