เข้าไปในร้านแอเมสแล้ว คุณนายสองกับคุณนายสามไม่รอช้า รีบทำตามแผนที่พวกเขาวางเอาไว้ เลือกกระเป๋าที่ตัวเองชอบ
จากนั้นก็ให้พวกบอดี้การ์ดเอากระเป๋าของพวกเธอไปไว้ที่รถ
“พี่สะใภ้ วิกา พวกเราเลือกเสร็จแล้ว พวกเธอสองคนแม่ลูกค่อยๆเลือกกันไปนะ แถวนี้มีร้านกาแฟอยู่ร้านหนึ่ง ฉันกับกานต์ไปดื่มกาแฟก่อนนะ”
ญาณินไม่พูดอะไร
เทวิกายิ้มพลางเอ่ยว่า “ อาสะใภ้รอง,งั้นคุณกับอาสะใภ้สามไปดื่มกาแฟกันเถอะ ฉันกับแม่ยังจะช้อปปิ้งกันต่อ”
“อืม”
คุณนายสองลากคุณนายสามเดินไป
พอทั้งสองคนจากไป เทวิกาก็กวักมือ พูดกับผู้จัดการร้านว่า:“เอากระเป๋าทั้งหมดในร้านมาให้ฉัน ฉันซื้อทั้งหมดเลย!”
“ได้ครับ!”
จนกระทั่งตอนที่เทวิกาจ่ายเงิน ผู้จัดการร้านพูดว่า:“คุณผู้หญิง กระเป๋าที่คุณนายสองกับคุณนายสามซื้อ ยังไม่ได้จ่ายเงินให้ผมเลยครับ พวกเธอบอกว่าคุณจะจ่ายให้พวกเธอครับ”
เทวิกากะพริบตาคู่สวย พูดว่า:“ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าจะจ่ายให้พวกเขา”
“แต่ตอนนี้คุณนายสองกับคุณนายสามไม่ได้อยู่ที่นี่ ถ้าไม่อย่างนั้น คุณผู้หญิง คุณช่วยจ่ายแทนพวกเธอก่อน กลับไปแล้วค่อยให้ทั้งสองคนจ่ายคืนคุณ ก็เหมือนกันครับ”
ได้ยินคำพูดของผู้จัดการร้าน ญาณินก็เข้าใจหมดทุกอย่าง
อาสะใภ้ทั้งสองของเธออิจฉาที่คุณท่านให้แบล็คการ์ดกับวิกา ภายในร้านชุดราตรี วิกาปฏิเสธที่จะซื้อชุดให้พวกเธอ
พวกเธอจึงคิดวิธีการที่จะเอาของที่ต้องการมาให้ได้ คิดจะมัดมือชกเทวิกาให้จ่ายเงินให้พวกเธอ
เคยเจอคนหน้าด้าน แต่ไม่เคยเจอคนหน้าด้านมากขนาดพวกเธอ
ยากจนเหรอ
พวกเธอไม่ได้ยากจน แต่ทำเรื่องขาดศีลธรรมแบบนี้ ช่างเป็นเรื่องน่าอาย!
ไม่กลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากให้คนอื่นหัวเราะเยาะ
“ในเรื่องทรัพย์สินครอบครัวของเราแบ่งแยกกัน ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่หลานสาวจะต้องช่วยชำระค่าใช้จ่ายให้พวกเธอ คุณจดบิลไว้ เอาใบแจ้งหนี้มาให้เรา แล้วเราจะช่วยคุณนำกลับไปให้พวกเธอ พวกเธอจะจัดการคนให้มาชำระเงินเอง”
คนที่พูดคือญาณิน
จะอย่างไรเทวิกาก็เป็นหลานสาว หลานสาวไม่ยอมจ่ายเงินให้น้าสะใภ้ทั้งสองคน ลือออกไปจะทำให้วิกาเสียชื่อเสียง
ญาณินไม่กลัวเลย
เธอเป็นสะใภ้ใหญ่
คนทั่วทั้งเมืองซูเพร่าเองก็รู้ว่าคุณนายสองคุณนายสามไม่ได้เคารพให้เกียรติสะใภ้ใหญ่อย่างเธอคนนี้เลย คอนที่เธอเสียสติ คุณนายทั้งสองคนนั้นคงจะรังแกเธอไม่น้อย เธอไม่ยอมจ่ายเงินให้น้องสะใภ้ทั้งสอง ก็ไม่มีใครว่าอะไรเธอ
ญาณินเอ่ยพลางหยิบบัตรแบล็คการ์ดใบนั้นมาจากในมือเทวิกา ส่งให้ผู้จัดการร้าน พูดว่า “รูดบัตรเถอะค่ะ”
ผู้จัดการร้านเองก็หมดหนทางจะช่วยคุณนายทั้งสองคนเอาเปรียบเทวิกา ไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางอะไร รับแบล็คการ์ดมาอย่างนอบน้อม
หลังจากรูดบัตรแล้ว ผู้จัดการร้านก็รีบเขียนใบแจ้งหนี้ให้คุณนายทั้งสองให้เสร็จ แล้วส่งให้ญาณินเอากลับไป
จากนั้น ผู้จัดการร้านกับพนักงานทุกคน ก็มาส่งสองแม่ลูกออกจากร้านด้วยความเคารพนบนอบ
รอจนทั้งสองแม่ลูกไปไกลแล้ว ผู้จัดการก็ถอนหายใจเบาๆ “อำนาจหลังบ้านตระกูลสาระทาคงจะเปลี่ยนไปแล้ว”
การกลับมาของเนตรดาว ทำให้ญาณินในฐานะนายหญิงของบ้านกลับมาอยู่ในสายตาของทุกคนใหม่อีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นคุณผู้หญิงที่สูงส่งที่สุดในเมือง
คุณนายสองและคุณนายสามใช้เวลายี่สิบกว่าปีสร้างสถานะ พอเนตรดาวกลับมา ก็ทำหุ้กอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม
เทวิกาสองคนแม่ลูกตามหาคุณนายทั้งสองคนเจอที่ร้านกาแฟ
“พี่สะใภ้ วิกา”
คุณนายสองร้องเรียกสองแม่ลูกอย่างกระตือรือร้น “นั่งก่อน กินอะไรสักหน่อย แล้วค่อยไปช้อปปิ้งต่อแล้วกันนะ”
คิดว่าแผนการสำเร็จแล้ว คุณนายสองจึงอารมณ์ดีขึ้นมาก
กระเป๋าที่เธอเลือกเมื่อครู่ ใบที่ถูกสุดก็ราคาหลายแสน เลือกมาสิบกว่าใบอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดก็หาผลประโยชน์กับคุณท่านได้บ้างแล้ว
คุณท่านเห็นเทวิกาใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ ก็ต้องรู้สึกไม่พอใจเทวิกา
เทวิกาดึงแม่ให้นั่งลง
“ฉันไม่ดื่มกาแฟ เอาน้ำเปล่าให้ฉันแก้วหนึ่งพอ”
“ฉันก็เอาน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน