นฤเบศวร์สีหน้าดำคล้ำ “แม่ เปรมาไม่รักผม ต่อให้ผมดีกับเธอแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ แม่คิดว่าผมสนใจการโกหกของเธอเหรอ?ผมถูกเธอทำให้บาดเจ็บไปทั่วทั้งหัวใจ ใจห่อเหี่ยวโดยสิ้นเชิง”
“อย่าเอาเปรมาเปรียบกับกนกอร พวกเธอเทียบกันไม่ได้ กนกอรอยู่ในใจของผมไม่มีใครเข้ามาแทนที่ได้ เปรมาก็ไม่ได้”
ชายชรารอหลังจากสองแม่ลูกไม่พูดคุยกัน เขามองไปยังบัณฑิตา พูดกล่าวว่า “ตอนแรก ฉันไม่ควรยินยอมให้ธารณ์ของแกแต่งงานเลย”
บัณฑิตา:……
“เบศวร์ ปู่เคยพูดแล้ว แทรกแซงงานแต่งงานของแกหนึ่งครั้งจะไม่แทรกแซงอีกเป็นครั้งที่สอง ต่อไปเรื่องแต่งงานของแกก็เป็นคนตัดสินใจ ไม่ว่าใครที่คิดจะขวางกั้นแก แกก็ต่อต้านกลับไป พยายามช่วงชิงความสุขของตัวเอง ”
ชายชราพูดจาสวยดูดี นั่นเป็นเพราะว่านฤเบศวร์ตกหลุมรักกนกอรแล้ว
ถ้าหากนฤเบศวร์ยังรักเปรมา ชราชายอย่างเขาไม่มีทางพูดอย่างเปิดใจกว้างแน่นอน
“ขอบคุณคุณปู่”
“ต่อไปอย่าพูดเรื่องที่จะไปออกบวชเป็นพระ แต่ว่า……ถ้าหากว่าแกมองโลกมนุษย์อย่างทะลุปรุโปร่งจริงๆ ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น อยากจะออกบวชจริงๆ ปู่ก็ตอบสนองตามความต้องการของแก”
คำพูดนี้ของชายชราจงใจพูดให้ลูกสะใภ้ฟัง
เขาเข้าใจลูกสะใภ้คนนี้อย่างมาก เห็นตำแหน่งสถานะเป็นสำคัญกว่าสิ่งไหน
ถ้าหากเบศวร์ปล่อยวางทุกอย่างและออกบวชจริงๆ เป็นการขุดหัวใจของลูกสะใภ้อย่างเห็นไม่ต้องสงสัย
ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่ขอกนกอรแต่งงานเลย แม้แต่ขอขอทานแต่งงาน ลูกสะใภ้ก็เห็นด้วย
“ถึงยังไง ปู่ไม่ได้มีหลานชายแค่แกคนเดียว ไม่ต้องห่วงว่าต่อไปตระกูลเดชอุปของเราจะไม่มีทายาทคริษฐ์ แกออกไปกับคุณปู่สักหน่อย”
ชายชราให้คริษฐ์ประคองเขาเดินออกไปแล้ว
สีหน้าของบัณฑิตาเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนไปอีก
นฤเบศวร์หันหน้าไปพูดกับแม่ พูดอย่างจริงจัง : “แม่ แม่ชอบกนกอรไม่ได้ ผมก็ไม่บีบบังคับแม่ แต่ขอให้แม่เคารพเธอสักหน่อย อย่าเอาความผิดพลาดไปโยนใส่เธอทั้งหมด ผมได้รับบาดเจ็บ เป็นเพราะผมเต็มใจเอง ขอเพียงแค่เธอไม่เป็นอะไร แม้ว่าคร่าชีวิตของผม ผมก็เต็มใจอย่างไม่มีเสียใจภายหลัง”
“ตอนนี้คนที่ผมรักก็คือกนกอร ต่อไปก็เป็นเธอ ผมกับเปรมากลายเป็นอดีตกันแล้ว น่าจะพูดได้ว่าพวกเราสองคนแม้แต่อดีตก็ไม่มีทั้งนั้น เพราะว่าผมไม่เคยมีเธอ คนที่เธอรัก ก็คือยศพัฒน์ตลอดกาล !พวกลูกสะใภ้ที่แม่เห็นว่าดี ไม่เคยรักลูกชายของแม่เลยสักคน!”
“ถ้าหากแม่ยังคิดว่าเปรมาดีมาก เรียกพ่อของฉันสู่ขอแต่งงานได้ เป็นพี่น้องกับแม่พอดี”
“นฤเบศวร์ แกพูดจาไร้สาระอะไร!”ธารณ์ที่ถูกดึงเข้ามาด่าลูกชายหนึ่งประโยค
เขาไม่อยากพูด จริงๆแล้วเขาก็ไม่ค่อยชอบเปรมาสองคนแม่ลูก
บัณฑิตาก็ถูกลูกชายพูดจนโมโหแล้ว
หลังจากที่นฤเบศวร์เงียบครู่หนึ่ง ไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังกลับไปถือซุปบำรุงและอาหารเสริมที่กนกอรส่งมาและเดินขึ้นชั้นบนไปแล้ว
“สามี คุณดูลูกชายของคุณ พูดจาเหลวไหลอะไรกันเนี่ย น่าโมโหชะมัด!”บัณฑิตาดึงเสื้อของสามี “คุณก็ไม่จัดการหน่อยเหรอ”
ธารณ์ดึงมือของภรรยาออก พูดอย่างไม่สบอารมณ์ : “ผมจะจัดการยังไง?นั่นเป็นลูกที่คุณคลอดออกมาเองนะ คุณยังจัดการไม่ได้ ผมจะจัดการยังไง?เขาเป็นพ่อที่เลี้ยงมาจนเติบโต ไม่ได้คุกคลีกับเราทั้งคู่ คุณน่ะ ต่อไปก็ยุ่งเรื่องชีวิตแต่งงานของลูกให้มันน้อยๆหน่อย ลูกชายโตแล้วไม่ใช่แม่เป็นคนตัดสินใจ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราเป็นพ่อแม่ ก็ยังทำหน้าที่ของพ่อแม่ได้ไม่ดีเลย ”
“กนกอรมีอะไรดี?”
“ตอนแรกพ่อแม่ของฉันก็เคยถามผม ว่าคุณมีอะไรดีนะ”
บัณฑิตา : “……พวกคุณสามคนพ่อลูกตอนนี้เอาฉันมาวิจารณ์ รังเกียจฉันใช่ไหม?ถึงยังไงฉันก็เกิดในตระกูลร่ำรวย กนกอรเกิดในครอบครัวยากจนจะเทียบกับฉันได้?”
“ลูกชายชอบจะทำยังไงได้?สนใจทำไมว่าพวกเขาคู่ควรกัน เหมาะสมกันหรือเปล่า ขอเพียงแค่ลูกชายไม่มีความคิดเห็นอะไรก็พอ ขอคุณถ่วงความเจริญลุกแบบนี้ บีบบังคับจนลูกไปบวชจริงๆ คุณร้องไห้ก็ไม่มีที่ให้คุณร้อง เมื่อกี้ไม่เห็นว่าพ่อให้คริษฐ์เป็นเพื่อนเขาออกไป?พ่อไม่ได้มีลูกชายของเราเป็นหลานชายแค่คนเดียวนะ คริษฐ์ก็ไม่ด้อยกว่าลูกชายของเรา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน