กลัวว่ายศพัฒน์จะเห็น เธอก้มหน้าลง เพื่อให้ตัวเองดูจริงใจอย่างมาก และดูท่าทางสำนึกผิด
“พัฒน์ เทวิกา เปรม์สำนึกผิดแล้วจริงๆ พวกเธอเป็นผู้ใหญ่มีจิตใจกว้างขวาง ก็ให้อภัยเธอสักครั้งเถอะนะ”
ณัฏฐาพูดแทนลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เธอให้คนเตรียมของขวัญในนามสองแม่ลูก ส่งไปแล้วพูด:“เทวิกา เปรม์ให้ของเธอเพื่อขอโทษอย่างจริงใจจริงๆ ของพวกนี้ หวังว่าเธอจะไม่รังเกียจ”
เห็นว่ายศพัฒน์สีหน้าอึมครึม เทวิกาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ณัฏฐาเลยรีบพูดต่อ:“พัฒน์ เปรม์ผิดก็จริง หลังจากที่เขาขอโทษพวกเธอแล้ว ฉันจะพาเขาไปมอบตัวเอง แล้วก็รับประกันว่าหลังจากนี้จะไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้พวกเธอสองสามีภรรยาอีก”
ส่งของเพื่อขอโทษ แล้วไปมอบตัว จะได้ไม่ถูกพศพัฒน์ควบคุมสถานการณ์ มันจะไม่ดีต่อเปรมาอย่างมาก
“พอเปรม์ออกมาแล้ว ฉันจะพาเธอออกนอกประเทศ แล้วต่อไปจะไม่กลับมาเมืองแอคเซสซ์อีก”
ณัฏฐารู้ ถ้าไม่ให้คำสัญญาพวกนี้ ยศพัฒน์ไม่มีทางวางมือแน่ กิจการของลูกสาวเธอก็จะถูกทำลายลง
ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะถูกทำลายไปพอสมควรแล้ว โชคดีที่ยังมีโอกาสรอดขึ้นมาอยู่บ้าง
ขอแค่ออกจากเมืองแอคเซสซ์ อยู่ห่างจากสองสามีภรรยาคู่นี้ ย้ายที่อยู่ ด้วยความสามารถของลูกสาว ต้องยืนหยัดขึ้นมาใหม่ได้แน่
ความอับอายในวันนี้ ถ้าวันหน้ายืนหยัดขึ้นมาได้ ค่อยแก้แค้นก็ยังไม่สาย
เปรมาเงยหน้าสบตากับเทวิกา เธอพูด:“เทวิกา ที่แม่ฉันพูดก็คือการตัดสินใจของฉัน เธอวางใจเถอะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เธอกับพัฒน์อีก”
เธอหัวเราะเยาะตัวเอง “แต่ไหนแต่ไรพัฒน์ก็ไม่เคยเป็นของฉัน เป็นเพราะฉันโลภมาก นึกว่า......จนตอนนี้ ฉันกลายมาเป็นแบบนี้ ก็เพราะหาเรื่องใส่ตัว”
“เทวิกา เธอยกโทษให้ฉันได้ไหม?”
นักข่าวและสื่อมวลชนต่างก็กำลังอัดรายการอยู่
หลังจากที่เทวิกาเงียบไปสักพัก ก็พูด:“คำขอโทษของเธอ ฉันจะรับไว้ ส่วนของ ฉันไม่ต้องการ เธอเอากลับไปเถอะ เรื่องมอบตัว ถ้าเธอพูดออกมาแล้วทำไม่ได้ ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะส่งเธอเข้าไปด้วยตัวฉันเอง”
เรื่องนี้ที่เปรมาทำลงไป ก็เหมือนกับการประกาศให้ทั้งโลกรู้ อย่าคิดว่าสร้างข่าวลือไม่ต้องการต้นทุนก็จะสามารถลอยนวลได้ อยู่ที่คนอื่นเขาจะฟ้องหรือไม่ฟ้องเธอต่างหาก รุกรานสิทธิชื่อเสียงของคนอื่น ขอแค่หลักฐานเพียงพอ พอฟ้องก็จบ
เปรมากัดริมฝีปาก แล้วมองไปที่ยศพัฒน์ เห็นว่าใบหน้าของยศพัฒน์นั้นหน้านิ่วคิ้วขมวด สายตาเย็นชา ไม่พูดอะไร ในใจเธอก็รู้สึกแย่อย่างมาก เพราะยังไงซะเขาก็เป็นผู้ชายที่เธอรักมากที่สุด
ไม่เคยจะใจอ่อนให้เธอเลยสักครั้ง
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อ่อนโยน เพียงแต่ความอ่อนโยนของเขามอบให้แค่เทวิกา
เมื่อก่อน เธอยังดูถูกเทวิกาว่าไม่เหมาะสมกับพัฒน์ คิดว่าตัวเองเก่งกว่าเทวิกาอยู่เลย หลังจากที่รู้ฐานะที่แท้จริงของเทวิกาแล้ว เธอพึ่งเข้าใจ แม้แต่ช่วยเทวิกาถือรองเท้าตัวเธอเองนั้นไม่คู่ควรเลยสักนิด
“เทวิกา ฉันจะไปมอบตัวเอง รับผิดชอบสิ่งที่ตัวฉันเคยทำลงไป”
ได้รับบทเรียน หลังจากนี้ถ้าทำเรื่องแบบนี้อีก จะต้องวางแผนให้แนบเนียน ให้ยศพัฒน์หาหลักฐานไม่เจอ
อ๊ะ?
เปรมานิ่งอึ้งไป นี่เธอยังไม่ปล่อยพัฒน์งั้นเหรอ?
คนที่เธอควรจะไปเอากลับคืนมาคือเบศวร์ แบบนั้นโอกาสน่าจะเยอะกว่า
แต่พอคิดว่าเธอต้องไปมอบตัว แลกกับที่ตัวเองได้สร้างข่าวลือลงไป รอเธอออกมาจากข้างในได้ ท้องฟ้าของเมืองแอคเซสซ์ก็คงจะเปลี่ยนไปนานแล้ว
เธอ สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว!
“ฉันจะรอ”
เปรมานิ่งอึ้งไป
ทั้งสองคนมองหน้ากันไม่ได้พูดอะไร
การขอขมาขอโทษจบเพียงเท่านี้
เหล่านักข่าวสื่อมวลชนโพสต์สิ่งที่พวกเขาได้เห็นในสถานที่นี้ลงบนอินเทอร์เน็ต ทำให้ทุกคนในเมืองแอคเซสซ์ได้รู้ความจริงของคุณนายน้อยอริยชัยกุลที่“นอกใจ”ในตอนแรก
เรื่องนี้จบลงด้วยการที่เปรมาขอโทษ และยอมไปมอบตัว
หลังจากที่เปรมาพานักข่าวสื่อมวลชนออกไปแล้ว มิลินท์ก็รีบช่วยแต่งหน้าให้เทวิกาด้วยความเร่งรีบ แม้แต่อาหารเช้าเทวิกาก็ยังไม่ได้กิน ก็ต้องรีบเข็นรถไฟฟ้าของป้ามะนาวที่พึ่งซื้อออกมา เพื่อขี่รถไฟฟ้าไปทำงาน
“คุณนายน้อย อาหารเช้าใส่กล่องเรียบร้อยแล้วค่ะ”
ขณะที่ป้ามะนาวถือกล่องอาหารเช้าออกมาจากห้องด้านใน ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคุณนายน้อยแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน