เทวิกาเองก็เหลือบมองเปรมา ครุ่นคิด ยิ้มให้ยศพัฒน์ พูดว่า“คุณสามี ในเมื่อคุณนฤเบศวร์มีน้ำใจเชิญ ถ้าพวกเราไม่เข้าไปนั่ง ก็จะเป็นการไม่ไว้หน้าคุณนฤเบศวร์ เห็นแก่กนกอรของฉัน พวกเราก็ควรจะไว้หน้าคุณนฤเบศวร์”
“อืม งั้นพวกเราก็เข้าไปนั่งหน่อยแล้วกัน”
นฤเบศวร์ฟังแล้วรู้สึกเศร้าใจ ถ้าเขากับกนกอรไม่ได้เป็นอะไรกัน สามีภรรยาคู่นี้คงไม่ยอมเข้าไปนั่งข้างในบ้านแน่
อีกอย่าง เทวิกาพูดว่าอะไรนะ“กนกอรของฉัน”!
กนกอรเป็นของเทวิกาเหรอ
เทวิกา:ก็คือกนกอรของฉัน คุณมีปัญหาเหรอ เชื่อมั้ยว่าฉันจะไปฟ้องเรื่องคุณต่อหน้ากนกอรสองครั้ง
นฤเบศวร์:ฟ้องครั้งเดียวผมก็กลัวแล้ว นี่ตั้งสองครั้ง อยากตายคงต้องรอหน่อยนะ!
เทวิกา:ยังกล้ามีปัญหาเหรอ
นฤเบศวร์ยกมือขึ้นทำท่าทางยอมแพ้:คุณเก่ง คุณพูดอะไรก็ถูกหมด!
ยศพัฒน์จูงมือเทวิกา นิ้วทั้งสิบของทั้งสองคนสามีภรรยาสอดประสานกันเดินผ่านหน้าเปรมาไป
เปรมาร้องไห้แต่ใบหน้าก็ยังสวยงดงาม ดูไปแล้วก็น่าเวทนา เธอเงยหน้าขึ้น มองสามีภรรยาที่มาเพื่อดูความน่าสมเพชของเธอโดยเฉพาะด้วยน้ำตานองหน้าในแววตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
เทวิกา!
ช่างร้ายกาจเกินไปแล้ว!
ชนะได้ยศพัฒน์ไปแล้ว ก็ช่างมัน ตอนที่เธอตกต่ำพ่ายแพ้ก็ยังวิ่งมาดูเพื่อเยาะเย้ย
เห็นนฤเบศวร์เดินนำยศพัฒน์สองสามีเข้าไป เปรมาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียก “เบศวร์!”
ฝีเท้าของนฤเบศร์เองก็หยุดชะงัก แต่ก็ไม่ได้หันหน้ากลับมา ไม่นานก็พาสองคนสามีภรรยาเดินไปไกลแล้ว
เปรมาทุบตีที่พื้น
แม้แต่เบศวร์เธอยังเสียเขาไปแล้ว!
เธอไม่เหลืออะไรแล้ว!
ไม่รู้ว่าร้องไห้นานแค่ไหน เปรมาล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาโทรไปหาแม่ ให้แม่มารับเธอ
เธอไม่สามารถขับรถกลับบ้านเองได้แล้ว กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง
คุณณัฏฐาได้ยินเสียงร้องไห้จากในโทรศัพท์ ไม่ได้ถามเธอว่าผลออกมาเป็นอย่างไร
เคยเตือนลูกสาวมานานแล้ว ให้ปล่อยยศพัฒน์ไป ยอมรับนฤเบศวร์ถึงจะมีความสุข
ลูกสาวไม่เชื่อคำพูดของตน ลูกสาวจึงต้องตกอยู่ในสภาพตรงหน้านี้
หลายนาทีหลังจากนั้น
ภายในห้องโถงที่หรูหราสวยงาม คุณปู่เร็นยิ้มเหมือนกับพระสังกัจจายน์
มองยศพัฒน์สองสามีภรรยาก็เหมือนกับมองหลานอย่างนั้น รักใคร่เอ็นดูมาก
ลุงเซนถือกล่องเครื่องประดับกล่องหนึ่งมา
เขาเอากล่องเครื่องประดับกล่องนั้นให้คุณปู่เร็น
คุณปู่เร็นรับกล่องนั้นมา มองเทวิกาอย่างรักและเมตตา พูดว่า “คุณเทวิกา
ครั้งก่อนตอนที่เจอคุณไม่ได้เตรียมของขวัญเอาไว้ ครั้งนี้ชดเชยให้แล้วกันนะ”
พูดไปพลาง เขาก็ยื่นกล่องเครื่องประดับกล่องนั้นให้เทวิกา
เทวิกาลุกขึ้นด้วยความเกรงใจอย่างมาก ยื่นมือไปรับ ท่าทางเขินอายแต่กลับยื่นมือไปรับกล่องเครื่องประดับ
ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ขอบคุณคุณปู่เร็น “คุณปู่เร็น ขอบคุณมากค่ะสำหรับของขวัญ คุณปู่ช่างใจดีเหลือเกิน”
คุณปู่เร็นคิดว่าเทวิกาจะปฏิเสธ
คิดว่าต้องเสียเวลาพูดจาหว่านล้อมอยู่นานกว่าเทวิกาจะยอมรับของขวัญจากเขา
คิดไม่ถึงว่าเทวิกาจะไม่เกรงใจเลยสักนิด หน้าตาดูเกรงใจไม่กล้ารับแต่ในใจนั้นอยากได้มาก
อาจจะกำลังคิดว่า:ของขวัญของตาแก่นี่ไม่รับก็เสียของ
มิน่าเล่ายศพัฒน์ถึงได้เล็งเด็กผู้หญิงคนนี้ไว้นานแล้ว เพราะเป็นผู้หญิงที่ดีเพียบพร้อมนี่เอง
“ไม่เป็นไร ฉันกับคุณปู่คุณย่าของเธอเคยเจอกันหลายครั้ง วันนี้พวกเขามาที่เมืองแอคเซสซ์
ฉันยังอยากคิดว่าถ้ามีเวลาจะไปเยี่ยมคารวะ ดื่มสังสรรค์กันหน่อย”
ประโยคหลังคืออยากจะกระชับความสัมพันธ์ให้สนิทสนมแนบชิดขึ้น
เทวิกากลับมานั่งข้างๆยศพัฒน์ ยิ้มบางๆแล้วพูดว่า “คุณปู่คุณย่าวางแผนว่าวันนี้จะกลับเมืองซูเพร่าแล้วค่ะ
ถ้าคุณปู่เร็นอยากไปเยี่ยมเยียนพวกท่าน คงต้องไปไกลหน่อยนะคะ ต้องไปที่เมืองซูเพร่าถึงจะได้ค่ะ”
“จะกลับเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมไม่อยู่อีกสักสองสามวันล่ะ”
“ท่านบอกว่าคิดถึงเตียงนอน พอเปลี่ยนที่นอนแปลกที่ก็นอนไม่หลับ ทรมานค่ะ”
คุณปู่เร็นสำลัก ไม่รู้จะตอบว่าอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน