เทวิกาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงโทรศัพท์มือถือเธอก็ดังขึ้นมาก่อน
กนกอรแกล้งแซวเธอว่า“ไม่ต้องดูก็รู้ ว่าท่านประธานของเธอโทรมา พวกเธอสองคนสามีภรรยาตอนนี้ตัวติดกันเป็นตังเม ใครเห็นก็อิจฉาตาร้อน คนที่ไม่เชื่อในความรัก เห็นพวกเธอสองคนสามีภรรยา คงต้องเชื่อ และเฝ้าโหยหาในความรัก ”
เทวิกาแซวเธอกลับว่า “ขอถามคุณกนกอรหน่อยว่าตอนนี้เชื่อในความรักหรือยังคะ เธอเองก็มีสามีจอมเผด็จการอยู่คนหนึ่งไม่ใช่เหรอ”
กนกอร“……คนคนนั้นจะไปเทียบกับสามีคนนี้ของเธอได้ยังไงเล่า”
เธอนับนิ้ว“ฉันกับเขาไม่ได้เจอกันสองสามวันแล้ว”
ไม่เจอก็ไม่เจอ เธอเองก็ไม่สนใจ
เดิมก็เป็นสามีภรรยาแค่ในนามอยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไรกัน
นฤเบศวร์ไม่โผล่หัวมาหลายวัน ยังคิดจะให้เธอไปหาเขาให้ได้เหรอ
ฝันไปเถอะ
ถ้าเธอไปหาเขา เขาต้องใช้คำพูดที่หลงตัวเองมาเอ่ยเตือนเธอว่า :อย่ามาตกหลุมรักผมเด็ดขาด!
เชอะ!
เธอไม่มีทางตกหลุมรักเขาเด็ดขาด ตาบอดเหรอ หาเรื่องใส่ตัวเหรอ!
“วันนี้เปรมาออกมาแล้ว เขาน่าจะไปรับเปรมา”
กนกอรเอ่ยมาหนึ่งประโยค
และก็เพื่อเตือนเพื่อนรักให้ระวังตัว
เปรมาไม่ยอมรามือง่ายๆแน่
“ออกมาก็ออกมาเถอะ ฉันไม่เคยกลัวเธอ”
เทวิการับสายท่านประธานจอมเผด็จการของเธอ
ก็ไม่รู้ว่ายศพัฒน์พูดอะไรในโทรศัพท์ กนกอรมองเห็นเพื่อนรักตื่นเต้น แต่ไม่นานก็กลับมานิ่งเป็นปกติ
หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว เทวิกาก็พูดกับเพื่อนรักว่า “ผลตรวจดีเอ็นเอของฉันกับแม่ออกมาแล้ว พี่ชายแท้ๆฉันจะเลี้ยงข้าวพวกเรา ฉลองให้พวกเราสองแม่ลูก พี่น้องได้กลับมาพบกันอีก อีกเดี๋ยวพวกเขาจะมารับพวกเราไปที่โรงแรมเมเปิล”
“ฉันก็ต้องไปด้วยเหรอ”
“แน่นอน แกเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันนี่ นอกเสียจากว่าแกไม่ดีใจกับฉัน”
“เป็นไปได้ยังไง แกได้เจอพ่อแม่แท้ๆ ฉันก็ต้องดีใจสิ ดีใจเป็นพิเศษเลย”
เทวิกายิ้ม“งั้นก็ไปกินข้าวด้วยกัน”
“ได้”
กนกอรไม่ปฏิเสธอีกต่อไป
……
รถหรูสิบกว่าคันจอดอยู่หน้าประตูเรือนจำ
นฤเบศวร์ถือช่อดอกไม้ไว้ในมือ ยืนอยู่ตรงหน้าประตู เหลือบมองประตูใหญ่ของเรือนจำ เฝ้ารอให้ประตูเปิด จะได้เห็นนางฟ้าขอเขาออกมา
คนที่มารับเปรมา นอกจากอัศวินผู้จงรักภักดีต่อเธออย่างนฤเบศวร์แล้ว ก็ยังมีคุณณัฏฐาแม่ของเธอรวมถึงบัณฑิตาด้วย
บัณฑิตายังคิดจะเรียกสามีให้มาเป็นเพื่อนด้วย แต่ถูกธารณ์ปฏิเสธ
ธารณ์บอกว่าเปรมาทำความผิด ถูกกักขัง ตอนนี้ครบกำหนดแล้ว ออกมาอย่างสงบเสงี่ยมเงียบๆหน่อยก็ดี ไม่ต้องใช้คนมากมายไปรับเธอขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นข้าราชการใหญ่โตแล้วกลับมาบ้านเกิดเสียหน่อย ต้องเอาคนมากมายมาทำเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ด้วยเหรอ
เขายังบ่นลูกชายด้วยว่า จดทะเบียนสมรสกับกนกอรแล้ว ก็ถือว่าเป็นคนที่แต่งงานแล้ว ทำไมยังต้องไปรับเปรมาออกมาอย่างใหญ่โตด้วย
จึงถูกบัณฑิตาทุบไปหนึ่งครั้ง
นฤเบศวร์ก็มองเวลาไม่หยุด
“เปิดประตูแล้ว”
บัณฑิตาพูด
นฤเบศวร์รีบหอบช่อดอกไม้เดินไปทันที
คนที่ออกมากลับไม่ใช่เปรมา แต่เป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
อีกฝ่ายมองเห็นภาพที่มีคนมารอรับอย่างใหญ่โตตรงหน้าประตู ยังคิดว่าตนเองออกมาผิดทางหรือเปล่า หลังจากชะงักไปพักหนึ่ง ก็หมุนตัวเดินกลับไป เดินไปสองก้าวก็จำได้ว่า ตนเองได้รับการปล่อยตัวแล้ว มีอิสรภาพอีกครั้งแล้ง ที่นี่คือประตูเรือนจำ เขไม่ได้เดินมาผิดทาง
หลังจากตั้งสติกลับมาได้ คนแปลกหน้าคนนั้นก็หมุนตัวกลับมาอีก เดินมาพลางมองนฤเบศวร์พลาง
ในใจก็คิดว่า เขาเพิ่งเคยเห็นคนที่หอบช่อดอกไม้มารอที่หน้าประตูเรือนจำเป็นครั้งแรก เหมือนจะมาขอแต่งงานอย่างนั้น
นฤเบศวร์ถลึงตาใส่อีกฝ่าย
คนนั้น……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน