“ยศพัฒน์ ฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว ครั้งนี้คุณให้อภัยฉันเถอะนะคะ ฉันรับรองว่าจะไม่ไปตามรังควาญคุณอีก ไม่กล้าอีกแล้ว……ยศพัฒน์!”
เปรมาตามมาทันยศพัฒน์ แต่เธอคว้าไม่ทันแม้แต่ชายเสื้อของเขา ก็ถูกบอดี้การ์ดขวางเอาไว้ เธออยากจะไปข้างหน้า แต่บอดี้การ์ดก็ผลักเธอออกอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด ผลักจนเธอล้มนั่งลงกับพื้น
ยศพัฒน์ไม่ได้สงสารเห็นใจเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะมีคุณชายอย่างเขานี้ถึงทำให้มีบอดี้การ์ดแบบนี้
ถ้าเป็นบอดี้การ์ดของเบศวร์ แม้แต่จะพูดเสียงดังกับเธอยังไม่กล้าเลย
“พัฒน์……ฉันไม่อยากติดคุก ฉันไม่อยากติดคุกแล้ว!”
เปรมาหมอบร้องไห้อยู่กับพื้น
เวลานี้เอง เธอเสียใจภายหลังอย่างยิ่งจริงๆ
สิบปีก่อน ก็ได้ลิ้มรสความเย็นชาไร้ความปรานีของเขาแล้ว
สิบปีต่อมา เธอก็ยังยั่วโมโหเขา เรียกว่ารนหาที่ตายเอง
มักจะคิดว่า อย่างน้อยเขาก็น่าจะเห็นแก่ที่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก เมตตาปรานีกับเธอบ้าง
เธอคิดผิดแล้ว!
ในอดีตไม่ใช่ว่าเขาใจอ่อนสงสาร แต่เพราะว่าเขายังรวบรวมหลักฐานได้ไม่มากพอ เธอยังไม่ได้ทำความผิดกับเขาอย่างแท้จริง!
ยศพัฒน์ที่รายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ด ก้าวขาเดินจากไป
คนรับใช้ของตระกูลไชยรัตน์ต่างพากันหลบซ่อนตัว ไม่กล้าโผล่หน้าออกมา กลัวว่าจะถูกคุณนายกับคุณหนูด่าว่าด้วยความโกรธ
ในใจของบรรดาคนรับใช้ก็สงสัยมาก
คุณชายพัฒน์ไม่ได้ทำอะไรคุณหนูเลย ก็แค่โยนแฟ้มเอกสารให้คุณหนู คุณหนูก็ร้องห่มร้องไห้ คุณนายยังใจร้ายตบหน้าคุณหนูจนบวมเป่งเลยอีกด้วย
ฆ่าคนโดยไม่ใช้มีด! ไม่เห็นเลือดด้วย ทั้งยังไม่ผิดกฎหมายอีก!
คนที่พูดถึงก็คือคุณชายพัฒน์
“แม่ หนูจะทำยังไงดี หนูไม่อยากติดคุก!”
เปรมาเห็นแม่เดินมา ก็กอดขาแม่เอาไว้ ร้องไห้ฟูมฟาย“แม่คะ แม่ช่วยหนูด้วย พวกเราไปหาน้าฑิตา ไปหาเบศวร์กัน น้าฑิตารักหนูที่สุดเลย เบศวร์ก็เหมือนกัน พวกเขาสองคนแม่ลูกต้องช่วยหนูแน่นอน”
“ใช่ ไปหาเบศวร์ ฉันจะไปหาเขาตอนนี้เลย!”
เปรมาลุกขึ้นมา ปาดน้ำตา ก็เตรียมจะไปหานฤเบศวร์ เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็กลับมาพูดกับแม่ว่า“แม่ แม่ช่วยตบหนูอีกสองสามทีได้มั้ย ให้หน้าหนูบวมขึ้นอีกหน่อย แบบนี้หนูไปหาเบศวร์ เบศวร์จะได้สงสาร จะได้ช่วยหนูโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”
ณัฏฐาทำตามความต้องการของเธอ ตบหน้าเธออย่างแรงสองสามครั้ง ใบหน้าที่เดิมนั้นบวมแดงอยู่แล้วก็ยิ่งบวมแดงมากขึ้น
เปรมารู้สึกแค่ว่าแสบร้อนที่ใบหน้า
เธอเจ็บจนน้ำตาร่วง
ณัฏฐาเองก็สงสาร น้ำตารื้น
“แม่ หนูจะเชื่อแม่ ต่อไปจะเชื่อฟังแม่ทุกอย่าง หนูจะไปหาเบศวร์ หนูมันโง่ เบศวร์ดีกับหนูขนาดนั้น หนูก็ไม่รู้จักรักษาเขาไว้ให้ดี แล้วยังไปยั่วโมโหยศพัฒน์อีก จนต้องตกอยู่ในสภาพอย่างวันนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของหนูเอง”
เปรมาร้องไห้พลาง พร่ำเพ้อด้วยความเสียใจภายหลังไปพลาง
เธออยากจะไป แต่กลับถูกแม่รั้งตัวเอาไว้
“เปรม์ ดึกขนาดนี้แล้ว ลูกจะไปหาเบศวร์อีกเหรอ จะเป็นการรบกวนไอ้แก่หนังหนียวคนนั้น รอพรุ่งนี้ค่อยไปเถอะ ไม่ต้องไปที่บ้านตระกูลเดชอุป ตรงไปหาเขาที่บริษัทเลย”
“รอจนฟ้าสาง หน้าหนูก็หายบวมแล้ว จะทำให้เขาสงสารเห็นใจหนูได้ยังไงล่ะคะ”
ณัฏฐาพูดอย่างคาดหวังว่าลูกจะกลับตัวเป็นคนดีได้“แม่พร้อมที่จะช่วยตบหน้าลูกให้บวมได้ตลอดเวลา”
เปรมา“……”
นิ้วมือของแม่เริ่มถูที่หน้าผากของเธอ ถูไปพลางด่าไปพลางว่า“แม่โน้มน้าวลูกยังไง ปากลูกก็ตอบรับอืมๆ แต่ความจริงแล้ว ลุกทำอะไรไปบ้าง ดูสิ ตอนนี้ลูกเตรียมตัวติดคุก นี่เป็นผลของการกระทำของลูกเอง!”
“ก็บอกแล้ว ว่ายศพัฒน์ไม่ได้รักลูก ถ้าเขารักลูก สิบปีก่อนลูกก็ไม่ต้องไปต่างประเทศแล้ว สิบปีก่อนลูกยังเป็นสาวแรกรุ่น เขายังไม่รักลูกเลย ตอนนี้ลูกก็อายุปาเข้าไปเกือบสามสิบแล้ว สู้เด็กสาวสวยอายุยังน้อยไม่ได้ ลูกจะเอาอะไรไปสู้กับเทวิกา!”
“บอกว่าเขาเป็นคนชั้นต่ำแม้แต่พ่อแม่เป็นใครก็ยังมารู้ ดูสิ พ่อแม่เขามาตามหาถึงที่แล้ว คือตระกูลสาระทาแห่งเมืองซูเพร่า นั่นเป็นตระกูลมหาเศรษฐีพันล้าน! ทรัพย์สินส่วนตัวของผู้นำตระกูลสาระทามีมากกว่าพันล้าน มากมายเสียจนตระกูลของพวกเราต้องแหงนจนปวดคอก็ยังเอื้อมไม่ถึง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน