หากเป็นเรื่องโกหก เขาก็ยอม
ปกติจูบของเย่เซียวมักดุเดือดร้อนแรง ไม่ปล่อยให้เธอได้มีพื้นที่ในหัวได้ขบคิดเรื่องอื่น
ไม่นานไป๋ซู่เย่ก็ตกอยู่ในห้วงอารมณ์ร้อนแรงที่เขามอบให้จนไม่อาจถอนตัว ในหัวเธอขาวโพลน รู้เพียงเธอชอบให้เขากอดตัวเองแน่นๆ แบบนี้ ชอบที่ได้สัมผัสตัวเขาอย่างใกล้ชิดและแท้จริง…
เธอดูดดุนเรียวลิ้นชื้นของเขากลับ มืออ่อนนุ่มสอดเข้าใต้ร่มผ้าเขาโดยไม่รู้ตัว เย่เซียวครางฮึมในลำคอหนักๆ มือใหญ่คว้าจับมือนุ่มของเธอกลับคล้ายจะบดตัวเธอรวมเป็นร่างเดียวกับตัวเอง
ไม่สนใจสถานที่เลย…
เขาถอดชุดนอนของเธอให้ริมฝีปากได้ดูดดุนลาดไหล่เธออย่างบ้าคลั่งร้อนแรง ทิ้งร่องรอยกุหลายแสนจะคลุมเครือบนผิวขาวละเอียด ไป๋ซู่เย่หายใจหอบมือโอบกอดไหล่เขา สองขาของเธอถูกเขายกขึ้นสูงให้เกี่ยวเอวแกร่งเขาไว้
ทั้งสองคน…
ทุกอย่างยังไม่ทันเริ่มต้นก็เปียกชุ่มเพราะหยาดเหงื่อ
แต่ว่า…
จูบไปจูบไป เย่เซียวรู้สึกเธอในอ้อมแขนยิ่งตัวร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ…
จูบไปจูบไป เธอรู้สึกว่าเขาที่อยู่ตรงหน้าเริ่มพร่ามัวขึ้นเรื่อยๆ…
จูบไปจูบไป เธอเริ่มหมดแรงตอบสนองเขา…
จูบไปจูบไป เธอตัวอ่อนยวบในอ้อมแขนของเขา…
“ซู่ซู่!” เย่เซียวจับสังเกตถึงความผิดปกติได้เลยกอดเธอไว้แน่น ตัวเธอที่อ่อนระทวยไถลลงไป สองขาไม่มีแรงจะทรงตัวได้อีกเพราะเจ้าตัวได้หมดสติไปแล้ว
“ซู่ซู่!ซู่ซู่!”
เย่เซียวนั่งย่อลงกับพื้นโดยกอดเธออยู่ เรียกสองทีแต่เธอไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ
“ถังเจวี๋ย!” เย่เซียวช้อนตัวเธอขึ้นทีเดียวก้าวขายาวขึ้นไปชั้นบนพลางตะโกนเรียกเสียงดัง “ถังเจวี๋ย!”
ถังเจวี๋ยกำลังคาดสายรัดชุดนอนอย่างเกียจคร้าน เดินหาววอดออกมาจากห้องนอนและกำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้ยินเสียงตะโกนของเย่เซียว“เรียกหมอ!รีบเรียกหมอมาเร็ว!”
เมื่อถังเจวี๋ยเห็นไป๋ซู่เย่ที่นอนหมดสติในอ้อมแขนเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว รีบปรับสีหน้าให้จริงจังก่อนจะกดโทรออกโดยไม่ถามให้มากความ ………………
ไป๋ซู่เย่ถูกวางไว้บนเตียงของเย่เซียว
เธอไข้ขึ้นอีกแล้ว
ไข้ขึ้นสูงถึงขั้นไม่มีสติ ใบหน้าดวงเล็กขาวซีดไร้สีเลือดฝาด
คุณหมอกำลังตรวจอาการให้ด้วยใจที่หวั่นเกรง
เย่เซียวระงับอารมณ์ไว้ “คุณบอกว่าถ้าฉีดยาของคุณแล้วไข้เธอจะลดไม่ใช่เหรอ? นี่อาการแย่ลงชัดๆ”
“เย่เซียว พอได้แล้ว อย่าทำหน้าน่ากลัวนัก คุณหมอหลินจะตกใจแย่” ถังเจวี๋ยพูดปลอบอยู่ข้างๆ
ท่าทางที่เย่เซียวตีหน้าเย็นชานั้นน่ากลัวจริงๆ แม้แต่เขาถังเจวี๋ยยังรับไม่ไหว อย่าว่าแต่คนอื่นเลย
“ตอนนี้มันยังไงกันแน่?” เย่เซียวถามต้อนคุณหมอหลินด้วยสีหน้าที่ไม่คลายความตึงเครียดลงสักนิด
“นายอย่ากังวลเกินไป แผลอักเสบแล้วมีไข้มันปกติ” ถังเจวี๋ยยังคงปลอบเย่เซียว
“นายท่าน คุณเย่เซียว กลัวแต่ว่า…ไข้ขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่แค่แผลอักเสบธรรมดา” คุณหมอหลินเอ่ยขึ้นกะทันหันด้วยใบหน้าหนักอึ้ง น้ำเสียงแฝงด้วยความหวาดระแวง
เย่เซียวหน้าดุดัน “นี่หมายความว่ายังไง?!”
คุณหมอหลินมองสีหน้าเย่เซียวแวบหนึ่งพลางเม้มปากไปมาไม่กล้าพูด
“กลัวอะไร มีอะไรก็พูดมา!” ถังเจวี๋ยขมวดคิ้วสวย
“คุณ ตอนนี้รีบเอาตัวอ่อนออกมา ฉันจะไปโทรหาถังซ่ง!” เย่เซียวทิ้งคำไว้แล้วรีบสับเท้าออกจากห้องอย่างไม่รอช้า ถังเจวี๋ยรีบเรียกทีมพยาบาลของตระกูลถังมาทั้งหมดเพื่อทำการตรวจร่างกายทั้งตัวให้เธอ วินิจฉัยโรค รอมั่นใจก็จะทำการผ่าเอาตัวอ่อนออกมา ………………
ถังซ่งกำลังนอนอยู่
สะลึมสะลือไม่ได้สติครบครันนัก
“ฮัลโหล ใครเนี่ยโทรมาดึกดื่น ไม่รู้หรือไงว่ารบกวน…”
“ยารักษาพิษตัวอ่อนยุงก้นปล่อง นายมีมั้ย?” เย่เซียวพูดขัดประโยคกล่าวโทษของเขา
“เย่เซียว?” เดิมทีถังซ่งยังงัวเงียอยู่แต่พอนึกถึงบางอย่างเจ้าตัวก็ตื่นในทันที กระเด้งตัวลุกจากเตียงฉับพลัน “นายถูกตัวอ่อนยุงก้นปล่องกัดเหรอ?”
“ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเธอ!” มือที่ทิ้งข้างลำตัวของเย่เซียวกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดหลังมือปูดโปน
ให้ตาย!เขายอมให้ตัวเองเป็นฝ่ายที่ถูกกัดยังจะดีกว่า!
“เธอ? ไป๋ซู่เย่!”
“นายอย่าพล่ามเยอะขนาดนั้น มียาหรือเปล่า?”
“ฉันไม่มี นี่เป็นโรคสายพันธุ์ใหม่ โอกาสตายร้อยละร้อย ไม่เคยมีใครมีชีวิตรอด”
“นายเป็นอัจฉริยะด้านการแพทย์ไม่ใช่หรือไง?” เย่เซียวตะคอกเสียงดังด้วยห้วงอารมณ์ที่ใกล้ระเบิดเต็มที “ไม่มียาอะไรเลย นายเป็นอัจฉริยะด้านการแพทย์บ้าอะไร!”
เสียงตะคอกที่ดังจากปากเริ่มเปลี่ยนโทนเสียงไปบ้างเล็กน้อย ตายร้อยละร้อยบ้าอะไร ถ้าเขาไม่ได้พยักหน้าตกลง แม้แต่ยมบาลก็ห้ามเอาชีวิตเธอไป!
ถังซ่งไม่เคยเห็นเย่เซียวเป็นแบบนี้มาก่อน เขากล่าว“นายอย่าเพิ่งใจร้อนขนาดนั้น ถึงฉันจะไม่มียา แต่ฉันรู้ว่าใครน่าจะมี”
“ใคร?”
………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก!