เปรมาที่อิจฉาริษยาเพราะความรัก ไปทุบทำลายที่ร้านของเทวิกาสักหน่อย ก็ไม่มีทางถึงขั้นผิดใจกับตระกูลอริยชัยกุลทั้งตระกูล เปรมาถึงได้กล้าทำแบบนั้น
เพราะว่าเธอกับยศพัฒน์เคยถูกผู้คนมองว่าเป็นคู่กันมาก่อน พวกคุณชายในตระกูลอริยชัยกุลจึงไม่สะดวกที่ยื่นมือเข้ามาแทรกแซงความรักของพี่ชาย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
กนกอรเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบไปคร่าว ๆ รอบหนึ่ง
พอพูดจบแล้ว เธอก็ขอร้องอ้อนวอนขึ้นมา “ประธานนฤเบศวร์ คุณช่วยหน่อยเถอะนะ ฉันเป็นคนขอให้คุณช่วย ไม่ใช่ประธานยศพัฒน์ขอให้คุณช่วยสักหน่อย คุณช่วยฉัน ไม่ได้ช่วยประธานยศพัฒน์นะคะ”
นฤเบศวร์หัวเราะเหอะ ๆ ขึ้นมา “กนกอร คุณนึกว่าตัวคุณสำคัญมากเหรอ?”
กนกอรพูดอะไรไม่ออก
“ประธานนฤเบศวร์……”
กนกอรร้อนใจจนเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
เธอกลัวมาก กลัวว่าตอนที่ได้พบเทวิกาอีกครั้ง จะอยู่ในห้องดับจิต
“ประธานนฤเบศวร์ ช่วยคนก็เหมือนกับต้องรีบไปช่วยดับไป ขอร้องคุณแล้วนะคะ……”
“พอแล้ว คุณเลิกร้องไห้ได้แล้ว ผมเกลียดผู้หญิงร้องห่มร้องไห้มากจริง ๆ เห็นแก่ที่คุณเคยช่วยผมมาก่อน และเราสองคนยังเคยไปดูตัวด้วยกันมาก่อนด้วย ผมจะช่วยคุณแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว จำคำพูดของคุณไว้ให้ดี ๆ ต่อไปผมยังมีเรื่องที่ต้องใช้งานคุณ คุณจะต้องช่วยผมอย่างไม่มีเงื่อนไขด้วย”
“ยังมีอีก พอช่วยเทวิกากลับมาได้แล้ว คุณจะต้องเลี้ยงข้าวผมด้วย”
กนกอรรีบพูดขึ้นว่า “ขอแค่เทวิกากลับมาอย่างปลอดภัย จะให้ฉันเลี้ยงข้าวประธานนฤเบศวร์ทุกวันก็ได้ค่ะ”
“คุณจำคำพูดของคุณไว้ให้ดีนะ”
นฤเบศวร์พูดขึ้นมา “ผมจะส่งคนไปช่วยตามหาเบาะแสของเทวิกาเดี๋ยวนี้ แต่ว่า ผมไม่รับประกันนะว่าจะช่วยคนเป็น ๆ กลับมาให้คุณ ถ้าเกิดพวกโจรรู้ตัวว่าก่อเรื่องใหญ่ขึ้นมา แล้วก็ทำให้เรื่องมันจบ ๆ ไป จนจัดการเทวิกาไป คุณจะมาโทษผมไม่ได้นะ”
“ไม่มีทาง วิกาต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน! ไม่ว่าผลจะออกมาดีหรือร้าย ฉันก็จะไม่โทษประธานนฤเบศวร์เลยค่ะ”
นฤเบศวร์พึมพำขึ้น “ตอนต้องการความช่วยเหลือจากผมก็เรียกผมว่าประธานนฤเบศวร์ ตอนไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมก็เรียกผมว่าแบตบอส”
“ต่อไปนี้ฉันจะไม่เรียกคุณว่าแบตบอสอีกแล้วค่ะ”
นฤเบศวร์ทำเสียงหึออกมาคำหนึ่ง แล้วก็วางสายของกนกอรไป แล้วก็ไปสั่งให้คนของตัวเองเข้าไปอยู่ในปฏิบัติการค้นหาเทวิกาทั่วเมืองด้วย
……
เทวิกาถูกคนตีจนสลบไป มือถือก็ถูกอีกฝ่ายเอาไปปิดเครื่อง ทำให้ไม่มีใครสามารถติดต่อเธอได้
คนที่ลักพาตัวเธอ เปลี่ยนรถไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด แล้วก็ออกไปจากตัวเมืองที่ผู้คนคึกคักอย่างสบาย ๆ ขับออกไปทางชานเมือง และอยากจะรีบไปให้ถึงจุดนัดหมาย เอาคนไปส่งให้เครื่องบินส่วนตัวที่มารอแล้ว พวกเขาก็จะเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว
เพียงแต่ว่า ไม่นาน พวกเขาก็พบว่าถูกคนไล่ตามมา และถูกตามล่าทั้งเมืองแล้ว เพราะบนถนนเริ่มมีด่านตรวจเพิ่มขึ้นมา และให้ตรวจตรารถที่เข้าออกทุกคัน
บีบจนพวกเขาต้องคอยเปลี่ยนเส้นทางไปเรื่อย ๆ
เมื่อกี้ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมงานโทรมาอีกแล้ว บอกว่าด้านหน้ามีด่านเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว ผู้ชายคนที่ประคองเทวิกาที่ยังสลบอยู่ พูดกับเพื่อนในรถขึ้นอย่างหงุดหงิดว่า “นี่ตกลงเด็กสาวคนนี้มีสถานะอะไรกัน แค่ในช่วงสั้น ๆ แบบนี้ก็สามารถทำให้ผู้คนออกมาเคลื่อนไหวได้มากขนาดนี้แล้ว และยังสามารถทำให้ทั้งเมืองตั้งด่านขึ้นมาตรวจสอบรถที่สัญจรไปมาด้วย”
“นี่พวกเรารับงานที่ไม่ควรรับ แตะต้องคนที่ไม่ควรแตะต้องใช่หรือเปล่าเนี่ย”
“ข้อมูลที่ลูกค้าให้มา บอกว่าเด็กสาวนี่เป็นแต่ลูกสาวของครอบครัวทั่วไปนี่ นอกจากอายุน้อยและสวยงามแล้ว ข้อมูลของเธอไม่มีอะไรโดดเด่นเลยนี่”
ผู้ชายคนนั้นก่นด่าขึ้นมา “ลูกค้าจะต้องปิดบังอะไรอยู่ และไม่ได้ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนมาแน่ แค่ลูกสาวของตระกูลธรรมดา จะเรียกการตรวจตรามามากขนาดนี้ได้ยังไง?”
“อาจจะ ไม่ได้มาตรวจสอบพวกเรามั้ง”
พวกเขาก็แค่หวาดระแวงเพราะเป็นโจร ก็เลยไม่กล้าฝ่าด่านตรวจเท่านั้น
“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง……”
“พี่ใหญ่โทรศัพท์มาแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน