“ภูริช หลังรถมีของฝากที่แม่ยายผมเอามาฝากด้วย ลุงเรียกคนมาช่วยขนเข้าไปหน่อยนะครับ”
ยศพัฒน์เอ่ยสั่งเสร็จ ก็หันมาพูดกับภรรยาที่รักว่า “วิกา เราเข้าไปกันเถอะ”
เทวิกาพยักหน้า
ในตอนที่ยศพัฒน์บอกให้ภูริชเอาของฝากจากแม่ของเธอข้าไปเก็บข้างใน เทวิกากังวลนิดหน่อยว่าคนในครอบครัวของเขาจะไม่ชอบของฝากที่แม่เธอเอามาให้ เพราะคิดอีกแง่ ครอบครัวของเขาต่างก็รู้ถึงที่มาที่ไปของเธอแล้ว
ของฝากของแม่เธอก็มีเท่านี้ ไม่ว่าครอบครัวเขาจะชอบหรือรังเกียจ เธอก็ต้องยอมรับ และนิ่งเข้าไว้
การตกแต่งภายในห้องโถงมีกลิ่นอายย้อนยุค แต่กลับดูหรูหรา เก้าอี้แต่ละตัวล้วนแล้วแต่ทำมาจากไม้เนื้อดี
คุณปู่ภูธิปกับคุณย่าชนิศานั่งอยู่บนโซฟา ผู้คนที่นั่งอยู่รอบๆล้วนแล้วแต่เป็นลูกหลานของพวกเขา
เมื่อเห็นยศพัฒน์พาเทวิกาเดินเข้ามา ดวงตาของทุกคนก็เป็นประกาย
แม้ว่าตอนที่ยศพัฒน์ประกาศเปิดตัว จะโชว์รูปเทวิกาในทะเบียนสมรสให้คนในครอบครัวดูแล้ว แต่พอคนในตระกูลได้เห็นเทวิกาตัวจริง ก็รู้สึกว่าสวยกว่าในรูปมากๆ
“นี่เทวิกาสินะ”
ผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายยศพัฒน์ เดินอมยิ้มเข้ามา พร้อมกับคล้องแขนเทวิกาอย่างสนิทสนม แถมยังแกะมือของยศพัฒน์ออกจากแขนของเทวิกา เพื่อครอบครัวเทวิกาคนเดียว
“ฉันคือป้าของยศพัฒน์”
ผู้หญิงคนนั้นเปิดเผยสถานะของตัวเอง
เทวิกาเอ่ยเรียกอีกฝ่ายว่าป้าเสียงเบา
“ดีๆ เรียกบ่อยๆจะได้ชินปาก”
คุณป้าเอ่ยพูดยิ้มๆ
“คุณป้า”
เทวิกาเอ่ยเรียกอีกครั้ง
คุณป้าเอ่ยพูดกับทุกคนในห้องโถงว่า “ฉันชอบหลานสะใภ้คนนี้ ต่อไปนี้เธอคือคนในปกครองของฉัน ถ้าใครกล้ารังแกเทวิกาล่ะก็ แปลว่ากล้าเป็นปฏิปักษ์ต่อฉัน อย่างนั้นก็เตรียมรับผลการกระทำได้เลย!”
ขณะที่พูด เธอก็ถอดกำไลหยกให้เทวิกา เอ่ยพูดว่า “นี่เป็นของขวัญในการเจอกันของเรา”
เทวิกาไม่มีความรู้เรื่องเครื่องประดับ แต่ก็พอจะรู้ว่ากำไลนี้ต้องแพงมากแน่ๆ เธอจึงเตรียมที่จะปฏิเสธ
แต่คุณป้ากลับเอ่ยพูดอย่างเอาแต่ใจว่า “ห้ามปฏิเสธ ถ้าแกปฏิเสธ ฉันจะถือว่าแกรังเกียจของขวัญของฉัน”
เทวิกา “.....ขอบคุณค่ะคุณป้า”
คุณย่าชนิศามีลูกชายห้าคนลูกสาวแค่คนเดียว จึงรักลูกสาวเป็นพิเศษ
คุณป้าคนนี้ถือได้ว่าเป็นเจ้าหญิงในตระกูลอริยชัยกุล ไม่เพียงแต่เป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ เหล่าน้องชายต่างก็ตามใจและโอ๋เธอ น้องสะใภ้ก็ไม่มีใครกล้าหือกับเธอสักคน
แล้วยิ่งคนรุ่นหลานยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทุกคนต่างก็ดีกับคุณป้าเป็นพิเศษ
เวลาถูกแกล้ง ก็จะพากันวิ่งโร่มาฟ้องคุณป้ากันหมด
ผู้หญิงมีอายุอีกคนกล่าวยิ้มๆขึ้นมาว่า “อันดา อย่าแย่งสิทธิ์ของยศพัฒน์สิ นี่ภรรยาของเขานะ”
ทุกคนต่างหัวเราะขำออกมา
“คุณปู่ คุณย่า”
เทวิกาถูกอันดาพามาหยุดอยู่ตรงหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ และเทวิกาก็เอ่ยเรียกผู้ใหญ่ทั้งสองคนเองโดยไม่ต้องให้ใครบอก
ปกติคุณปู่ภูธิปมักจะตีหน้านิ่งใส่คนอื่น และวางท่าเคร่งขรึมเป็นพิเศษ
แต่พอได้เจอเทวิกาสีหน้ากลับอ่อนลง ทั้งยังขานรับเทวิกาด้วยเสียงนุ่มนวล
ด้านคุณย่าชนิศาก็แย่งตัวหลานสะใภ้มาจากลูกสาวโดยตรง ดึงเทวิกามานั่งลงข้างๆ พร้อมกับเอ่ยพูดอย่างเอ็นดูว่า “นั่งรถมาเบื่อหรือเปล่า? หิวหรือยัง? อีกเดี๋ยวก็จะทานข้าวกันแล้ว”
“คุณย่า มีพัฒน์อยู่ด้วย ฉันไม่รู้สึกเบื่อเลยค่ะ”
เทวิกาไม่กล้าบอกว่าตัวเองหลับมาตลอดทาง
ตอนที่ตื่นขึ้นมา ก็พบว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
“เขานั่นแหละตัวน่าเบื่อ คุยกับเขาเป็นอะไรที่ชวนน่าเบื่อจะตาย”
คุณย่าชนิศากล่าวเหน็บแนมหลานชายตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน