กู้ฉางฉิงคิดถึงตรงนี้ ใจก็อดตึงเครียดไม่ได้
และในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนี้
ต้องรู้ว่ามู่เฉาเกอตั้งแต่เด็กมาก็เหมือนกิ่งทองใบหยก ไม่เคยถูกตี ตอนนี้ถูกคนตบต่อหน้าสาธารณะชน ตระกูลมู่จะไม่จัดการเลยหรอ?
"นี่คือลูกสะใภ้ของคุณหรอ?"
คุณนายมู่กับคุณนายเฟิงเดินมาตรงหน้ากู้ฉางฉิง ไม่รอให้คุณนายเฟิงเอ่ยปากก็พูดก่อนเลย
"ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็ไม่อยากมีลูกสะใภ้เช่นนี้หรอก"
คุณนายเฟิงมองกู้ฉางฉิงด้วยสายตาเย็นชา พูดอย่างรังเกียจ
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดของพวกเขา ก็อ้าปากคิดอยากจะพูดอะไร แต่ก็พูดไม่ออก แล้วก็ถูกคุณนายมู่ตัดบท
"ดูๆแล้วคุณกู้น่าจะเดาตัวตนของฉันได้นะ ก็คงรู้ว่าที่ฉันมาในวันนี้มีจุดประสงค์อะไร"
เธอพูดแล้วก็พินิจพิเคราะห์กู้ฉางฉิงหัวจรดเท้า พูดอย่างเยือกเย็นว่า : "ดูคุณยังอายุน้อยอยู่เลย แต่ถือดีอย่างมาก เฉาเกอของเราคุณก็กล้าตบด้วยหรอ?"
กู้ฉางฉิงรู้อยู่แล้วว่าเธอมาที่นี่เพื่อคิดบัญชี บวกกับเรื่องนี้เป็นการเสียมารยาทของเธอ เช่นนี้จึงยอมรับคำตำหนิของเธอทั้งหมด ในขณะเดียวกันก็แสดงท่าทียอมรับผิด
"ต้องขอโทษด้วยนะคะ คืนนั้นฉันดื่มมากไป จึงไปหยาบคายกับคุณมู่ หวังว่าคุณนายมู่แล้วก็คุณมู่โปรดให้อภัยด้วย"
เธอพูดขอโทษอย่างนอบน้อม แต่ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะพูดจบ น้ำเสียงเย้ยหยันของเฟิงจิ้งหยวนก็ดังขึ้นข้างๆหู
"ใครจะไม่รู้ว่าคุณหนูจองตระกูลกู้คอแข็งจะตาย อย่ามาโกหกเลย ดื่มจนเมา? ไร้สาระ!"
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้ ก็รู้ว่าแย่แล้ว
เป็นอย่างที่คิด ความโกรธบนใบหน้าของคุณนายมู่มากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่าเธอไม่เคยคิดว่าหลังจากที่กู้ฉางฉิงขอโทษแล้วก็จบกันไป
เพียงแต่เวลานี้มีเหตุผลที่ดีที่สามารถทำให้เธอยืมหัวข้อมาแสดงความคิดเห็นได้
"หึ คุณกู้น่าจะอบรมสั่งสอนดีจริงๆ ทำให้ฉันได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ชื่อเสียงภายนอกของตนเองจะไม่ดีก็ช่าง แล้วยังคิดอยากมาพัวพันกับเฉาเกอของเราอีก แม้แต่ผู้อาวุโสก็พูดกระด้างกระเดื่องด้วย วันนี้ฉันจะพูดไว้ที่นี่เลย เรื่องนี้ตระกูลเฟิงของพวกคุณไม่ได้ชี้แจงให้ฉันทราบ ให้เฉาเกอของพวกเราหนีจากความยุติธรรม มิตรภาพของทั้งสองตระกูลเราก็นับว่าสิ้นสุดลงแล้ว!"
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้ ในแววตาก็ประกายความตกตะลึง
เธอคาดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะลุกลามไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล
เธอตกตะลึงมองไปทางคุณนายเฟิงด้วยความกระวนกระวายใจ
แต่คุณนายเฟิงอยากจะจัดการกู้ฉางฉิงมานานแล้ว เพียงเพราะว่ายังไม่มีโอกาส ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปกป้องกู้ฉางฉิงในตอนนี้
เธอกวาดสายตามองกู้ฉางฉิงอย่างเย็นชา ยิ้มพูดว่า : "คุณนายมู่ เรื่องนี้เดิมทีตระกูลเฟิงของเราไม่ต้องช่วยสั่งสอน พวกคุณอยากจะลงโทษอย่างไร ตระกูลเฟิงเราก็ไม่ต่างกัน"
ความหมายในตอนนี้ เธอลงโทษกู้ฉางฉิงได้ตามสบาย
เป็นธรรมดาที่คุณนายมู่จะฟังความหมายในคำพูดของเธอออก มองกู้ฉางฉิงแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า : "คุณกู้ ฉันก็จะไม่ให้คุณลำบากใจหรอก ขอแค่คุณคุกเข่าขอโทษเฉาเกอของเรา เรื่องนี้ก็เลิกแล้วต่อกันไปได้เลย"
กู้ฉางฉิงไก้ฟัง ก็มองคุณนายมู่อย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วมองไปยังมู่เฉาเกอที่อยู่ด้านหลังทันที
มู่เฉาเกอก็มองเธอ อย่างทันที
มู่ฉางฉิงถอนสายตาอย่างลำบากใจ เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไร น้ำเสียงของคุณนายเฟิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"คุณกู้ คุณก็อย่ารู้สึกว่าตระกูลมู่ของเราอำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงผู้อื่นเลย คุณน่าจะเข้าใจ เฉาเกอถือเป็นสมบัติล้ำค่าในตระกูลมู่มาโดยตลอด นี่เพิ่งมาตระกูลเฟิงของพวกคุณได้ไม่กี่วันก็ได้รับความไม่เป็นธรรมแล้ว เรื่องนี้ทำให้นายท่านของตระกูลเราตกใจอย่างมาก นายท่านเขาโกรธอย่างมาก ถ้าไม่ใช่คิดว่าคุณเป็นเด็กรุ่นหลัง ยังไม่ถึงให้เขาออกหน้ามาแก้ปัญหา มิเช่นนั้นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณก็คงเป็นนายท่านของตระกูลเรา แน่นอนว่าผลลัพธ์นั้นไม่ง่ายเหมือนการทำให้คุณคุกเข่าขอโทษง่ายๆเช่นนี้หรอก!"
กู้ฉางฉิงฟังคำพูดนี้จบ ก็เข้าใจแล้ว วันนี้เธออาจจะต้องคุกเข่าจริงๆ
ถ้าไม่คุกเข่า อาจทำให้ทั้งสองตระกูลเกิดความวุ่นวายอย่างมาก
เวลานี้ ในใจเธอก็น้อยใจอัปยศอดสูอย่างมาก
แต่ว่าไม่มีใครเข้าใจ
"ฉันทราบแล้ว"
เธอตอบกลับด้วยสีหน้าซีดเผือด
คุณนายมู่กับคุณนายเฟิงเห็นเช่นนี้ ก็รอเธอคุกเข่าลงอย่างสงบๆ
แต่ทว่าเวลานี้ เสียงของเฟิงจิ่งเหยาก็ปรากฎจากด้านหลังกลุ่มคน
"นี่จะทำอะไร?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา