ฉับพลันที่กู้ฉางฉิงได้ยินคำนี้ ก็ตกตะลึง
เมื่อเธอได้สติกลับมา ใจเต้นรัวราวกับกอง สองแก้มก็ค่อยๆแดงขึ้นมา
เธอเบนหน้าออกเพราะเขินอาย แกล้งทำเป็นหลับตาพักผ่อน
เฟิงจิ่งเหยามองท่าทีที่เขินอายของเธอ หัวใจก็อ่อนปวกเปียกกลายเป็นน้ำอีกครั้ง
มั่วหลีเห็นทั้งสองคนที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ความหึงหวงอย่างรุนแรงก็แทบจะทำลายสติของเธอ
ทว่าอยู่ในแววตาเยือกเย็นของเฟิงจิ่งเหยาที่มองมา ชั่วขณะก็เย็นชาลง
"คุณผู้ชาย……”
เธอเรียกอย่างระมัดระวัง สิ่งที่ได้รับคือคำตวาดที่เย็นชาไร้ความรู้สึก
"ออกไป!"
มั่วหลีตัวสั่น ต่อให้ในใจจะไม่ยินยอมอย่างมาก ก็ไม่กล้าฝ่าฝืน เลยหันออกไป
หลังจากที่เธอไป ในห้องผู้ป่วยก็เหลือแค่เฟิงจิ่งเหยากับกู้ฉางฉิงสองคน
สำหรับการที่เฟิงจิ่งเหยาไล่คนออกไป กู้ฉางฉิงก็ไม่ได้พูดอะไร
เธอหลับตา ไม่รู้ว่าเพราะความเหนื่อยล้าจริงๆหรือเปล่า ไม่นานเธอก็หลับไปจริงๆ
เฟิงจิ่งเหยาได้ยินลมหายใจที่คงที่ของเธอ ความเย็นชาในดวงตาก็ค่อยๆสลายไป จ้องมองเธออย่างอ่อนโยน
แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา ห้องผู้ป่วยเงียบสงัดเช่นนี้ จู่ๆก็รู้สึกสงบกว่วันคืนที่ผ่านมา
……
และในเวลาเดียวกันนี้ ที่ตระกูลเฟิง
มู่เฉาเกอเป็นเพราะโครงการของบริษัทใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ไม่ทีข้ออ้างอีกต่อไปที่จะอยู่ในตระกูลเฟิง ก็เตรียมที่จะกล่าวลาคุณนายเฟิง
คุณนายเฟิงอาลัยอาวรณ์
"เรื่องของบริษัทก็เป็นของบริษัท น้าเชิญคุณมาพักที่นี่ก็เป็นการส่วนตัว ฉันจะดูว่าใครจะกล้าพูดอะไร"
เธอรั้งมู่เฉาเกอไว้ไม่อยากปล่อยเธอไป
มู่เฉาเกอยิ้มแล้วปฏิเสธอย่างสุภาพ "คุณน้า นี่ไม่เหมือนกัน ฉันอยู่มานานแล้ว มันไม่เหมาะสมที่จะอยู่อีกต่อไป"
คุณนายเฟิงได้ฟังคำพูดของเธอ ก็กระพริบตาปริบๆ ถอนหายใจ
"เฉาเกอ คุณเป็นเด็กฉลาด ก็คงเข้าใจจุดประสงค์ที่น้าให้คุณเข้ามา พูดตรงๆแบบไม่ปิดบังนะ น้าชอบคุณมาก หวังว่าจะได้คุณเป็นลูกสะใภ้ของน้า"
มู่เฉาเกอได้ฟังคำนี้ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะในใจ
เพราะคุณนายเฟิงก็เคยพูดคำพูดนี้กับลู่ซือหยี่มาก่อน
ถึงแม้ว่าจะไม่สบายใจเล็กน้อย เพียงแต่ผู้หญิงคนนี้พูดแผนการของตนเองออกมา และเป็นเรื่องที่ดีกับเธอ อย่างน้อยในอนาคตเธอก็มีผู้ช่วยอีกหนึ่งคน
เธอคิดแล้ว ก็พูดอย่างลำบากใจว่า : "ฉันทราบความคิดของคุณน้า แต่ตอนนี้จิ่งเหยากำลังยุ่งอยู่กับการดูแลกู้ฉางซิน ฉันไม่สามารถเข้าไปแทรกระหว่างพวกเขาได้ เกรงว่าจะทำให้คุณน้าผิดหวัง"
พูดจบ เธอก็ยิ้มเจื่อนๆ
"เดิมทีฉันคิดว่าจะใช้โอกาสนี้อยู่ด้วยกันกับจิ่งเหยาทั้งเช้าเย็น จะทำให้เขามองเห็นฉัน แล้วชอบฉันได้ แต่ท้ายที่สุดฉันก็ถือดีไปเอง สายตาของจิ่งเหยาไม่เคยมองมาที่ฉัน คุณน้าอย่าดึงดันเลย ฉันคิดว่าเช่นนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยฉันก็ยังเป็นเพื่อนกับจิ่งเหยาได้"
คุณนายเฟิงไม่เต็มใจ พูดโน้มน้าวให้คล้อยตามว่า : "เฉาเกอ คุณอย่าคิดเช่นนี้เลย ทั้งหมดเป็นกลอุบายของนังชั่วกู้ฉางซินนั่น คุณดีกว่าเธอไม่รู้กี่เท่า จิ่งเหยาจะเห็นความดีของคุณในไม่ช้าก็เร็ว"
มู่เฉาเกอยิ้ม : "ก็อาจจะ อย่างไรฉันก็ไม่ได้บีบบังคับให้เป็นในตอนนี้ ให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ"
เธอสูดลมหายใจลึกๆ ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
เป็นธรรมดาที่คุณนายเฟิงจะฟังออก แต่ในใจของเธอก็ตั้งใจจะใช้มู่เฉาเกอเพื่อบีบให้กู้ฉางฉิงออกจากตระกูลเฟิงไป
แน่นอนว่าในจุดนี้ มู่เฉาเกอก็เดาออก แต่นี่ก็เป็นผลลัพธ์ที่เธอต้องการ
ทั้งสองคุยเรื่องแผนการของตนเองอยู่สักพัก ต่อมามู่เฉาเกอก็เสนอให้ไปทานข้าวด้วยกัน
"ช่วงนี้ฉันเพิ่มปัญกาให้พวกคุณน้าไม่น้อยเลย ตอนเย็นฉันอยากจะเชิญทุกคนไปทานข้าว ถือเป็นการขอบคุณที่พวกคุณดูแลฉันในช่วงเวลานี้"
แน่นอนว่าคุณนายเฟิงเห็นด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา