“พี่ชเนนทร์ สองวันนี้พี่จะกลับบ้านไหม?”
จู่ๆ ประยสย์ก็ถามชเนนทร์ออกมา
ชเนนทร์ตอบกลับมาว่า: “ช่วงนี้พี่งานยุ่งมาก ไม่มีเวลากลับบ้าน พ่อแม่ของพี่ก็เพิ่งกลับไปจากในเมือง ทำไมเหรอ?คุณจะไปเยี่ยมน้าณินเหรอ?”
ประยสย์ตอบอืมออกมา “ผมไม่กลับเมืองซูเพร่าวันนี้ก็กลับพรุ่งนี้แหละ จะทิ้งพ่อผมให้ต่อสู้กับพวกเขาคนเดียวก็คงไม่ได้ ก่อนกลับไปผมอยากไปดูสถานที่ที่วิกาตอบโต้มาก่อน และไปดูแม่ผมด้วย ไม่รู้ว่าแม่ผมอยู่ที่นั่นคุ้นชินดีหรือเปล่า”
หลังจากที่แม่ของเขากลับไปกับพวกคุณลุงสิรภพแล้ว ได้โทรศัพท์หาเขาแค่ครั้งเดียวเอง โดยแจ้งว่าไปถึงที่หมายแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย ประยสย์ไม่รู้ว่าแม่ตัวเองคุ้นชินกับที่นั่นแล้วหรือเปล่า
ชเนนทร์ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “น้าณินอยู่ที่นั่นคุ้นชินดี วิกาโทรหาผมวันหนึ่งตั้งหลายครั้ง”
หลังจากที่ได้ยินชเนนทร์พูดแบบนี้แล้ว สีหน้าของประยสย์หม่นหมองขึ้นมาทันที เขากับวิกาถึงแม่จะเป็นพี่น้องแม่เดียวกันแต่แยกจากกันยี่สิบกว่าปี หลังจากเจอกันแล้วก็ไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันมากนัก ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องไม่ว่ายังไงก็เทียบของเธอกับชเนนทร์ไม่ได้
แต่เมื่อคิดได้ว่าวิกาเติบโตมาในตระกูลบ้านตระกูลวาชัยยุง ประยสย์ก็ไม่คิดอะไรมากอีก
สามารถหาน้องสาวเจอก็ดีมากแล้ว เขาจะไปแย่งความรักกับชเนนทร์อีกทำไม?
น้องสาว เป็นน้องสาวของพวกเขาทั้งสอง
ความรักที่ชเนนทร์มีต่อน้องสาวไม่น้อยไปกว่าเขาเลย
ประยสย์เมื่อคิดได้แล้วก็กลับคืนสู่อารมณ์ปรกติ
ยศพัฒน์และชเนนทร์ต่างเห็นอาการหม่นหมองของเขา ทั้งสองคนหันมาสบตากัน แต่ไม่ได้พูดอะไร ความสัมพันธ์ต้องปลูกฝังกัน พวกเขาพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์
“พี่รองจะกลับแล้วเหรอ?ไม่รอร่วมงานแต่งงานของกษิดิเสร็จก่อนแล้วค่อยกลับ?”
ยศพัฒน์ลองพยายามเกลี้ยกล่อมให้อยู่ต่อ
ปรยสย์ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “งานแต่งของพี่กษิดิผมต้องอยู่รวมงานด้วยอยู่แล้ว ผมต้องเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้เขาอีกด้วย
ยังมีเวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะถึงงานแต่งของเขา ไม่รีบร้อน ผมจะกลับมาก่อนว่าแต่งวันหนึ่ง ไม่มีทางพลาดงานแต่งงานของเขา
แน่นอน”
เขากับคุณชายทุกคนของตระกูลอริยชัยกุลต่างเข้ากันได้เป็นอย่างดี นั่นเป็นน้องชายสามีของน้องสาว ถ้าเขากับพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีแต่จะเป็นผลดีต่อน้องสาวไม่มีผลเสีย
อีกอย่างตระกูลอริยชัยกุลยอมช่วยเขา คุณชายพวกนั้นต่างมีตำแหน่งสูงในบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ป เป็นผู้ เป็นคนเก่งในแต่ละสาขางานกันทั้งนั้น สามารถช่วยเหลือเขาได้เป็นอย่างมาก
เพียงแต่ข้อนี้ เขาก็ต้องรู้จักคุณชายทั้งหมดของ ตระกูลอริยชัยกุลแล้ว
เขารู้ว่าตระกูลสาระทามีเครื่องบินส่วนตัวเยอะ ทุกครั้งที่ประยสย์สองพ่อลูกมาที่นี่ล้วนนั่งเครื่องบินส่วนตัวมากันทั้งนั้น ถือว่าสะดวกมากอยู่ ยศพัฒน์เลยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ได้แต่พูดขึ้นว่า: “ก่อนที่พี่รองจะกลับควรบอกให้วิการู้ก่อนจะดีที่สุด”
“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ผมยังมีเรื่องต้องรบกวนเธออีก”
ยศพัฒน์นึกขึ้นได้จึงถามขึ้นว่า: “เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผู้หญิงลึกลับหรือเปล่า?”
“อืม สำนักงานนักสืบ XXถึงตอนนี้แล้วยังไม่มีผลสรุปอะไรให้ผมเลย และไม่รู้ว่าพวกเขาจะสามารถช่วยผมหาผู้หญิงคนนั้นเจอหรือเปล่า”
ชเนนทร์เองก็รู้เกี่ยวกับเรื่องที่ประยสย์ถูกหญิงลึกลัช่วยไว้ เขาจึงพูดขึ้นว่า: “อีกฝ่ายสวมหน้ากากไว้ มองไม่เห็นหน้าที่ที่แท้จริง แบบนี้ตามหายากมาก เมืองแอคเซสซ์ใหญ่ขนาดนี้ จะตามหาคนๆหนึ่ง ยากยิ่งกว่างมเข็มในทะเล”
ประยสย์ตรึกตรองดูสักครู่ แล้วพูดขึ้นว่า: “มันก็ใช่ ถ้างั้นผมรอต่ออีกหน่อยก็แล้วกัน บริษัทนักสืบนั้นในเมื่อรับเรื่องของผมไปแล้ว แล้วรับเงินมัดจำไปแล้วอีกด้วย คิดว่าคงสามารถช่วยผมตามหาผู้หญิงคนนั้นเจอได้แน่”
หลังจากดื่มน้ำเสร็จ ประยสย์ก็ได้ลุกขึ้น “ยศพัฒน์ พี่ชเนนทร์ พวกพี่ยุ่งต่อเถอะ ผมไม่รบกวนพวกพี่แล้ว”
ยศพัฒน์กับชเนนทร์ต่างก็ไม่ได้เกลี้ยกล่อมให้เขาอยู่ต่อ เพราะว่าพวกเขากำลังยุ่งอยู่ แต่ตอนนี้ประยสย์อยู่ในช่วงพักร้อนอยู่
เนื่องจากกนกอรรับปากว่าจะไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนนฤเบศวร์ เมื่อเทวิกาเลิกงานก็รีบไปที่ร้านทันที
กนกอรยังไม่ได้ออกไป แต่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดราตรีเรียบร้อยแล้ว ส่วนชุดราตรีก็เป็นนฤเบศวร์ให้คนส่งมาให้ และเธอก็ได้แต่งหน้าอ่อนๆ อีกด้วย
เมื่อเทวิกาเข้ามาถึงร้าน ก็ผิวปากขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน