เนื่องจากลุงสองคนอิจฉาพ่อของเขา พวกเขาจึงอาจลงมือฆ่าเขาอย่างลับๆได้ เขาจะทำให้ลูกๆของบ้านสองบ้านสามไม่มีอะไรเหลือเลย ซึ่งนี่ยังถือว่าเบาไปนะ
หลักฐานยังไม่เพียงพอ แต่หลักฐานที่ไซม่อนและยศพัฒน์มีนั้น ต่างชี้ไปที่ชล
เพราะเรื่องนี้ในใจไซม่อนถึงได้เกลียดลุงทั้งสองเป็นอย่างมาก
บางทีอาจเป็นทั้งคู่ช่วยวรันธรลักพาตัววิกาไปในตอนนั้นก็ได้
“พี่สะใภ้สอง”
คุณหญิงสามรู้ว่าที่พี่สะใภ้สองมาที่นี่ ก็เพื่อมาหัวเราะเยาะเธอ
แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะร้องไห้
คุณหญิงสองมองดูความยุ่งเหยิงของบ้าน แล้วดึงคุณหญิงสามให้นั่งลงที่หน้าโซฟาและปลอบโยนเธอว่า: “โยนของในบ้านตัวเองเพื่อระบายความโกรธ มันไม่คุ้มเลย ถ้าเธอทนไม่ไว้จริงๆ ก็ไปโยนของบ้านพลอยไฟลินสิ”
“ผู้หญิงคนนั้นไร้ยางอายสิ้นดี! รังแกคนมากเกินไปแล้ว เธอเป็นเมียน้อย ท้องแล้วยังกล้ายั่วเมียหลวงอย่างฉันอีก”
คุณหญิงสามร้องไห้ว่า: “นังนั่นหยิ่งยโสและไร้ยางอายมาโดยตลอด เมื่อก่อนเธอทำยังไงกับญาณินเราต่างก็รู้ดี”
เมื่อก่อนพวกเธอเป็นพวกเดียวกัน พลอยไพลินมักจะประจบสอพลอและเย้ยหยันเธอทรมานญาณินด้วยกัน
“เธอคิดว่าฉันไม่อยากไปทุบมันเหรอ มีไอ้ชลเลวนั่นคอยปกป้องนังอยู่ ถ้าฉันไปแก้แค้นถึงตระกูลเลิศธนโยธา ตระกูลสาระทาไม่เพียงจะไม่ช่วยเธอ บางทีฉันอาจทำให้ลูกทั้งสามคนลำบากได้”
หัวใจของคุณหญิงสามปรียบเสมือนกระจกที่แจ่มแจ้ง
พลอยไพลินมายั่ว ถึงเธอจะกล้าตอบโต้พลอยไพลิน แต่เธอไม่กล้าไปทุบบ้านเธอ
คนในตระกูลสาระทาไม่มีใครสนับสนุนเธอจริงๆหรอก
ไม่ต้องพูดถึงตระกลูของเธอที่กลัวการแก้แค้นจากตระกูลเลิศธนโยธาและจากตระกูลสาระทาด้วย ตอนนี้เธอถูกชลหักหลัง ตระกูลของเธอจึงแนะนำให้เธออดกลั้นและไม่หย่ากับชล
โดยบอกว่าที่พูดมาทั้งหมดก็เพื่อตัวเธอเอง บอกว่าเธอแก่เกินกว่าจะแต่งงานใหม่หลังหย่าแล้ว นอกจากนี้เธอยังมีลูกอีกสามคน เมื่อหย่าแล้ว ลูกทั้งสามของเธอจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีแม่คอยบงการวางแผนให้ ลูกทั้งสามของเธอก็จะไม่มีอะไรเหลือในคฤหาสน์สาระทาเลย และยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาจะถูกแม่เลี้ยงอย่างพลอยไพลินข่มเหง
โดยเฉพาะลินน์ที่ยังเป็นนักเรียนชั้นประถมอยู่
ตระกูลพัชรวิทิตกลัวที่จะสูญเสียตระกูลสาระทามากกว่า ในแง่ของธุรกิจหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลสาระทาจะมีแต่ผลเสีย
ดังนั้นพวกเขาจึงเกลี้ยกล่อมคุณหญิงสามไม่ให้หย่ากับชล
แน่นอนว่าคุณหญิงสามก็ไม่อยากหย่าเช่นกัน
เธอไม่อยากหลีกที่นั่งให้พลอยไพลินหรอก
ธนภรณ์นั่งฟัและดูอยู่ข้างๆโดยไม่ส่งเสียง
วันนี้เธอไม่สบายนิดหน่อย จึงขอลาและพักผ่อนที่บ้าน
หลังจากอาสะใภ้สามร้องไห้เสร็จ ธนภรณ์ก็พูดอย่างเฉยเมยว่า: “แม่และอาสะใภ้สามคะ เวลาเผชิญหน้ากับศัตรู ไม่ต้องไปกังวล ทางที่ดีควรหยุดนิ่งอย่างใจเย็นคะ”
หลังจากสังเกตการอย่างเงียบๆสองสามวัน ธนภรณ์รู้สึกว่าทั้งแม่และอาสะใภ้สามไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของพี่สาวได้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นพี่สาวยังมีคุณป้าที่สูงส่งคอยดุแลอยู่เบื้องหลัง
ป้าทั้งใจเย็นกว่าแม่และอาสะใภ้สามมาก
ถ้าทั้งสองเผชิญหน้ากัน ทางฝั่งป้าและพี่สาวจะเงียบสงบ ส่วนฝั่งแม่และอาสะใภ้สามจะยุ่งวุ่นวาย ยิ่งเคลื่อนไหวยิ่งมีข้อบกพร่องมากขึ้น เมื่อเผยจุดบกพร่องก็จะถูกพี่สาวจัดการ แล้วแบบนี้จะไม่ให้แพ้ได้ยังไง
“เด็กจะไปรู้อะไร”
คุณหญิงสองดุลูกสาวของเธอว่า: “พอได้แล้ว เธอกลับไปพักผ่อนเถอะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่เป็นอะไรก็ไปโรงเรียนได้แล้ว”
ธนภรณ์เม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไร เธอลุกขึ้นและจากไป
ขณะที่ธนภรณ์จากไป พ่อบ้านของบ้านสามก็เข้ามาพร้อมซองจดหมาย
“คุณผู้หญิงครับ ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งมาที่ห้องรักษาความปลอดภัย แต่บอกว่าเป็นของคุณผู้หญิง”
พ่อบ้านยื่นซองให้คุณหญิงสาม
คุณหญิงสามเห็นซองจดหมายแล้วมีสีหน้าเปลี่ยนไป เธอมีลางสังหรณ์ว่าสิ่งที่อยู่ในซองจะทำให้เธอโกรธ
อย่างไรก็ตามเธอยังคงหยิบซองจดหมาย ฉีกเปิดซอง แล้วหยิบรูปถ่ายปึกหนึ่งออกจากข้างใน
เธอดูและยิ่งดูเธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้น แล้วยังพลานด่าชลไปอีก
มันเป็นรูปถ่ายที่แอบถ่ายชลกับชู้ของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน