“คุณจะคิดเรื่องพวกนี้ไปทำไม คุณผู้หญิงที่ต้องคอยดูแลบ้านไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ นะ ตอนนี้พวกเราก็ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดอะไร อาหาร เสื้อผ้าก็ไม่เคยจะขาดตกบกพร่อง”
คุณนายสาม “…”
ทำไมเธอต้องมาแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่มีความทะเยอทะยานแบบนี้นะ
“ขี้เกียจจะคุยกับคุณแล้ว ฉันไปคุยกับพี่สะใภ้ใหญ่ดีกว่า”
คุณนายสามรีบลุกขึ้นแล้วเดินจากไป
เธอเดินไปได้สองสามก้าว ครุ่นคิดอยู่สักพักก็หันเดินเข้าห้องครัวไป
สักพักเธอก็พาคนรับใช้คนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับถือถาดอาหารที่วางไปด้วยอาหารที่ปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้วสองสามอย่าง เธอเป็นแค่อาสะใภ้ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามนฤเบศวร์กับกนกอรไม่ให้คบหากัน แต่เธอสามารถยุยงให้พี่สะใภ้ใหญ่ไปขัดขวางได้
บัณฑิตามองตัวเองสูงส่งมาตลอด แถมเธอยังคิดว่านฤเบศวร์เป็นผู้สืบทอดกิจการครอบครัวจึงรู้สึกว่าเหนือกว่าคนอื่นไปอีก ทีแรกเธอก็ไม่ชอบกนกอรอยู่แล้ว แค่ไปยุยงต่อหน้าบัณฑิตาไม่กี่คำ บัณฑิตาจะต้องไปขัดขวางนฤเบศวร์กับกนกอรแน่นอน
จากที่คุณนายสามสังเกตตระกูลภูสิทธ์อุดม เธอคิดว่าตระกูลภูสิทธ์อุดมไม่ใช่ตระกูลที่จะขายลูกสาวกิน
ถ้าหากบัณฑิตาไม่พอใจกนกอร ครอบครัวตระกูลภูสิทธ์อุดมคงจะไม่อยากให้ลูกสาวต้องถูกเอาเปรียบ แถมกนกอรก็เป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียว บางทีเธออาจจะไม่ได้เข้าประตูบ้านตระกูลเดชอุปตลอดชีวิตแน่ ๆ
กนกอรคงจะคาดไม่ถึงว่าคุณนายสามคนที่เจอกันครั้งแรกทั้งแสนดีทั้งอ่อนโยนกับเธอจะวางแผนคิดจะทำร้ายเธอแบบนี้
อย่างที่ดาวพูดว่าตระกูลเดชอุปกับตระกูลอริยชัยกุลไม่เหมือนกัน เธอกับนฤเบศวร์คบกันต้องเผชิญหน้ากับอีกหลายเรื่อง
คนทั่วไปต่างก็ยอมที่จะขัดแย้งกับคนอื่นเพื่อผลประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเองจนกลายเป็นความเกลียดชัง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลร่ำรวยที่มีผลประโยชน์มากยิ่งกว่า แต่แบบตระกูลอริยชัยกุลมีเพียงแค่หนึ่งในหมื่นครอบครัวเท่านั้นถึงจะมี
คุณนายสามเห็นบัณฑิตาอยู่ตรงตรงกลางลานบ้านของบ้านหลัก
บัณฑิตาอยู่ตัวคนเดียวพร้อมกับสีหน้าบูดบึ้ง
“พี่สะใภ้”
ตอนที่คุณนายสามเดินไปหาบัณฑิตาเธอก็ร้องเรียกด้วยรอยยิ้ม
บัณฑิตาที่กำลังกลัดกลุ้ม เมื่อได้ยินเสียงเรียกก็หันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นน้องสะใภ้เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ชะงักฝีเท้าแล้วถามเสียงเรียบไปว่า “รุจิภา เธอมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันได้ยินว่าอรจะกลับมาทานข้าวที่บ้าน ครั้งก่อนตอนที่ทานข้าวด้วยกันฉันสังเกตว่าอรชอบอาหารพวกนี้ แล้วพอดีที่บ้านทำอาหารพวกนี้พอดีก็เลยเอามาไว้ช่วยต้อนรับอรด้วยเหมือนกันค่ะ”
รุจิภาเรียกกนกอรว่าอรอย่างเป็นกันเอง ทำเอาบัณฑิตาที่ได้ยินรู้สึกบาดหูสุด ๆ
เมื่อเห็นว่าในถาดที่คนรับใช้ที่รุจิภาพามามีอาหารวางอยู่ด้วยสองสามอย่าง สีหน้าของบัณฑิตาก็ยิ่งดูไม่ได้หนักขึ้นกว่าเดิม และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “รุจิภา ช่วยระวังคำพูดของเธอด้วย ตอนนี้กนกอรไม่ใช่ลูกสะใภ้ของฉันแล้ว เธอแค่มาทานข้าวที่บ้าน ไม่ใช่กลับมาทานข้าวที่บ้าน”
“อีกอย่างครอบครัวของฉันก็ไม่ได้ขาดเหลืออาหารที่จะเอาไว้ต้อนรับแขกสักหน่อย แต่เธอหอบอาหารมาส่งถึงบ้านแบบนี้หมายความว่าไง”
รุจิภาไม่สนใจใบหน้าเย็นชาของบัณฑิตาและพูดอธิบายอย่างอารมณ์ดีว่า “พี่สะใภ้ ฉันไม่ได้มีเจตนาอื่น ฉันก็แค่ถูกชะตากับอร แล้วก็ค่อนข้างจะชอบเด็กคนนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ลูกสะใภ้ของพี่สะใภ้แล้ว แต่นฤก็กำลังตามง้อตามจีบเธอใหม่ไม่ใช่เหรอคะ จะช้าหรือเร็วเธอก็ต้องกลายเป็นหลานสะใภ้ของฉันอยู่แล้ว”
“หลานสะใภ้มาทานข้าวที่บ้าน ฉันในฐานะอาสะใภ้เอาอาหารมาให้ก็ถือเป็นความรักใคร่ต่อคนรุ่นหลัง ไม่ได้มีเจตนาจะเหน็บแนมบ้านใหญ่ของพี่สะใภ้หรอกค่ะ”
รุจิภาส่งสัญญาณให้คนรับใช้นำอาหารเข้าไป
เธอเดินไปหาบัณฑิตาด้วยใบหน้าใจดี พลางพูดเกลี้ยกล่อมบัณฑิตา “พี่สะใภ้ นฤบอบช้ำจากเปรมามามาก ไม่ง่ายเลยกว่าจะเจอใครสักคนที่สามารถช่วยปลอมประโลมหัวใจที่บอบช้ำของเขาได้ ฉันว่าอรก็ไม่เลวเลยนะ แถมคนนี้ก็เป็นคนที่คุณพ่อช่วยเลือกให้นฤโดยเฉพาะเลยด้วย แบบนี้จะไม่ดีได้ยังไงล่ะคะ อย่าไปทำให้เด็กทั้งสองคนต้องลำบากใจเลยค่ะ”
“นฤเองก็อายุไม่น้อยแล้ว เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะขึ้นปีใหม่แล้ว พอขึ้นปีใหม่นฤก็อายุสามสิบแล้วนะคะ คนอื่น ๆ อายุสามสิบเป็นพ่อคนกันหมดแล้ว พี่เองก็คงอยากจะอุ้มหลานแล้วเหมือนกันใช่ไหมคะ รีบให้นฤกับอรแต่งงานกันใหม่เร็ว ๆ พี่เองก็จะได้มีชีวิตที่มีความสุขเร็ว ๆ ไงคะ”
“ถึงแม้ว่าครอบครัวของอรจะยากจน แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย พวกเราก็แค่ช่วยกันเกื้อกูลก็พอแล้ว ถึงพื้นเพของอรจะธรรมดาก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยค่ะ คนที่คุณพ่อชอบย่อมมีข้อดีอยู่แล้ว ตอนนั้นพี่ชอบเปรมาแล้วดูสิคะว่าผลลัพธ์มันออกมาเป็นยังไง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน