“ช่วงนี้ไม่มีคนเข้ามา เข้าไปกับพ่อ เร็วๆ หน่อย”
ไซม่อนพูดเสียงต่ำออกมา แล้วเดินเข้าไปในบ้านก่อน
ประยสย์เดินตามฝีเท้าของพ่อเข้าไปข้างใน
เขาจำที่นี่ได้เล็กน้อย ตอนเด็ก พ่อเคยลองพาเขากับแม่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ แต่เมื่อคุณแม่ย้ายไปอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย ก็จะร้องไห้และงอแง นั่นเป็นเพราะว่าเธอรู้สึกไม่ปลอดภัย
เนื่องจากทำอะไรไม่ได้เลย พ่อจึงจำเป็นต้องพาพวกเขาแม่ลูกเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลสาระทาอีกครั้ง
เมื่อก่อนประยสย์ไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจแล้ว ลึกๆ ในใจของคุณแม่แล้วเธอรู้ว่าลูกสาวได้หายตัวไป เธอจึงไม่อยากออกไปจากคฤหาสน์ของตระกูลสาระทา เพราะกลัวว่าถ้าลูกสาวกลับมาจะหาบ้านไม่เจอ ดังนั้นถึงแม้ว่าเธอตอนอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลสาระทาจะถูกรังแก ถูกด่าทอ เธอก็ยังยืนยันที่จะอยู่คฤหาสน์ของตระกูลสาระทาต่ออีก แต่คุณแม่กลับลืมคิดไปว่าตอนที่น้องสาวหายตัวไปนั้นอายุแค่หกเดือนเอง เธอไม่มีทางจำบ้านได้เลยด้วยซ้ำ
นั่นเป็นเพราะความดื้อดันของคนเป็นแม่เท่านั้นเอง
พ่อลูกเดินขึ้นไปชั้นสอง จากนั้นเข้าไปในห้องหนังสือของไซม่อน
ในห้องหนังสือถึงแม้จะเต็มไปด้วยฝุ่น แต่ของตกแต่งข้างในไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย ยังคงรักษาสภาพเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนเหมือนเดิม
เมื่อเข้าไปในห้องหนังสือ ประยสย์เห็นรูปภาพแต่งงานของพ่อแม่ สมัยที่พวกเขายังอายุน้อยอยู่พ่อเม่ถือว่าเป็นหนุ่มหล่อสาวงามเลยทีเดียว เสมือนกับกิ่งทองใบหยก ก็เหมือนตอนนี้ ถึงแม้คุณพ่อของเขาจะอายุห้าสิบกว่าแล้ว ก็ยังคงมีผู้หญิงอายุยี่สิบกว่าอย่างพลอยอยากแต่งงานกับเขาอยู่
ไซม่อนปิดประตูห้องหนังสือ แล้วพูดกับลูกชายว่า: “ที่นี่มีผนังกั้นเสียง พูดอะไรกันข้างใน ข้างนอกจะไม่ได้ยินเลย”
ตอนที่สร้างคฤหาสน์อีกหลังนี้นั้น คิดว่าจะอยู่กันแค่ครอบครัวสี่คน ห้องหนังสือของเขาเลยไม่ได้สร้างไว้ในที่โล่ง แต่ก็ได้ทำที่กั้นเสียงไว้ ดังนั้นจึงสามารถพูดความในใจกันได้อย่างสบายใจ
“แม่ของนายทำไมไม่กลับมาพร้อมนายด้วยหล่ะ?”
“คุณพ่อไม่รู้สึกเหรอว่าผมกลับมาคนเดียวปลอดภัยกว่า?แม่ผมสติไม่ดี พาเธอมาด้วย น่าจะถูกคนจับได้ง่าย”
ไซม่อนนั่งลงในห้องหนังสือ จากนั้นถามอาการของภรรยาออกมาว่า: “แม่นายเป็นยังไงบ้าง?
พวกแกเจอน้องสาวแล้วแม่แกมีปฏิกิริยาอะไรบ้าง?มีวี่แววดีขึ้นไหม?”
“ผมคิดว่าคุณพ่อจะไม่เป็นห่วงอาการของแม่ผมเสียอีก”
คำพูดนี้ของประยสย์มีอารมณ์ประชดเล็กน้อย “ยี่สิบกว่าปีมานี้ พ่อไม่สนใจอะไรเลย ตอนนี้มาถามโน่นถามนี่ ทำให้ผมรู้สึกเสียดสีมาก”
เมื่อถูกลูกชายพูดจาเสียดสีใส่ สีหน้าของไซม่อนดิ่งลง เหมือนกำลังโกรธ แต่ก็ไม่ได้ระบายความโกรธใส่ลูกชาย และเขาก็ไม่ได้ช่วยตัวเองแก้ตัว
“หลังจากที่แม่ผมได้เจอกับวิกา เธอจำวิกาไม่ได้ แค่รู้สึกว่าเธอชอบวิกามาก อยากเข้าใกล้วิกามาก เธอคิดว่าวิกาอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอด้วยซ้ำ”
“แต่ว่า ดีขึ้นกว่าอยู่ที่บ้านเยอะเลย หลายครั้งที่มองดูไปก็เหมือนคนปรกติ”
หลังจากที่แม่ลูกได้เจอกันแล้ว ถึงแม้คุณหญิงธิษณาสติยังไม่ได้คืนกลับมาเหมือนเดิม แต่ก็ดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด
สายตาของไซม่อนเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาถามออกมาเสียงต่ำ: “วิกาเป็นยังไงบ้าง?”
“วิกาดีมาก คุณลุงสิรภพกับคุณป้าพิชญ์สินีทุกคนในบ้านรักเธอเหมือนลูกแท้ๆ และดีกับเธอมาก”
ประยสย์รู้สึกขอบคุณคนของบ้านตระกูลวาชัยยุงมาก
“พ่อ วิกาแต่งงานแล้ว”
ประยสย์พาแม่ที่เสียสติไปหาน้องสาวกว่าพันไมล์ และหลังจากที่บินไปถึงเมืองแอคเซสซ์ แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ไซม่อนจะไม่ทำอะไรเลย เขาได้หาคนไปปกป้องภรรยาและลูกอย่างเงียบๆ ถึงแม้เขาจะยังไม่เคยเห็นลูกสาวที่โตแล้ว แต่รูปถ่ายของเทวิกา ก็ได้ส่งถึงมือเขาตั้งนานแล้ว
และไม่ได้มีแค่ใบเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน