ดูเหมือนว่าลุงกับหลานชายจะกำลังเถียงอะไรกันอยู่
ไซม่อนหันไปมองพลอยไพลินที่นอนอยู่บนโซฟาด้วยแววตาเย็นชาสุดขีด
เขาปิดประตูก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง
“อาสาม ผมไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน ดึกมากแล้ว ลุงกลับไปพักผ่อนเถอะครับ”
สีหน้าของประยสย์ดูน่ากลัวและเย็นชามาก
หลังจากเขาเข้าไปในบ้าน ไม่แม้แต่จะนั่งพักก็เดินตรงขึ้นไปชั้นบนทันที เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นพ่อเดินลงมาจากชั้นบนด้วยใบหน้าแดงก่ำ ไม่รู้เป็นเพราะพ่อดื่มไวน์มากเกินไปหรือเปล่า
“พี่ใหญ่”
ทันทีที่ชลเห็นพี่ชายคนโตเขาก็รีบเดินผ่านประยสย์ เดินขึ้นบันไดไปพลางพูดไปด้วยว่า “พี่ใหญ่ พี่ดูลูกชายคนดีของพี่สิ เจนทำผิดแค่เล็กน้อย แต่เขากลับจะส่งเจนไปที่สำนักงานสาขาย่อยแล้ว”
ประยสย์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ความผิดของเจนสันไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยเลยนะครับ เขาทำให้บริษัทพลาดธุรกิจราคา 100 ล้าน”
ชลไม่มองประยสย์ หลานชายคนนี้เอาแต่ข่มลูกชายของเขาอยู่ตลอดเวลา
ทั้ง ๆ ที่ เจนสันมีความสามารถโดดเด่นมากเหมือนกัน ตอนเพิ่งเข้าบริษัทก็ครองตำแหน่งรองประธาน อยู่ในระดับเดียวกันกับประยสย์แท้ ๆ แต่หลังจากที่ประยสย์ลงมือจัดการกับเมียเขากับพี่สะใภ้รองในครั้งนั้นจนถูกพี่ใหญ่สั่งสอนไปยกใหญ่
เจนสันก็กลายเป็นคนที่ต้องแบกรับการแก้แค้นจากพี่ใหญ่กับลูกชายของเขา อยู่ที่บริษัทมีตำแหน่งเป็นถึงรองประธาน แต่กลับให้เขาทำหน้าที่ผู้ช่วย แถมยังเป็นผู้ช่วยของประยสย์อีก เขาถูกประยสย์กดขี่สุด ๆ และประยสย์คงจะหาโอกาสใส่ร้ายทำลายลูกชายของเขา
ในใจลึก ๆ ของชลรู้สึกเกลียดเอามาก ๆ
“พี่ใหญ่ เจนทำงานเป็นวันเป็นม้าที่บริษัท เขาตั้งใจเสียยิ่งกว่ายสย์อีก ก็แค่ครั้งนี้คาดการณ์ผิดพลาดไปก็เลยทำให้บริษัทต้องพลาดธุรกิจมูลค่าร้อยล้านนี้ไป โอเอ กรุ๊ปของพวกเราไม่ได้มีแค่ธุรกิจร้อยล้านนี้อยู่แล้ว อยู่ที่บริษัทยสย์ก็ใส่อารมณ์กับเจนสันแล้ว แถมยังบอกอีกว่าจะหักโบนัสของหนึ่งปี”
“ด่าก็ด่าแล้ว ลงโทษก็แล้วยังไม่พออีกเหรอ”
ถึงแม้ว่าประยสย์จะย้ายลูกชายเขาไปเป็นผู้จัดการบริษัทสาขา แต่บริษัทสาขาในเครือโอเอ กรุ๊ปมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทุกปีมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้เข้ามาอยู่ในสำนักงานใหญ่ แถมกำลังแข่งขันก็สูงมาก
ถ้าลูกชายของเขาถูกไล่ออกไปจากสำนักงานใหญ่ ถ้าอยากจะกลับเข้ามาอยู่ในสำนักงานใหญ่อีกคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน
ไซม่อนพยายามที่จะระงับความร้อนรุ่มในร่างกายของตัวเองไว้ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า “เรื่องในบริษัทค่อยไปคุยกันที่บริษัทพรุ่งนี้ ชลตอนนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่ชลเผลอหลับอยู่ในห้องของฉัน นายช่วยพาเธอกลับไปส่งที่บ้านตระกูลเลิศธนโยธาที”
ชลเอ่ยถามโดยสัญชาตญาณว่า “ที่บ้านก็มีตั้งหลายห้องไม่ใช่เหรอ ปกติพลอยก็อยู่ค้างที่บ้านเราออกจะบ่อย ในเมื่อเธอหลับไปแล้วก็ให้เธออยู่ค้างที่นี่เลยสิ ทำไมต้องไปส่งถึงที่บ้านตระกูลเลิศธนโยธาทีด้วย”
จากนั้นเขาก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง “พี่ใหญ่ พี่เป็นอะไรไป พี่ไหวไหมเนี่ย ทำไมหน้าแดงขนาดนั้น เป็นไข้หรือเปล่าพี่”
ประยสย์มองพ่อ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าไม่สบายก็เรียกคุณหมอมาดูอาการเถอะครับ หรือว่าจะไปโรงพยาบาล”
ไซม่อนลูบหน้าของตัวเอง ตอนนี้หน้าของเขาร้อนมาก เขาจึงพูดต่อไปว่า “ฉันเริ่มเป็นหวัดตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทานยาไปแล้วก็คิดว่าจะไม่เป็นไร แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีไข้สูงแบบนี้ ประยสย์พาพ่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลที ดึกมากแล้วจะได้ไม่รบกวนหมอตรอง”
หมอตรองเป็นหมอประจำตระกูลของตระกูลสาระทา
แต่ไซม่อนกับลูกชายไม่ค่อยไว้ใจหมอตรอง
ถ้าพวกเขาไม่สบายก็จะไปหาหมอที่ดรงพยาบาลของตระกูลแทน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนภายใต้โอเอ กรุ๊ปเป็นคนสนิทของไซม่อน และไซม่อนไว้วางใจเขามาก
“ครับ”
ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกเหมือนจะไม่ค่อยดี แต่ไซม่อนไม่ค่อยป่วยหรือไม่สบายแบบนี้บ่อยนัก ส่วนประยสย์ที่เป็นลูกชายยังไงก็ยังเป็นห่วงพ่อ
เขาเดินเข้าไปช่วยพยุงพ่อลงจากบันไดเพื่อลงไปชั้นล่างโดยที่ไม่สนใจเลยว่าตัวเองเพิ่งจะกลับมาจากบริษัทและเหนื่อยมากขนาดไหน
สองพ่อลูกเดินผ่านชลออกไป
ก่อนออกจากบ้าน ไซม่อนยังคงกำชับกับน้องชายของตัวเองอีกครั้งว่าให้พาพลอยไพลินกลับไปส่งที่ตระกูลเลิศธนโยธา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน