เธอจะต้องหาเบอร์ติดต่อคุณนายตาณ เพื่อไปฟ้องเรื่องตาณสักหน่อย เพื่อจะได้ไม่ถูกใครบางคนเอาไปสร้างเรื่องไปเรื่อย แล้วลือไปถึงหูคุณนายตาณเพื่อใส่ร้ายเธอ
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เทวิกาไม่อยากให้คุณนายตาณถูกตาณหลอกลวงอีกแล้ว
กนกอรมาถึงในเวลานี้เอง เธอเห็นเพื่อนรักถือไม้กวาดยืนอยู่ตรงหน้าประตู ก็จอดรถไฟฟ้าไปด้วย และถามขึ้นมาอย่างรีบร้อนด้วย “วิกา เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ใครมาทำลายข้าวของอีกแล้วเหรอ?”
“ก็ไอ้ผู้ชายชั่ว และไร้ยางอายสิ้นดี ตาณนะซิ”
เทวิกาถูกตาณทำให้โมโหไปไม่น้อย แล้วก่นด่าตาณไปพักหนึ่ง
กนกอรพูดขึ้นมาว่า “ไอ้ชั่วนั่น ทำไมยังมีหน้ามาหาเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกล่ะ”
ประธานยศพัฒน์ก็ได้ประกาศเรื่องแต่งงานกับเทวิกาออกไปแล้ว ตอนนี้คนทั้งเมืองแอคเซสซ์ต่างก็รู้แล้วว่าเทวิกากับยศพัฒน์เป็นสามีภรรยากัน แต่ตาณกลับยังกล้ามาหาเทวิกาอีก ไม่กลัวประธานยศพัฒน์แค่ขยับนิ้วมือก็บีบเขาตายไปเลยเหรอ?
ทั้งสองคนกลับเข้าไปในร้าน
เทวิกาเทน้ำร้อนมาให้ตัวเองแก้วหนึ่ง อยากจะดื่ม แต่น้ำเพิ่งเดือดมันร้อนเกินไป เธอจึงวางแก้วลง แล้วเข้าไปในห้องทำเบเกอรี่ แล้วเอาน้ำเปล่าออกมาจากตู้เย็นขวดหนึ่ง และดื่มไปครึ่งขวด
“ตาณนี่ช่างหน้าไม่อายจริง ๆ เขากล้ามากล่อมให้ฉันหย่ากับยศพัฒน์ แล้วให้แบ่งทรัพย์สินของบ้านยศพัฒน์มา จากนั้นก็กลับไปเป็นแฟนกับเขาอีกครั้ง เขานึกว่าตัวเองเป็นคนป๊อปปูล่าอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ? ยังพูดอีกว่าเขาจะหาเงินอีกหน่อยก็หย่าแล้ว”
พอกนกอรได้ยินแล้ว ก็ก่นด่าตาณว่าเป็นผู้ชายชั่วช้าหน้าไม่อาย แถมยังรู้สึกซะใจเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “สมน้ำหน้าหลานสาวเจ้านายของตาณแล้ว นึกว่าตาณจะรักหล่อนจริง ๆ เหรอ? ตาณก็แค่หวังเงินของครอบครัวพวกหล่อนเท่านั้น ถ้าไม่มีผลประโยชน์แล้ว ตาณจะต้องทิ้งหล่อนไปแน่ ๆ”
พอเทวิกาเงียบขรึมไปครู่หนึ่งแล้ว ก็พูดขึ้นว่า “ฉันเคยเจอคุณนายตาณ หล่อนถือได้ว่าเป็นคนมีเหตุผลคนหนึ่ง บางทีอาจจะถูกคำพูดหวานซึ้งของตาณหลอกลวงไปแล้วมั้ง”
“ฉันจะเอาคำพูดที่ตาณพูดมาไปบอกคุณนายตาณ ดูจากฐานะที่ทุกคนต่างก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ต้องให้เธอได้เตรียมใจไว้บ้าง จะต้องไม่ให้แผนการของตาณสำเร็จ”
กนกอรพูดอย่างเห็นด้วย “ใช่ ใช่ ใช่ ต้องไม่ให้แผนการของตาณสำเร็จ ต้องให้เขาไม่เหลืออะไรเลย”
“มัณฑนากรยังไม่มาอีกเหรอ?”
“ฉันนัดพวกเขาไว้เก้าโมง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเลย อ๋อใช่แล้ว เจ้าของร้านมาเก็บค่าเช่าร้าน ฉันลืมจ่ายไปเลย เจ้าของร้านนึกว่าฉันไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าแล้วซะอีก”
กนกอรหัวเราะพรืดออกมา “เธอกับประธานยศพัฒน์ประกาศแต่งงานกันแล้ว มีแต่คนหูหนวกตาบอดเท่านั้น ที่จะไม่รู้ว่าตอนนี้สถานะของเธอเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เจ้าของร้านจะต้องไม่เป็นห่วงอีกแล้วว่าพวกเราจะไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าอีก”
เธอล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วโอนเงินค่าเช่าร้านครึ่งหนึ่งให้กับเทวิกา
เทวิกาเองก็ไม่เกรงใจ และรับเอาไว้
ทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกัน แต่ว่าร้านOne Day In Coffeeเป็นร้านที่ทั้งสองคนหุ้นกันเปิดขึ้นมา เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวก็ส่วนเรื่องส่วนตัว ต้องแบ่งแยกให้ชัดเจน
“มา มา มา กนกอร มาเล่าเรื่องหลังจากนั้นของเธอกับนฤเบศวร์ให้ฉันฟังหน่อย”
เทวิกาลากเพื่อนรักมานั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่ง แล้วถามขึ้นมาอย่างสอดรู้สอดเห็น
กนกอร “……จะไปมีอะไรต่อจากนั้นอีกล่ะ พวกเราสองคนต่างก็เข้ากันไม่ได้ ปู่ของเขาก็ถูกปู่ฉันบล็อกไปแล้วด้วย”
เธอเล่าเรื่องที่คุณปู่เร็นมาปรากฏตัวได้ยังไง มาใกล้ชิดกับปู่เธอ มาเป็นเพื่อนกัน แล้วก็ลากมาถึงเรื่องที่ให้เธอกับนฤเบศวร์ไปดูตัวกันได้ยังไงให้เพื่อนรักฟังไปหมดทุกอย่าง
“กนกอร ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคุณปู่เร็นกำลังทำร้ายเธออยู่นะ เธอลองคิดดูซิ นฤเบศวร์หลงใหลเปรมาซะขนาดนั้น ยศพัฒน์บอกว่าพวกเขาสามคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว นฤเบศวร์เพิ่งจะรู้จักกับความรักก็ตกหลุมรักเปรมาแล้ว แล้วก็หลงใหลมาสิบกว่าปีด้วย”
“เขาไม่มีทางลืมเปรมาไปง่าย ๆ ใครแต่งงานกับเขาก็คงจะมีความสุขได้ยาก แต่คุณปู่เร็นไม่ชอบเปรมาเป็นอย่างมาก ยศพัฒน์ของฉันบอกว่า ท่านอยากให้นฤเบศวร์แต่งงานกับคนอื่น จะได้ตัดขาดจากการเกาะแกะของเปรมา”
“สังคมไฮโซในเมืองแอคเซสซ์ก็มีอยู่แค่นั้น แต่คุณปู่เร็นไม่ได้เอาสายตาไปจดจ้องอยู่ที่พวกลูกคุณหนูพวกนั้น แต่กลับมามองอยู่ที่เธอ อย่างแรกเป็นเพราะว่าเธอกับนฤเบศวร์เคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อน อย่างที่สองคือครอบครัวเธอเป็นครอบครัวทั่วไป ไม่มีกำลังไม่มีอำนาจสามารถรังแกได้ง่าย”
“ถ้าเธอแต่งงานกับนฤเบศวร์ไป ถึงจะต้องทนลำบากใจทุกอย่าง ก็ไม่มีทางกระทบต่อธุรกิจของตระกูลเดชอุป คุณปู่เร็นคนนี้เป็นคนที่โหดร้ายมากจริง ๆ และได้คิดการไว้หมดแล้ว”
กนกอรได้ยินแล้วก็สีหน้าขาวซีด เธอเองก็รู้ว่าคุณปู่เร็นมีความคิดแอบแฝง แต่เธอคิดไม่ได้คิดลึกซึ้งเท่าเทวิกา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน