เทวิกาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ช่วงบ่ายยศพัฒน์จึงไม่ได้เข้าไปที่บริษัท ทุกคนต่างก็เข้าใจ และทำการแบ่งงานของเขาไปจัดการอย่างรู้หน้าที่
โดยเฉพาะการปิดข่าวกับทางผู้ใหญ่ พอถึงตอนเย็น ยศพัฒน์ก็พาเทวิกากลับคฤหัสถ์เมเปิล
คุณปู่ภูธิปกับภรรยากำลังนั่งอาบแดดยามเย็น และดูแลรดน้ำดอกไม้ในสวน
พอเห็นทั้งคู่กลับมา คุณย่าชนิศาก็ยกยิ้ม และพูดกับสามีของเธอ “ผู้ชายพอแต่งงานก็เปลี่ยนไปเลยจริงๆ สมัยก่อนพี่พัฒน์มักจะอยู่ที่คอนโดกรีนทาวน์เอาแต่บอกว่ามันใกล้บริษัท นานๆ ที่ถึงจะกลับมาที่บ้านสักครั้ง แต่ตอนนี้กลับบ้านแทบทุกวัน”
เพราะหลานสะใภ้ชอบสภาพแวดล้อมของคฤหัสถ์เมเปิล
คุณปู่ภูธิปเงยหน้ามองไปที่รถของหลานชายแล้วส่งเสียงฮึดฮัด “ดังนั้น ต้องรีบให้พวกเขาแต่งงานกันโดยเร็วที่สุด พวกเขาจะได้กลับมาบ่อยๆ บ้านเราจะได้มีชีวิตชีวามากขึ้น”
มีลูกหลานเยอะ แต่ทุกคนต่างก็งานยุ่งไม่ค่อยได้อยู่บ้าน
ที่อยู่กับสองผู้เฒ่าก็มีแต่พวกคนรับใช้ในบ้าน
ไม่ใช่ว่าลูกหลานไม่สนใจพวกเขา เพียงแต่สนใจไม่เพียงพอ ไม่มีใครสามารถกลับบ้านมาหาพวกเขาได้ทุกวัน
หลังจากพวกลูกชายเกษียณอายุออกมาแล้ว ทุกคนก็พาภรรยาไปเที่ยว เพื่อชดเชยเวลาให้คู่ชีวิต
โชคดีที่ ทุกคู่ยังอยู่ด้วยกันไม่แยกทางกัน
กลายเป็นคู่ชีวิตของกันและกัน
คุณย่าชนิศาพูดยิ้มๆ “ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ ฉันไม่อยากเร่งเร้าพวกเขา ลูกหลานมีชะตาชีวิตของตัวเอง เราไม่จำเป็นต้องคอยช่วยพวกเขา นอกจากเจ้าสิบ ทุกคนต่างก็โตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว พวกเขามีความคิดของตัวเอง มีชีวิตของตัวเองที่ต้องเดินต่อไป”
หลานชายคนโตแต่งงานแล้ว เธอมีหลานสะใภ้แล้ว แค่นี้เธอก็พอใจมากแล้ว
อย่างน้อย ก็มีหลานชายหนึ่งคนแต่งงานแล้ว
พิสูจน์ได้แล้ว พอโชคชะตามาถึง อะไรก็หยุดไม่อยู่
คุณปู่ภูธิปรู้สึกว่าสิ่งที่ภรรยาพูดนั้นสมเหตุสมผล เพื่อลูกหลานเขาสร้างธุรกิจครอบครัวจนใหญ่โตได้เช่นนี้ เขาก็ทุ่มเทกำลังกายและใจไปมาก ตอนนี้เขาอายุมาถึงขนาดนี้แล้ว ควรจะพักผ่อนได้แล้ว รอมีเหลนชายหรือเหลนสาว พวกเขาจะได้มองดูเด็กๆ เติบโต ชีวิตก็มีแค่นี้
ยศพัฒน์สองสามีภรรยาไม่รู้ว่าสองผู้เฒ่ากำลังคุยอะไรกัน เขาจอดรถในโรงรถและลงจากรถมาพร้อมกับเทวิกา
สองสามีภรรยาซื้อของขวัญให้ผู้เฒ่าทั้งสองด้วย
ก่อนที่จะเข้าใกล้ ก็เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเทวิกาแล้ว
สิ่งที่เธออิจฉามากที่สุดคือความรักของปู่ย่าของพี่พัฒน์ ถึงแม้ผมจะขาวไปหมดแล้ว และก็ยังรักกันมาก
ปู่กับย่าของเธอก็รักกันมาก แต่บางครั้งก็มีทะเลาะกันบ้าง คุณปู่ชอบพูดจู้จี้จุกจิก คุณย่าอยากจะทำอะไร คุณปู่ก็จะพูดต่อว่าเล็กน้อย บางครั้งคุณย่าทนไม่ไหว แล้วทะเลาะกับคุณปู่
“สวัสดีค่ะคุณปู่ คุณย่า”
คุณปู่ภูธิปลุกขึ้นยืน และตอบกลับอย่างใจดี “เลิกงานแล้วเหรอ”
“ค่ะ เลิกงานแล้ว ร้านของหนูยังไม่เปิด พอช่างก่อสร้างกลับไป ที่ร้านก็ไม่มีอะไรทำแล้ว”
คุณย่าชนิศาพูดยิ้มๆ “ย่ากับปู่ของหลานกำลังจะล้างมือเตรียมกินข้าว พวกหลานกลับมาทันเวลากินข้าวกับปู่ย่าพอดี ทุกวันพวกเรากินข้าวกันแค่สองคน กินอะไรก็ไม่อร่อยเลย”
คนเยอะ ครึกครื้น กินอะไรก็อร่อย
เทวิกาจับกระถางดอกไม้จากคุณย่าชนิศามาไว้ในมือ “พี่พัฒน์กับหนูจะกลับมาหาคุณปู่คุณย่าทุกครั้งที่มีเรามีเวลานะคะ”
คุณย่าชนิศาชำเลืองมองไปที่หลานชายของเธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกหนุ่มสาวอย่างพวกหลาน ต่างก็งานยุ่ง ดังนั้นไม่ต้องกลับบ้านทุกวันก็ได้ แค่กลับมากับหาปู่กับย่าตอนช่วงสุดสัปดาห์ก็ดีมากแล้ว”
ทั้งสองยังต้องมีเวลาส่วนตัวเพื่อผูกสัมพันธ์กันด้วย
หลังจากประกาศความสัมพันธ์ระหว่างยศพัฒน์กับเทวิกาออกไป ป้ามะนาวบอกคุณย่าชนิศาว่ายศพัฒน์แอบรักเทวิกามานานแล้ว
ตอนที่คุณย่าชนิศาได้ยินยังตกตะลึงไปสักพักใหญ่
คิดไม่ถึงว่าหลานชายผู้หยิ่งผยองในอดีตจะแอบมุ่งหมายเทวิกามาตั้งนาน อยู่ต่อหน้าเทวิกาเขาจะเป็นผู้ชายที่อบอุ่นอ่อนโยน และมีความอดทนมากเช่นกัน ต้องรอถึงสิบเอ็ดปี กว่าจะได้หญิงสาวมาครอบครอง
เพื่อที่จะรั้งหญิงสาวไว้ข้างกาย หลานชายคนนี้ถึงกับ “ใช้แผนการเจ้าเล่ห์” ลับหลังเทวิกาเพื่อจัดการกับศัตรูความรักของเขาทิ้ง
คาดว่าเทวิกาคงอึดอัดใจมาหลายปี สาวสวยอย่างเธอ กลับไม่มีผู้ชายคนไหนเข้ามาจีบ
แต่หารู้ไม่ว่าคนที่คิดจะเข้ามาจีบเธอจะโดนยศพัฒน์กำจัดทิ้งอย่างเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน