พูดถึงชล สองพ่อลูกก็มองไปที่พลอยไพลิน
โดนพ่อกับพี่มอง พลอยไพลินก็รีบพูดขึ้น “ตั้งแต่วันนั้นที่เขามา ฉันไม่ได้เจอเขา ต่อมาเขาก็ไม่ได้โทรหาฉัน ไม่ได้ส่งข้อความหาฉัน ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าช่วงนี้เขาเป็นยังไง”
เธอไม่ได้รักชล แต่หลอกใช้พลกระตุ้นไซม่อน น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผล แถมยังทำลายสุขภาพตัวเองอีก
นึกถึงอดีตบ้าๆ บอๆ ที่ใช้เวลาไปกับชล พลอยไพลินก็รู้สึกเสียใจที่ทำมันลงไป
แต่ก็ยิ่งอาฆาตแค้นไซม่อน อยากแก้แค้นไซม่อนมากกว่าเดิม ได้เล่นงานญาณิน ทำร้ายญาณิน ถึงเธอจะไม่ได้ไซม่อนมา ก็อารมณ์ดีขึ้นบ้าง
“เขายุ่งมากหรือเปล่า ช่วงสองสามวันนี้ก็เลยไม่มา?”
คุณพสธรพูดขึ้น
“พ่อ พรุ่งนี้ผมจะไปสืบดู”
รณภพก็คิดว่านี่มันแปลก ชลมักจะมาวอแวน้องสาวเขา วันหนึ่งจะมาหาหลายครั้ง ช่วงนี้สามวันติดกันไม่โผล่หน้าออกมาเลยสักครั้ง นี่มันผิดปกติ
คุณพสธรพยักหน้า
“ยัยอรจิรานั่น อย่าเก็บไว้ หาวิธีทำให้เธอตายในมือตำรวจซะ”
คุณพสธรสั่งลูกชายให้จัดการเรื่องนี้ให้ดี ไม่งั้นถ้าให้ตำรวจสืบเจออะไรบางอย่าง มันจะไม่เป็นผลดีสำหรับพวกเขา
“พ่อ เรื่องนี้ให้ผมจัดการ”
คุณพสธรตอบอืม เขาเชื่อมั่นในความสามารถลูกชาย เด็กคนนี้ชอบทำเรื่องเลวทรามตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว
สืบทอดความใจดำอำมหิตจากเหล่าบรรพบุรุษ เทียบกับเขาแล้วเป็นศิษย์ได้รับการอบรมสั่งสอนจากครู แต่เก่งกว่าครูเสียอีก
ตระกูลเลิศธนโยธาคิดว่าชลไม่โผล่หน้ามาสามวันมันผิดปกติ แต่ทางด้านตระกูลสาระทาไม่คิดอะไรมาก ยังไงแล้วหลังจากชลไปคบกับพลอยไพลิน ก็ไม่ค่อยกลับบ้านเท่าไร
ในใจคุณย่าโกรธเคือง คิดว่าลูกสะใภ้ก่อเรื่องจนลูกชายไม่กลับบ้าน รวมถึงความใจเหี้ยมของณิชกานต์ ผ่าตัดทำหมันให้ชลปราศจากความยินยอมจากเขา ผู้อาวุโสสองคนจึงปฏิบัติกับเธอไม่เหมือนแต่ก่อน
……
ณ โรงแรมเมเปิล
กัญณิศาสวมหน้ากากสีเงินของเธอ สวมชุดดำสำหรับกลางคืน ยืนหน้าประตูทางเข้าห้องเพรสซิเดนท์สูท ยกมือขึ้นเคาะประตู
เหล่าบอดี้การ์ดข้างกายประยสย์เห็นเธอนานแล้ว ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แวบไปแวบมา หลบซ่อนตัว ให้เธอมาเคาะประตูหน้าห้องอย่างง่ายดาย
กัญณิศาก็รู้ว่าบอดี้การ์ดประยสย์จงใจอ่อนให้
ประยสย์ยังไม่ได้หลับ ได้ยินเสียงเคาะประตู เขาเดินตรงมาเปิดประตู เห็นว่าเป็นกัญณิศา แววตาเขาก็เป็นประกาย สีหน้าเย็นยะเยือกก็อ่อนลงนิดหน่อย หลีกตัวขณะที่เอ่ยปาก “เธอมาแล้ว”
กัญณิศาเข้าห้องมา
“รู้ว่าคุณมาเมืองแอคเซสซ์ ก็ต้องมาเยี่ยมคุณสิ”
ประยสย์ได้ยินคำพูดเธอ ก็อดขำไม่ได้ “ฉันดีใจมากที่เธอมาเยี่ยมฉันได้”
กัญณิศาเดินมานั่งหน้าโซฟาด้วยตัวเอง “ฉันเป็นชาวเมืองแอคเซสซ์ คุณมา ฉันก็ต้องทำตัวเป็นเจ้าภาพ อยากกินอาหารเย็นไหม ฉันเลี้ยงคุณเอง”
“ฉันไม่กิน ถ้าคุณมีใจจริงๆ พรุ่งนี้เลี้ยงข้าวฉันสิ”
กัญณิศาคิดว่าสวมหน้ากากปรากฏตัวตอนกลางวันมันไม่ค่อยดีนัก และจะเผยช่องโหว่มากขึ้นด้วย จึงยิ้มอย่างรู้สึกผิด พูดขึ้น “ตอนกลางวันฉันไม่สะดวก พรุ่งนี้คุณไม่ต้องกินข้าวเย็นนะ รอฉันมา ฉันเลี้ยงข้าวคุณเอง กินที่นี่แหละ”
ประยสย์ยังคงนั่งฝั่งตรงข้ามเธอ แบบนี้เขามองเธอสะดวกกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน