ถ้าตอนแรกเธอไม่รู้ หรือรู้แล้ว แต่ไม่ส่งเสริมเลขาซินดี้
บางที จนถึงวันนี้เลขาซินดี้ก็อาจจะไม่มีความกล้าไปสารภาพรักกับเต้
ตราบใดที่เลขาซินดี้ไม่สารภาพรัก ยังคงปฏิบัติกับเต้ด้วยท่าทีแบบเดิม ทุกอย่างในวันนี้ก็อาจจะแตกต่าง
เห็นมายมิ้นท์ทำหน้าตำหนิตัวเอง เลขาซินดี้ก็โบกมือยิ้ม “ท่านประธาน คุณอย่าเป็นแบบนี้เลย คุณไม่ผิด คุณแค่หวังดีกับฉัน และถึงคุณไม่แนะนำให้ฉันไปจีบประธานลาเต้ก่อน ฉันเองก็จะไปจีบเขาอยู่แล้ว”
“หืม?” ร่างมายมิ้นท์นั่งตรงขึ้นมาเล็กน้อย
เลขาซินดี้ผลุบตาลงยิ้ม “เมื่อก่อน ประธานลาเต้ไม่ได้สารภาพรักกับคุณ คุณเลยไม่รู้ว่าเขามีความรู้สึกกับคุณ เมื่อไม่รู้ก็ปฏิเสธประธานลาเต้ไม่ได้ ฉันในฐานะผู้ชม ก็ไม่แน่ใจว่าคุณจะตกลงคบกับประธานลาเต้ในภายหลังไหม ฉันก็เลยซ่อนความรู้สึกตัวเองไว้เป็นอย่างดีมาตลอด ไม่เคยให้ใครรู้ จนกระทั่งประธานลาเต้แสดงความในใจกับคุณ หลังจากคุณปฏิเสธอย่างชัดเจน ฉันเลยมั่นใจว่าประธานลาเต้กับคุณมันเป็นไปไม่ได้แล้ว ถ้างั้นฉันก็จีบประธานลาเต้อย่างสบายใจได้ใช่ไหม ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอุบัติเหตุอะไรแล้วนี่หน่า?”
“งั้นที่เธอไม่ได้แสดงความในใจกับเต้มาตลอด ก็เพราะไม่แน่ใจว่าหลังจากฉันรู้ความในใจเต้แล้ว จะคบกับเต้หรือเปล่าใช่ไหม?” มายมิ้นท์มองเธอ
เลขาซินดี้พยักหน้า “ใช่ค่ะ รู้ว่าคุณไม่คบกับประธานลาเต้ ฉันเลยเริ่มแสดงความในใจกับประธานลาเต้ ถึงแม้ประธานมายมิ้นท์ไม่สนับสนุนฉัน ไม่โน้มน้าวฉัน ฉันก็จะจีบประธานลาเต้เหมือนเดิม แค่ตอนที่ฉันคิดไม่ออกว่าจะจีบยังไง คุณก็เอ่ยปากสนับสนุนฉันก่อน”
“งี้นี่เอง” มายมิ้นท์เข้าใจทันที
เลขาซินดี้มองเธอ “ดังนั้นท่านประธาน คุณไม่ต้องตำหนิตัวเอง ถึงแม้ก่อนหน้านี้ฉันจะรู้สึกเจ็บปวดเพราะประธานลาเต้รังเกียจ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจหมดแล้ว เรื่องของความรู้สึก มันบังคับไม่ได้อยู่แล้ว ฉันจะขอให้เขารักฉันแค่เพราะฉันรักเขาไม่ได้ ฉันกับเขาในคืนนั้นมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฉันกับเขาล้วนมีหน้าที่รับผิดชอบ ฉันจะไม่ให้เขารับผิดชอบ ฉันจะจัดการมันตอนที่เขาไม่รู้ ทำเหมือนว่าหลังจากคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงแม้ในอนาคตเขายังมีท่าทีกับฉันแบบนี้ ฉันก็ไม่เป็นไร ฉันจะลองลืมเขาและปล่อยเขาไป หาผู้ชายที่รักฉันและเริ่มต้นความรักใหม่”
เห็นความจริงจัง ความคาดหวังสำหรับอนาคตในดวงตาตอนเลขาซินดี้พูด ในขณะที่ในใจมายมิ้นท์รู้สึกชื่นชม ก็รู้สึกเศร้าเช่นกัน
“เธอคิดแบบนี้ได้ก็ดีแล้ว ฉันก็ขอให้เธอได้เจอคนที่รักเธอมาก และดีกับเธอด้วยนะ” มายมิ้นท์คาดหวังอย่างจริงใจ
เลขาซินดี้ยิ้มพยักหน้า “ขอบคุณท่านประธานสำหรับคำอวยพร ฉันต้องมีแน่ค่ะ”
“มีแน่นอน!” มายมิ้นท์ก็เห็นเธอยิ้มขึ้นมา “แต่เรื่องลูกเธอตัดสินใจจะเอาออกจริงเหรอ?”
“แน่นอนค่ะ” เลขาซินดี้ตอบอืม “ในเมื่อต้องเริ่มต้นความรักใหม่ ฉันก็ต้องจัดการลูกคนนี้ให้เรียบร้อย ไม่งั้นจะไม่ยุติธรรมกับสามีฉันในอนาคต อีกอย่าง ถ้าฉันคลอดเขาออกมา ถ้าสามีฉันในอนาคตไม่ยอมรับล่ะจะทำยังไง? ถึงฉันจะเลือกไม่แต่งงานเพราะเขา ฉันก็ให้พ่อเขาไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเขาถามฉันขึ้นมาว่าทำไมเขาไม่มีพ่อ ฉันควรตอบยังไง? ดังนั้นเอาเขาออกตอนนี้ที่เขายังไม่เป็นรูปร่างดีกว่า ถึงจะโหดร้ายมาก แต่มันก็ดีสำหรับทุกคนไม่ใช่เหรอ?”
มีอีกประโยคที่เธอไม่ได้พูด
ถ้าคลอดออกมาแล้ว เลี้ยงลูกให้เติบโต หลังจากประธานลาเต้รู้ว่าลูกเป็นลูกของเขา
ประธานลาเต้จะต้องเอาลูกไปแน่ๆ
ยังไงแล้วถึงแม้ประธานลาเต้จะไม่ยอมรับแม่ของลูก แต่ยังไงลูกก็เป็นลูกเขา เขาไม่มีทางให้ลูกตัวเองเร่ร่อนอยู่ข้างนอก ต้องเอากลับไปตระกูลรัตติพีระแน่นอน
ในตอนนั้น เธอต้องสู้ประธานลาเต้ไม่ได้แน่
ซึ่งหมายความว่า ถ้าประธานลาเต้รู้การมีอยู่ของลูก นั่นก็คือช่วงเวลาที่พวกเขาแม่ลูกต้องแยกจากกัน
ในตอนนั้น เธอจะยอมให้ประธานลาเต้แย่งลูกไปได้จริงเหรอ?
เธอคิด เธอต้องไม่มีทางยอมรับแน่ เธอคลอดลูกออกมา แถมเลี้ยงจนโต ไม่ต้องพูดถึงความรักที่มีต่อลูกเลย
ลูกถูกแย่งไป เธอไม่มีความสามารถที่จะแย่งกลับมา ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่รอคอยเธออยู่ ก็เหมือนกับความเจ็บปวดเจียนตายและความสิ้นหวัง
เธอยอมรับผลลัพธ์แบบนั้นไม่ได้
ดังนั้นเอาเด็กออก ฉวยโอกาสตอนที่ความรักของแม่ในตัวเองยังมีไม่มากดีกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...