ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 119

วินาทีต่อมา เสียงเขย่าลูกเต๋าก็ขัดจังหวะความคิดของฉู่โม่หยวน

ฉู่โม่หยวนหลุบตามองทันที นั่นเองจึงเห็นว่าหลินเมิ่งหวันหยิบถ้วยลูกเต๋าขึ้นมาเขย่าอย่างรวดเร็ว

บนใบหน้าของนางฉาบฉายไปด้วยรอยยิ้มจางๆ เห็นได้ชัดนางไม่ได้รู้ผลลัพธ์ของชายชราเลย

แต่ก่อนที่ฉู่โม่หยวนจะมองการเคลื่อนไหวของนางได้ชัดเจน หลินเมิ่งหวันก็วางถ้วยลูกเต๋าลงบนโต๊ะอย่างแรงเสียแล้ว

“เท่านี้รึ”

“เขย่าแค่สองครั้งเนี่ยนะ”

“แม่เจ้า คุณชายผู้นี้เล่นไม่เป็นเลยงั้นรึ”

“ข้าว่าคุณชายคนนี้ไม่ใช่แค่เล่นไม่เป็น แต่ยังโง่อีกด้วย คนปกติที่ไหนจะเดิมพันเงินหนึ่งพันตำลึงทองกับท่อนไม้หักๆ แค่ท่อนเดียว...”

เสียงการสนทนาดังเข้าหูหลินเมิ่งหวันอย่างต่อเนื่อง และเป้าจื่อก็หน้าเปลี่ยนสีอย่างฉับพลัน จากนั้นจึงสบตากับฉู่โม่หยวนอย่างประหม่าและลำบากใจ

การเคลื่อนไหวของหลินเมิ่งหวันรวดเร็วเกินไปจนเขาฟังไม่ทัน

แต่ต่อให้ฟังทันแล้วจะต่างกันอย่างไร

ชายชราได้แต้มสูงสุดไปแล้ว หลินเมิ่งหวันไม่มีทางชนะได้เลย

เป้าจื่อหยุดความคิดของตนและจ้องมองหลินเมิ่งหวันกับชายชราที่อยู่ตรงหน้า ภายในใจกำลังคิดว่าชายชราผู้นี้คงไม่ใช่เซียนพนันที่คมในฝักหรอกนะ

ที่ฉู่โม่หยวนเรียกเขามาที่นี่อาจเป็นเพราะหมึกไม้ม่วง ถ้าอีกเดี๋ยวเขาต้องเดิมพันกับชายชราผู้นี้ เขาจะชะล่าใจไม่ได้

หลินเมิ่งหวันไม่สนใจคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนที่อยู่รอบๆ นางมองถ้วยลูกเต้าของชายชราและเอ่ยยิ้มๆ ว่า “เชิญ”

“ได้สิ!” ชายชราตอบรับและเปิดถ้วยลูกเต๋าอย่างตื่นเต้น

ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่รอบๆ ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“พระเจ้า หกแต้มสามลูก นี่มันจะโชคดีเกินไปแล้ว เด็กคนนี้คงไม่เหลือแม้แต่กางเกงแน่”

“ตาเฒ่านี่ไม่ได้บ้างั้นหรือ เขาคงไม่ได้โกงหรอกนะ”

“อีกเดี๋ยวคุณชายน้อยผู้นี้จะไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่งหรอกหรือ นี่คือการสูญเสียเงินหนึ่งพันตำลึงทองเชียวนะ ต่อให้รวยแค่ไหนก็ทนไม่ได้แน่...”

“ฮ่าๆๆๆๆ เด็กน้อย เอาเงินมาซะ!” ชายชราหน้าแดง ไหนเลยจะเหลือเค้าความกังวลและทรุดโทรมก่อนหน้านี้

เพียงแต่หลินเมิ่งหวันกลับยิ้มน้อยๆ “เหตุใดท่านผู้เฒ่าจึงรีบร้อนนัก ดูจำนวนของข้าก่อนไม่ได้กว่าหรือ”

หลินเมิ่งหวันเปิดถ้วยลูกเต๋าอย่างใจเย็นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน

วินาทีถัดมา...

“พระเจ้าช่วย!”

“ข้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!”

“นะ... นี่มันเป็นไปไม่ได้ ชนะได้ด้วยรึ!”

แม้แต่เป้าจื่อกับฉู่โม่หยวนก็ยังมองลูกเต๋าบนโต๊ะพนันอย่างตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยสักนิดว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้

ผลลูกเต๋าของหลินเมิ่งหวันก็เป็นหกแต้มสามลูกเช่นกัน

แต่สิ่งที่ทุกคนคิดไม่ถึงเลยก็คือ หนึ่งในลูกเต๋านั่นถูกแบ่งให้แตกออกเป็นครึ่งซีก!

ลูกเต๋าที่แตกยังมีแต้มตัวเลขที่หงายขึ้นมา ทำให้แต้มสุดท้ายของหลินเมิ่งหวันกลายเป็นหกแต้มสามลูก หนึ่งแต้มหนึ่งลูก

แต้มที่สิบเก้าปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า มากกว่าคะแนนของชายชราหนึ่งคะแนน

การแข่งคราวนี้ หลินเมิ่งหวันชนะแล้วจริงๆ

“เจ้าเด็กขี้โกง!” ชายชรามองลูกเต๋าของหลินเมิ่งหวันอย่างตกตะลึงและถลันไปที่โต๊ะพนันอย่างกระวนกระวาย

จะเป็นสิบเก้าแต้มได้อย่างไร

จะแบ่งลูกเต๋าออกเป็นสองซีกได้อย่างไร

เด็กคนนี้ใช้ลูกไม้แน่ๆ!

“เจ้าเป็นคนของบ่อนพนันนี่งั้นละสิ พวกแกมันร้านสกปรก! หลอกลวงผู้คน!” ชายชราเอ่ยออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวและคว้าหมึกไม้ม่วงเอาไว้ “ข้าไม่พนันแล้ว พวกเจ้ารังแกข้า ข้า... โอ๊ย ปล่อยนะ!”

เหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าสายตาที่หลินเมิ่งหวันมองเขาเมื่อครู่นี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความกังวลล่ะ

แต่ยังไม่ทันที่ฉู่โม่หยวนจะสืบสาวอะไรเพิ่มเติม หลินเมิ่งหวันก็หันหน้ากลับไปแล้ว

การได้พบหมอยาหนานไห่ในชาตินี้ทำให้หลินเมิ่งหวันมีความสุขมากจริงๆ นางไม่มีทางปล่อยโอกาสที่ดีขนาดนี้ไปแน่

หลินเมิ่งหวันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่งสายตาให้องครักษ์ปล่อยเขาไป จากนั้นจึงหยิบตั๋วเงินสองใบยื่นใส่มือของหมอยาหนานไห่

“ท่านผู้เฒ่า ที่พวกเราได้พบกันวันนี้คงเป็นโชคชะตา เหตุใดเราไม่ออกไปหาที่เงียบๆ คุยกันสักหน่อยล่ะ”

หมอยาหนานไห่จ้องมองหลินเมิ่งหวันอย่างโกรธจัด แต่เมื่อเห็นตั๋วเงินในมือของตน ดวงตาก็สว่างไสวขึ้นมาทันที

แม่เจ้า สองพันตำลึงทองจริงๆ หรือนี่!

เด็กคนนี้จะมีฝีมือและใจกว้างเกินไปแล้ว!

ด้วยเงินสองพันตำลึงทอง เขาจะใช้ชีวิตอย่างอิสระไปได้อีกพักใหญ่

ชายชรามองหลินเมิ่งหวันที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนและอบอุ่นอยู่ตรงหน้าเขา ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปมาก จากนั้นจึงพยักหน้ารัวๆ ให้หลินเมิ่งหวัน “พูดได้ดีๆ เราไปหาที่คุยกันดีกว่า”

หลินเมิ่งหวันพยักหน้าพร้อมกับยิ้มน้อยๆ แต่นางก็ไม่ลืมรับหมึกไม้ม่วงมา และมอบให้ฉู่โม่หยวนทันที

ชายชราเม้มริมฝีปากแต่ก็ไม่ได้ขัดขวางอีก เขารีบยัดตั๋วเงินสองใบใส่ไปในอกเสื้อของตนและตบอย่างแรง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ

ฉู่โม่หยวนจับมือเล็กๆ ที่เปียกเหงื่อของหลินเมิ่งหวัน ภายในใจเกิดข้อสงสัยขึ้นมามากมาย

แต่เขาก็ยังทำตามที่หลินเมิ่งหวันพูด โดยพาหลินเมิ่งหวันกับหมอยาหนานไห่ไปที่ห้องส่วนตัวในเรือนด้านหลัง

ภายในห้องส่วนตัว หลินเมิ่งหวันขอให้ชูยียีเตรียมสุราและอาหารชั้นดีมาต้อนรับหมอยาหนานไห่และกินอาหารร่วมกับเขาหนึ่งมื้อ

หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วยาม หลินเมิ่งหวันจึงออกไปจากชามสมบัติพร้อมกับฉู่โม่หยวนด้วยความพึงพอใจ

ในรถม้า หลินเมิ่งหวันเอนกายพิงเบาะนุ่มๆ อย่างหมดเรี่ยวแรง แต่ภายในใจกลับมีความสุขมากเกินจะหาใดเปรียบ และรอยยิ้มก็ฉาบฉายอยู่บนใบหน้าอย่างยากจะควบคุม

ฉู่โม่หยวนหลุบตามองหลินเมิ่งหวันและกุมมือเล็กๆ ของนางไว้ “ตอนนี้จะบอกข้าได้หรือยัง ว่าคืนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก