“วิกา”
ยศพัฒน์ดึงภรรยาเอาไว้ พูดขึ้น: “เชื่อใจพี่คุณเถอะ รออยู่ที่นี่ พ่อยังต้องการให้พวกเราคอยดูแลนะ”
เขากลัวภรรยาจะออกไป จึงยัดพิรัตน์ที่กำลังหลับปุ๋ยเข้าไปในอ้อมอกของเธอ
จากนั้นจึงดึงเทวิกาให้นั่งลง ปลอบใจเธอ: “ไม่ต้องกังวล พี่ไม่เป็นไรหรอก ก่อนพี่จะออกไปจากโรงพยาบาลก็มอบคุณกับพ่อให้ผมดูแล ผมไม่มีทางยอมให้คุณพาคนออกไปเสี่ยงอันตรายเด็ดขาด”
“พัฒน์ ฉันวางใจไม่ได้หรอก ตอนนี้พ่อฉันยังไม่ฟื้น แม่ฉันก็ยังมาไม่ถึง พี่ฉันออกไปตั้งนานแล้วก็ยังไม่กลับมาสักที ต่อให้ฉันจะนั่งอยู่ที่นี่ ฉันก็ไม่สบายใจอยู่ดี ถ้าพี่ฉันเป็นอะไรไป ฉันคงไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิต”
“ฉันไม่มีทักษะการป้องกันตัว แต่ฉันสามารถพาพวกเขาไปช่วยพี่ฉันได้นี่นา”
วินาทีนี้ สิ่งที่เทวิกาเสียใจที่สุดก็คือเมื่อตอนเด็กๆตนเองไม่ได้เรียนศิลปะป้องกันตัวเอาไว้
“ตระกูลกิจวณิชกุล ไหนจะตระกูลอริยชัยกุลของพวกเรารวมไปถึงนฤเบศวร์ต่างก็ส่งคนไปช่วยพี่คุณอย่างลับๆแล้ว วางใจเถอะ ไม่มีอะไรหรอก”
แน่นอนว่า ยังมีจอมยุทธ์หญิงที่เข้าไปประสมโรงอยู่ด้วยอีกสองคน
แต่ทว่าที่กัญณิศากับชุติภามานั้น พวกยศพัฒน์ไม่รู้
“พวกคุณส่งคนเข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ยศพัฒน์พูดอย่างเคร่งขรึม: “เรื่องอย่างนี้ยิ่งเป็นความลับยิ่งดี ต้องทำอย่างนี้แหละถึงจะฆ่าอีกฝ่ายที่ตั้งรับไม่ทันได้”
บนตัวของประยสย์มีเครื่องติดตามอยู่ คนที่ทั้งสามตระกูลส่งไปก็แอบติดตาม แอบปกป้องผ่านเครื่องติดตามบนตัวของประยสย์นี่แหละ
“วิกา เชื่อผม เชื่อพี่คุณนะ ไม่มีเรื่องอะไรแน่นอน ภารกิจสำคัญของพวกเราก็คือต้องคุ้มครองพ่อให้ดี”
ถึงจะรู้ว่ามีคนคอยช่วยเหลือพี่ชายอยู่ลับๆ เทวิกาก็ยังคงกังวลใจมากอยู่ดี แต่ที่ยศพัฒน์พูดก็ถูก ภารกิจหลักของสองสามีภรรยาคือการดูแลพ่อที่ยังไม่ฟื้นให้ดี อย่าปล่อยให้พสธรหาโอกาสมาทำร้ายได้
หลังจากปลอบใจเทวิกาได้แล้ว ยศพัฒน์จึงโทรไปหาอินทัช
เช้าวันนี้อินทัชเพิ่งมาถึงเมืองซูเพร่า เขามาพร้อมกับคนของตระกูลกิจวณิชกุล ที่คนของตระกูลกิจวณิชกุลยินยอมเข้ามายุ่งเรื่องนี้ เพราะทนคำอ้อนวอนจากเจ้าหญิงน้อยของตระกูลพวกเขาไม่ได้ จึงต้องช่วยเหลืออย่างจำใจ อินทัชล่อลวงหัวใจของนลินีไป คนตระกูลกิจวณิชกุลได้แต่เก็บความหงุดหงิดเอาไว้ในใจ ถึงได้พาอินทัชมาด้วยกัน
อินทัชที่ไปมาหาสู่กับตระกูลกิจวณิชกุลอยู่ตลอด การที่เขาตามกลับมาด้วยมันก็จำเป็นอย่างยิ่ง
อินทัชไม่ได้รับสายเจ้านายของเขา เพราะพวกเขากำลังทะเลาะกับสองพ่อลูกตระกูลกิจวณิชกุลอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่
คนที่ตระกูลกิจวณิชกุล ตระกูลอริยชัยกุลรวมถึงตระกูลเดชอุปส่งมา มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมๆกัน ตอนที่พวกเขามาถึง บรรดาบอดี้การ์ดข้างกายของประยสย์บาดเจ็บสาหัสกันถ้วนหน้า ประเด็นก็คือตระกูลสาระทาไม่มีปืน ส่วนตระกูลเลิศธนโยธาที่เป็นมาเฟีย มีปืน
แต่ยังดี ที่ตำรวจมาถึงทันเวลา
รอจนกระทั่งปืนในมือของฝั่งตระกูลเลิศธนโยธาหลุดมือไป หรือไม่มีกระสุนแล้ว นั่นเป็นเวลาที่พวกประยสย์จะเริ่มลงมือได้
คนของประยสย์บาดเจ็บหนัก เมื่อรู้ว่าปืนของศัตรูไม่มีกระสุนแล้ว เขาจึงไปท้าทายพสธรด้วยตัวเอง
พสธรอายุมากแล้ว ไม่ได้แข็งแกร่ง มีพละกำลังเท่าคนวัยหนุ่มอย่างประยสย์ แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นถึงผู้นำของตระกูล ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งมากมาย ฝีมือก็ดีมาก การที่ประยสย์มาต่อกรกับเขา ไม่ได้เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบเลย
ตอนที่ประยสย์เกือบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว กัญณิศาก็ขี่มอเตอร์ไซค์ พาชุติภาบุกเข้าไปท่ามกลางสงครามที่โกลาหล
แค่หยุดรถ เธอก็ถอดหมวกกันน็อกแล้วทุบไปที่พสธร ดึงประยสย์ออกมาจากภายใต้หมัดหนักๆของเขา
ชุติภาก็เอาหมวกกันน็อกกระแทกไปที่พสธรเช่นกัน หลังจากที่กัญณิศาดึงประยสย์ออกมา เธอจึงเข้าไปเผชิญหน้ากับพสธร
ประยสย์บาดเจ็บ ทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด
หลังจากที่กัญณิศาดึงประยสย์ออกมาจากภายใต้หมัดหนักๆของพสธรแล้ว จึงพูดขึ้น: “อยู่ตรงนี้นะ ฉันจะไปแก้แค้นให้คุณเอง”
ประยสย์: “......”
คุณชายของตระกูลสาระทาที่น่าเกรงขามอย่างเขา ต้องมาหลบอยู่ข้างหลังผู้หญิงงั้นเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน