แม้แต่สามีแท้ ๆ ก็ยังรีบกลับไปที่บริษัท เทวิกาจึงได้นั่งลงที่เคาน์เตอร์คิดเงิน แล้วก็บ่นกับเพื่อนสนิท:“ต่อไปชีวิตของฉันอย่าคิดจะมีชีวิตที่สงบเลย”
“เงียบสงบเกินไปก็ดูจะราบเรียบ ราบเรียบเกินไปก็จะดูน่าเบื่อ แบบนี้คึกคักครึกครื้น ดีจะตาย มีชีวิตชีวา มีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นทุกวัน"
กนกอรยื่นกาแฟให้เธอแก้วหนึ่งแล้วกล่าว:“ดูเธอสิ ขอบตาดำคล้ำแล้ว พักนี้คงไม่ได้นอนพักผ่อนดี ๆ สินะ”
รับแก้วกาแฟที่เพื่อนสนิทยื่นมาให้ เทวิกาดื่มสองอึก “เวลาเพียงไม่กี่วัน กลับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับหลายปี เรื่องที่ต้องให้คิดมีมากมายกว่าเรื่องยี่สิบก่อนปีเสียอีก ก็เลยทำให้นอนไม่หลับ”
บวกกับการมาเยี่ยมเยือนของเพื่อนเก่า ทำให้เธอจึงหลับไม่ค่อยสนิท
“รีบบอกฉันกับฉากเด็ดที่เธอได้ไปเห็นมาเลย นฤเบศวร์เป็นยังไงบ้าง เขาโอบกอดเปรมาและตามใจเธอ แล้วก็สัญญาว่าจะช่วยเธอใช่ไหม”
กนกอรสองมือวางลงที่เคาน์เตอร์คิดเงิน แล้วถามเพื่อนด้วยความสนใจอย่างมาก
“ว่าไปแล้วพวกเธอสองสามีภรรยาก็ใช่ย่อยเลยนะ ตั้งใจพาบอดี้การ์ดไปดูละครเด็ด ๆ ด้วย”
เทวิกาวางแก้วกาแฟลง อาศัยช่วงที่ทางร้านมีลูกค้ายังไม่เยอะ เธอหยิบแล็ปท็อปจากกระเป๋าตัวเองออกมาวางไว้บนโต๊ะเคาน์เตอร์คิดเงิน พลางเปิดแล็ปท็อปพลางตอบเพื่อนสนิท:“ถ้าเธออยากรู้มากขนาดนั้นละก็ ทำไมไม่ไปถามนฤเบศวร์เองล่ะ ฉันคิดว่าเธอโทรศัพท์ไปหาเขาตอนนี้ เขาจะต้องรู้สึกซาบซึ้งใจเธออย่างมากแน่นอน”
กนกอรก็ท้วงขึ้นหนึ่งประโยค “ฉันไม่ได้เป็นห่วงเขาสักหน่อย ฉันแค่อยากรู้จุดจบที่น่าสังเวชของเปรมาเท่านั้น ยศพัฒน์ของเธอออกโรงจัดการเอง จะต้องโหดเหี้ยมมากสินะ หากว่าคว้าน้ำเหลวทั้งสองทาง ฮ่า ๆ ฉันอยากจะซื้อประทัดกลับมาจุดสักหลาย ๆ วัน”
“เมืองแอคเซสซ์ห้ามจุดประทัด”
เทวิกาเปิดโปรแกรมพิมพ์ข้อความขึ้นมา แต่แทนที่จะเริ่มพิมพ์ทันที เธอกลับไปที่เปิดเว็บไซต์ลงนามสัญญาก่อน บนชั้นหนังสือคลิกเปิดบทความของตัวเอง หลังจากที่ดูข้อความความคิดเห็นแล้ว ได้รีบบล็อกความคิดเห็นทั้งหมดอย่างรวดเร็ว เพราะข้อความที่ทิ้งไว้ล้วนเป็นคำด่าที่บอกว่าอยากจะส่งใบมีดมาให้เธอ
และก็ไปเปิดเว็บไซต์ลงนามสัญญา “เห็นทีตอนนี้เปรมาคนนั้นของบ้านพวกเธอคงยอมแพ้แล้ว วันนี้เปรมากระเซอะกระเซิงมาก แก้มสองข้างบวมแดงก่ำ ร้องไห้จนใจแทบแตกสลาย ทั้งกอดทั้งขอร้องนฤเบศวร์ ยังถามนฤเบศวร์ว่ายังรักเธออยู่ไหม”
กนกอรรีบถามขึ้น:“นฤเบศวร์ตอบกลับว่าอะไรเหรอ เขารักเธอขนาดนั้น ต่อให้เปรมาจะหลอกเขา ขอเพียงเปรมาร้องไห้ ใช้มารยาหน่อย เขาก็ใจอ่อนกลับไปแล้ว ถ้าเขาตัดใจจากเปรมาได้ ตะวันของวันพรุ่งนี้ก็คงจะขึ้นทิศตะวันตกแล้ว”
“บทความของฉันเขียนได้เพียงครึ่งเดียว แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่มีเวลาพิมพ์แล้ว พักนี้ขาดตอนตั้งหลายครั้ง กนกอร เธอคิดว่าฉันควรจะบอกกับนักอ่านสักหน่อยไหม ว่าฉันจะหยุดไว้แค่นี้และกลับไปรับมรดกหลายหมื่นล้าน ต่อไปคงไม่เขียนอีก”
กนกอรหัวเราะเสียงดัง “เธอสามารถเขียนแบบนี้ ถึงเวลานั้นเธอก็จะกลายเป็นคนโด่งดังในแวดวงวรรณกรรมออนไลน์”
เทวิกาปิดเว็บไซต์แล้ว ทำการเปิดโปรแกรมพิมพ์ขึ้นอีกครั้งแล้วกล่าว:“ฉันควรล็อกตัวอักษรสี่พันคำดีกว่า ค่อยอัปเดตหลังจากเขียนเสร็จ ค่อย ๆ เขียนจนจบ ต่อไปไม่เขียนวรรณกรรมใหม่อีกแล้ว วันจันทร์คงมาช่วยที่ร้านไม่ได้อีก กนกอร หุ้นของฉันที่อยู่ในร้าน One Day In Coffee ยกให้เธอทั้งหมด เพราะต่อไปเธอต้องบริหารคนเดียวแล้ว
เท้าของเธอไม่สามารถที่จะหยุดอยู่ในร้าน One Day In Coffee อีกแล้ว
แม้แต่งานอดิเรกอย่างงานเขียนเธอก็ยังต้องเลิกทำ
เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่รอให้เธอต้องไปทำ
“ไม่เป็นไร ฉันดูแลร้านกาแฟ เธอไปทำเรื่องที่อยากทำอย่างสบายใจได้เลย กำไรที่ได้ ฉันยังคงแบ่งเธอเหมือนเดิม หากเธอรู้สึกว่าเอาเปรียบฉัน เมื่อก่อนนั้นแบ่งคนละครึ่ง ตอนนี้เอาเป็นว่าหกสิบสี่สิบแล้วกัน ฉันหกสิบเธอสี่สิบ แบบนี้เธอจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิด”
“ร้านนี้เป็นร้านแรกของพวกเรา จำได้ว่าตอนที่เปิดร้านนั้น เราสองคนมีความทะเยอทะยาน บอกว่าจะเปิดร้านสิบกว่าสาขา อีกอย่าง ยังเป็นร้านที่คุณพัฒน์กับเธอพบเจอกัน เธอจะทิ้งไปจริงเหรอ”
เทวิกาเขียนได้สิบกว่าคำตัวอักษรก็หยุดชะงักแล้วกล่าว:“เธอเจ็ดสิบฉันสามสิบ ฉันจะยังเก็บหุ้นส่วนไว้ วันหยุดสุดสัปดาห์จะแวะมาช่วยดูร้าน เธอหยุด ไม่เช่นนั้นก็จะให้เธอทั้งหมด”
“ได้ เอาตามที่เธอพูด”
กนกอรก็ไม่ถกปัญหานี้กับเธออีก อย่างไรเสียเธอก็เป็นคนดูแลบัญชี ถึงเวลานั้นก็ค่อยแบ่งคนละครึ่ง แล้วบอกกับเทวิกาว่าให้เธอสามสิบ เทวิกาก็คงไม่รู้
“นฤเบศวร์บอกกับเปรมาว่า เขารอเธอรอมาสิบกว่าปีแล้ว ตอนนี้ไม่รอแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน