รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน นิยาย บท 191

“เบศวร์ นายพูดแก้ตัวแทนกนกอร!”

เสียงของเปรมาแหลมเล็กน้อย

เธอรับไม่ได้ที่นฤเบศวร์พูดแก้ตัวแทนผู้หญิงคนอื่น

นฤเบศวร์อ้าปากเล็กน้อย แต่กลับไม่รู้ว่าควรพูดอะไร

เพราะที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง

ทว่าเมื่อเห็นท่าทางไม่พอใจของเปรมา เขาก็ไม่รู้ว่าควรอธิบายยังไง จึงเลือกที่จะเงียบแทน

“ยัยกนกอรนั่นมีชั้นเชิงกว่าเทวิกาเสียอีก เทวิกายังซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา แต่กนกอรกลับใช้แต่กลอุบาย หลอกให้พวกนายเชื่อสนิทใจ”

นฤเบศวร์เม้มปาก ถามเธอว่า “เปรมา เธอได้ยินเรื่องที่ฉันกับกนกอรแต่งงานกันแล้วก็รู้สึกเสียใจมากใช่หรือเปล่า ที่ร้องไห้ในโทรศัพท์ก็เป็นเพราะฉันงั้นเหรอ?”

“ไม่ใช่ เป็นเพราะฉันถูกเทวิกายั่วโมโห”

ความคาดหวังของนฤเบศวร์พลันดับสลายลงในพริบตา

เธอร้องไห้อย่างปวดใจขนาดนั้น พังข้าวของมากมายขนาดนั้น ดึกดื่นแล้วก็ยังไม่นอน ที่แท้ก็ไม่ใช่เพราะหึงหวงเขา แต่เป็นเพราะถูกเทวิกายั่วโมโห

สีหน้าเขาหม่นหมองลง สุดท้ายเขาก็สำคัญตัวไปเอง

“เทวิกาทำอะไรเธองั้นเหรอ?”

นฤเบศวร์เผยสีหน้าปกติดังเดิม พลันถามเปรมาอย่างเป็นห่วง

“ฉันอยากคุยกับพัฒน์ ก็เลยโทรหาพัฒน์ แต่คนที่รับสายไม่ใช่พัฒน์ กลับเป็นเทวิกายัยคนต่ำทรามนั่น เราสองคนทะเลาะกันในโทรศัพท์ แต่ฉันเถียงแพ้ จากนั้นก็ถูกหล่อนยั่วโมโหจนปรี๊ดแตก”

“แล้วมารู้อีกนายกับกนกอรจดทะเบียนสมรสกันแล้ว พลันรู้สึกว่าแม้แต่นายก็ไม่ต้องการฉันแล้ว ฉันก็ยิ่งรู้สึกเสียใจ ก็เลย.....”

เปรมามองนฤเบศวร์ไม่วางตา ภายใต้แสงไฟ ใบหน้าหล่อเหลานี้อยู่ห่างเพียงแค่คืบ สีหน้าเต็มไปด้วยความห่วงใยที่มีต่อเธอ ในดวงตาเขาสะท้อนเงาของเธอเพียงคนเดียว

ในดวงตาของยศพัฒน์ไม่มีเธอ

แต่เธอกลับเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของนฤเบศวร์

คิดได้ดังนั้น ในใจของเปรมาก็รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย อย่างน้อยเธอก็ยังมีนฤเบศวร์

แม้นฤเบศวร์จะแต่งงานแล้ว ตราบใดที่เธอเปรมายังมีชีวิตอยู่ เธอเชื่อว่านฤเบศวร์จะไม่มีวันลืมเธอ ทั้งใจเขาจะมีแต่เธอ กนกอรก็ทำได้แค่ใช้ชีวิตเยี่ยงแม่ม่ายไปตลอดชีวิต

“เบศวร์”

เปรมาเอียงหัวซบไล่นฤเบศวร์ มือทั้งสองข้างโอบล้อมเอวเขา แล้วถามด้วยน้ำเสียงหยดย้อยว่า “เบศวร์ นายจะทิ้งฉันไปไหม?”

นฤเบศวร์ฝืนฉีกยิ้ม “ที่ผ่านมามีแต่เธอไม่ต้องการฉันมาโดยตลอด”

เปรมาพูดอย่างออดอ้อนว่า “เราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันนี่นา นายคือเพื่อนสนิทผู้ชายเพียงคนเดียวของฉัน”

ที่แท้ เขาก็เป็นได้แค่เพื่อนสนิทผู้ชาย

นฤเบศวร์รู้สึกเศร้าเสียใจ

ปู่บอกว่า หากเปรมามีใจให้เขาแม้เพียงเล็กน้อย ปู่ก็จะไม่ขัดขวางเขากับเปรมาอยู่ด้วยกัน

เปรมากลับไม่มีใจให้เขาเลยแม้แต่น้อย......

“เปรมา ดึกมาแล้ว เดี๋ยวฉันอุ้มเธอไปนอนที่เตียง อย่าคิดมากนักเลย พักผ่อนดีๆ พักฟื้นแผลที่ฝ่าเท้าให้หาย เธอจึงจะสามารถทำเรื่องที่เธออยากทำได้”

เปรมาไม่ปฏิเสธ

เธอปล่อยให้นฤเบศวร์อุ้มเธอกลับไปที่เตียง เขาวางเธอนอนลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน

หลังจากที่วางเธอลง เขาไม่ได้ปล่อยเธอออกทันที แต่กลับก้มหัวสบมองเธออย่างรักใคร่

มีชั่ววินาทีหนึ่ง ที่เปรมาอยากจะคล้องคอเขาแล้วจูบเขา กระทั่งขึ้นเตียงกับเขา

เพียงแต่นี่ก็เป็นแค่ความคิดชั่ววูบ

เปรมาไม่ได้ทำแบบนั้น เธอจะเก็บรักษาร่างกายที่บริสุทธิ์ของเธอมอบให้ยศพัฒน์

ทว่า หากนฤเบศวร์อยากจูบเธอ เธอเองก็จะเก็บนฤเบศวร์ไว้เป็นตัวสำรอง เธอยอมจูบกับเขา

นฤเบศวร์ลูบตาเธอเบาๆ

เปรมาหลับตาลง ริมฝีปากแดงขยับเล็กน้อย

เธอนึกว่านฤเบศวร์จะจูบเธออย่างเผด็จการ

แต่กลับไม่ใช่

นฤเบศวร์ลูบตาเธอเสร็จ ก็ลูบหน้าผากเธอต่อ น้ำเสียงที่อ่อนโยนดังลอดมาจากเหนือศีรษะเธอ “พักผ่อนดีๆ ฉันกลับไปล่ะ”

พูดจบ เขาก็หยัดกายขึ้น ก่อนหันตัวเดินจากไป

“เบศวร์”

เปรมาผุดลุกขึ้นนั่ง พลันยื่นมือไปรั้งนฤเบศวร์ ขณะที่นฤเบศวร์หันศีรษะมามองเธอ เธอก็อ้อนวอนอย่างน่าสงสารว่า “คืนนี้นายอยู่ที่นี่ได้ไหม? ตอนนี้ฉันนอนไม่หลับ นายอยู่คุยเป็นเพื่อนฉันหน่อย”

นฤเบศวร์เงียบไปเนิ่นนาน

สุดท้ายก็เอามือเธอออก เอ่ยเสียงทุ้มต่ำว่า “เปรมา ฉันรู้สึกยังไงกับเธอ เธอรู้ดี ให้ฉันอยู่ที่นี่ ฉันทำไม่ได้ถ้าให้จบแค่คุยกับเธอ เพื่อไม่ให้เราทั้งคู่เสียใจภายหลัง ฉันกลับบ้านดีกว่า”

คราวนี้เปรมาไม่กล้ารั้งเขาไว้อีก

“ราตรีสวัสดิ์”

นฤเบศวร์เอ่ยราตรีสวัสดิ์เสร็จก็เดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันหัว

เปรมานั่งเหม่ออยู่บนเตียง

ทันทีที่นฤเบศวร์จากไป คุณณัฏฐาก็เดินเข้ามา

เมื่อเห็นสภาพห้องที่ยุ่งเหยิง เธอก็ตำหนิลูกสาวว่า “ยัยคนไม่ได้เรื่อง โมโหก็โมโหสิ จะพังข้าวของตัวเองทำไม เบศวร์มาแล้ว ทำไมไม่ให้เขาค้างที่นี่? เพียงแค่เธอเอ่ยปาก เขาก็จะค้างที่นี่แน่ ๆ”

เปรมาเอ่ยเสียงเรียบว่า “แม่ หนูยังไม่พร้อม ให้เวลาหนูคิดดูก่อน”

“เธอก็คิดถึงแต่ยศพัฒน์นั่นแหละ แม่พูดกับเธอไปเยอะแยะ เธอฟังไม่เข้าหูเลยหรือไง? เธอยอมให้กนกอรแย่งนฤเบศวร์ไปต่อหน้าต่อตาเธอได้เหรอ?”

“กนกอรไม่มีปัญญาทำได้หรอก”

เปรมาเอ่ยเสียงเย็นว่า “หนูกับเบศวร์เป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน รู้จักกันมายี่สิบกว่าปี เขาเองก็รักหนูมาแล้วสิบกว่าปี กนกอรเพิ่งรู้จักกับเขาได้แค่กี่วันกัน? จะเทียบกับความสัมพันธ์ยี่สิบกว่าปีของเราได้ยังไง?”

“แม่ วางใจเถอะ หัวใจของเบศวร์อยู่ที่หนู ไม่มีใครแย่งเขาไปได้หรอก”

“ส่วนกนกอร—“

ดวงตาของเปรมาฉายแววอำมหิต “จะจัดการคนเดียวหรือสองคนก็ไม่ต่างกัน งั้นก็สู้หนึ่งต่อสองไปเลย!”

ณัฏฐามองลูกสาวอย่างจนใจ

สิ่งที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว แต่ลูกสาวฟังไม่เข้าหูเลย เธอก็ทำได้เพียงพยายามช่วยลูกสาวให้ถึงเป้าหมายอย่างสุดความสามารถ

เช้าวันที่สอง

เทวิกาถูกจูบถี่ ๆจนตื่น

ลืมตาขึ้นก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาของยศพัฒน์ เธอยิ้มกว้างทันที “สามี อรุณสวัสดิ์”

“ภรรยา อรุณสวัสดิ์”

ยศพัฒน์จุมพิตริมฝีปากเธอ “ที่รัก มา สามีมอบจูบตอนเช้าให้เธอ”

สิ้นเสียง เทวิกาก็ไม่มีโอกาสปริปากอีก

เมื่อแรกเริ่ม จูบของเขายังมีความอ่อนโยนแฝงซ่อนความร้อนแรง เมื่อถูกเขาจูบ ก็จะสูญเสียการควบคุมและยอมแพ้ได้อย่างง่ายดาย

จากนั้น เขาก็จะค่อยๆเผด็จการขึ้น

ให้ความรู้สึกเธอเหมือนเขากำลังรุกรานเธอยังไงอย่างงั้น

ทุกครั้งก็จะทำให้เธอลุ่มหลง แต่ก็รู้สึกว่าหากเขายังไม่ปล่อยเธอ เธอก็จะขาดอากาศหายใจ

จนในที่สุด เขาก็ยอมปล่อยเธอแล้วสักที

ผ่านไปไม่กี่นาที เทวิกาถามเขาว่า “พี่ให้คนกลับไปรับพ่อกับแม่ฉันแล้วเหรอ?”

“อืม คนขับรถออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว รอเธอถึงที่ร้านเมื่อไหร่ ก็จะได้เจอพวกคุณปู่คุณย่าแล้ว”

เทวิกาโอบคอเขา แล้วเอ่ยอย่างซาบซึ้งว่า “ขอบคุณนะ”

เขาใส่ใจเกินไปแล้ว

ยศพัฒน์: กว่าจะได้ภรรยามาครอบครองก็ใช้เวลาถึงสิบเอ็ดปี จะไม่ให้ใส่ใจได้ยังไงกัน?

“จะตื่นแล้วหรือยัง?”

“ตอนนี้กี่โมง?”

“น่าจะกำลังเจ็ดโมงแล้ว”

เทวิกาปล่อยมือที่คล้องคอเขาออก แล้วลุกขึ้นนั่ง “พ่อแม่ฉันจะมากันแล้ว เราออกบ้านกันเช้าๆเถอะ”

ยศพัฒน์ยิ้มเอ่ยว่า “เดินทางจากที่นี่ไปไม่ไกลหรอก ไม่ต้องรีบก็ได้”

เขาเองก็ลงจากเตียงด้วย

เมื่อเทวิกาแต่งตัวเสร็จ ก็เห็นเขากอดช่อดอกไม้เดินมาหาเธอ

เขายื่นช่อดอกไม้นั้นมาให้เธอ

“ที่รัก ช่อดอกไม้นี้ใช้งานได้จริงนะ ต่อให้เธอปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน มันก็จะไม่เหี่ยวเฉา”

นั่นคือช่อดอกไม้เงิน!

เป็นช่อดอกไม้ที่ใช้ธนบัตรห้าร้อยมาประดิษฐ์

สีเหมือนช่อกุหลาบ

ก็จริงที่ทั้งสวยและใช้งานได้จริง และก็ไม่มีทางเหี่ยวเฉาด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน