สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 138

หลี่ม่านฟังคำพูดนี้แล้ว สีหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

เพียงแต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยต่อพวกเธอ เธอจึงไม่ได้เสนอคำพูดโต้แย้งออกมา อมยิ้มแล้วกล่าวว่า: "นี่เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหากเป็นปัญหาของพวกเรา จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณสิงอย่างแน่นอน"

ถึงแม้ว่าเธอดูเหมือนจะตอบรับเงื่อนไขของสิงหย่าอัน แต่ก็เพิ่มคำเสริมเงื่อนไขไว้ข้างหน้าอีกคำ

สิงหย่าอันก็สังเกตเห็นได้ ขมวดคิ้วเล็กน้อย อยากที่จะพูดอะไรอีก แต่ก็ถูกหลี่ม่านชิงตัดหน้าไปก่อน

"งั้นเอาอย่างนี้ พวกเรากลับไปปรึกษาหารือกันก่อนว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องครั้งนี้เป็นอย่างไร คุณสิงอยู่พักผ่อนให้ดีที่โรงพยาบาล รอให้มีผลสรุปในภายหลังแล้ว ฉันจะแจ้งให้คุณสิงทราบอีกที"

สิงหย่าอันเห็นเช่นนี้แล้ว ถึงแม้จะไม่ยินยอม แต่ก็กลัวว่าพูดมากไปแล้ว จะส่งผลกระทบถึงภาพลักษณ์ของเธอ ดังนั้นจึงทำได้เพียงกดคำที่อยากจะพูดเอาไว้ โบกมือให้พวกเขาออกไป

หลังจากคนทั้งสามออกไปแล้ว ลู่ซือหยี่เห็นกู้ฉางชิงเงียบเฉย อดไม่ได้ที่จะกล่าวเย้ยหยันว่า: "กู้ฉางชิง ดูเรื่องดีๆที่คุณทำสิ"

เธอพูดพลาง นึกถึงคำพูดกล่าวอ้างของกู้ฉางชืงก่อนหน้านี้เรื่องผ้าของตระกูลพวกเขา กล่าวถากถางว่า: "เหอะ ตอนแรกฉันก็บอกแล้วว่าไม่ควรใช้ผ้าของตระกูลคุณ ดูสิ ตอนนี้เกิดปัญหาแล้วจริงๆ เรื่องนี้ ฉัรจะรวบรวมข้อมูลรายงานต่อพี่จิงเหยา เงินชดเชยห้าล้าน ฉันจะคอยดูว่าคุณจะชดใช้ยังไง แล้วคุณก็อย่าคิดว่าจะให้พี่จิงเหยาช่วยคุณชดใช้ ไม่เช่นนั้นฉันจะบอกคุณน้าหมิง"

เธอยิ่งพูดก็ยิ่งลำพองใจ คล้ายกับเห็นจุดจบที่น่าเศร้าของกู้ฉางชิง

แต่กู้ฉางชิงไม่สบายใจกับคำพูดของเธออย่างมาก

"ลู่ซือหยี่ ฉันอยากรู้จริงๆว่าตกลงคุณอายุเท่าไรแล้ว ทำไมชอบขี้ฟ้องจัง?"

เธอยิ้มอย่างแค้เคืองเย็นชากลับไป เห็นลู่ซือหยี่โกรธ ก็ไม่ให้โอกาสเธอได้พูด กล่าวชิงตัดหน้าว่า: "ทำไมคิดว่าที่ฉันพูดมันไม่ถูกหรอ?"

ลู่ซือหยี่กัดฟัน หาคำโต้แย้งไม่ได้ชั่วขณะ

กู้ฉางชิงก็ไม่ใส่ใจ มองเธออย่างเยาะเย้ย: "อีกอย่าง เรื่องนี้ผู้จัดการใหญ่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร คุณจะกระตือรือร้นขนาดนี้ไปทำไมกัน? หรือว่าโรคของคุณกำเริบหรอ?"

พูดถึงสุดท้าย ในสายตากู้ฉางชิงก็อดไม่ได้ที่จะเย็นชาขึ้นมา

เธอทำเสื้อผ้า ในใจเธอเองเข้าใจชัดเจนดี

วัตถุดิบล้วนคือเธอคัดสรรมาด้วยตนเอง ถ้าหากมีปัญหา เธอก็สามารถมองออกได้ในพริบตา

อีกอย่างช่วงเวลานี้ ลู่ซือหยี่ก็มุ่งเป้ามายังเธอไม่น้อย

วางแผนใส่ร้ายกับการออกแบบของเธอก็ไม่น้อย ดังนั้นก็ไม่แปลกที่เธอจะคิดแบบนี้

ลู่ซือหยี่ก็ฟังออกถึงน้ำเสียงในคำพูดของเธอ หน้ามืดจนไม่มีอะไรเปรียบ

"เชอะ ฉันดูแล้วคุณคงไม่เป็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา ตนเองทำเรื่องผิดพลาด ก็ไม่ละอายใจไปปรักปรำคนอื่น"

เธอกัดฟันตำหนิด้วยความโกรธ คล้ายกับเดือดดาลไม่น้อย

ตรงกันข้ามกับกู้ฉางชิงข้างๆเธอที่สุขุมเยือเย็นไม่น้อย

หลี่ม่านมองคนทั้งสอง ก็ปวดหัวไม่หยุดไปชั่วขณะ

"พอๆ นี่จนถึงตอนนี้แล้ว พวกคุณยังมีอารมณ์มาทะเลาะกันอีกหรอ?"

เธอพูดพลาง ก็กวาดสายตามองคนทั้งสองอย่างไม่พอใจ

"ฉางชิง คุณกลับไปบริษัทอีกที ไปตรวจสอบผ้าที่เหลือเหล่านั้น ตรวจดูว่าเป็นปัญหาของผ้าหรือไม่"

กู้ฉางชิงได้ยิน ก็ไม่ใส่ใจลู่ซือหยี่ พยักหน้าอย่างสุขุม: "ค่ะ"

หลี่ม่านเห็นท่าทีที่ดีมากของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวอย่างกังวลใจออกมาว่า: "ถ้าเป็นปัญหาของผ้าของพวกเราจริงๆ เรื่องนี้ความรับผิดชอบของคุณจะหนักมาก ดังนั้นเวลาคุณตรวจสอบจะต้องละเอียดถี่ถ้วน รู้ไหม?"

"ฉันทราบ"

อันที่จริงไม่ต้องให้หลี่ม่านเตือนสติ กู้ฉางชิงก็รู้ว่าเรื่องนี้ร้ายแรง

เธอคิดถึงตรงนี้ ก็เม้มปากบางๆแน่น

หลี่ม่านเห็นสีหน้าท่าทางที่กดดันนี้ของเธอ ในที่สุดก็อดไม่ได้ กล่าวปลอบโยนว่า: "เอาล่ะ พวกเราก็อย่ามองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้น ก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาของพวกเราก็ได้ พวกเราควรตรวจสอบเรื่องราวให้ชัดเจนก่อน รอหลังจากความจริงปรากฎ ทางด้านของบริษัทนั้นก็จะตัดสินใจเอง"

กู้ฉางชิงพยักหน้า

หลังจากนั้นคนทั้งสามก็กลับไปถึงบริษัท แล้วก็แยกกันทำงาน

กู้ฉางชิงเรียกชีเสี่ยวจิ่วมาถามโดยตรง

"เสื้อผ้าที่เรียกกลับคืนมาเป็นอย่างไร ทางด้านฝ่ายจัดซื้อนั้นตรวจสอบแล้วมีปัญหาอะไรไหม?"

"เอ่อ....เสื้อผ้าเพิ่งเรียกกลับคืนมา ยังไม่ทันส่งถึงทางด้านฝ่ายจัดซื้อ"

ชีเสี่ยวจิ่วตอบกลับอย่างระมัดระวัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา