สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 339

เย่าซือคิดมาตลอดว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นเพียงคนร่ำรวยที่มีอิทธิพลในประเทศZ ดูเหมือนว่าตอนนี้ เขาจะคิดแคบเกินไปแล้ว

โดยเฉพาะคนคนนี้สามารถช่วยคนไปจากในเงื้อมมือเขาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า มันไม่ใช่คนธรรมดาๆ

คิดเสร็จ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดขึ้นมา เพียงแต่ไม่นานก็สงบลงมา เพราะรู้ตอนนี้ก็ยังไม่สาย

ลูกน้องคนสนิทก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรในใจ เห็นว่านานแล้วเขายังไม่ได้ตัดสินใจ อดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้ง : "พี่ใหญ่ เราต้องจองตั๋วเครื่องบินกลับไปไหม"

เย่าซือสติกลับมา ส่ายหัวอย่างลังเลใจ

"ยังไม่ได้ ของยังไม่ถึงมือ ถ้าตกอยู่ในมือผู้มีอิทธิพลอยู่ JKก็จบสิ้นแล้ว"

คนสนิทรู้ว่าแฟลชไดร์ฟนั่นสำคัญต่อJKมาก แต่อีกด้านหนึ่งก็สำคัญมากเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะแนะนำ : "มิเช่นนั้นเราไปจ้างทหารรับจ้างมาไหม?"

เย่าซือได้ยิน ก็ไม่ได้ตอบกลับในทันที แต่คิ้วขมวดครุ่นคิด

ปฏิเสธไม่ได้ ว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ ท้ายที่สุดเขาก็เห็นด้วย

"ได้ คุณไปติดต่อทหารรับจ้างของประเทศDมา ให้ส่งตัวพวกเขามาโดยเร็ว บอกพวกเขาว่าจะต้องเอาของมาให้ฉันให้ได้!"

คนสนิทพยักหน้ารับคำสั่ง เย่าซือจึงเบาใจลงมา แล้วสั่งให้เขาไปจองตั๋วเครื่องบินเป็นวันพรุ่งนี้

รอวันรุ่งขึ้น ทำตามที่เย่าซือบอก ก็กลับประเทศZไป

พร้อมกับที่เขาจากไป เฟิงจิ่งเหยาก็ได้รับข่าว

"ไปแล้วหรอ?"

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังชวี่ยี่รายงานข่าว ในแววตาก็ประกายความประหลาดใจ

"ครับ ได้ยินมาว่าพาลูกน้องของเขาออกไปตั้งแต่เช้าตรู่"

ชวี่ยี่กลับมาอีกครั้ง

เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้วขึ้นมา

ตามปกติบอกว่าเย่าซือไปแล้วเขาควรจะรู้สึกหมดห่วง แต่ไม่รู้ทำไม รู้สึกตลอดว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าจะจากไปอย่างง่ายๆแบบนี้ ไม่เหมือนกับนอสัยของเขาเลย แต่นี่เหมือนกับเป็นการหลอก

เขาคิดสักพัก คิดหาเหตุผลไม่ได้ ก็ไม่ได้ยุ่งเหยิงอีกต่อไป จึงสั่งว่า : "แจ้งให้ทราบต่อไป ให้พวกเขาจับตาดูต่อ เมื่อมีอะไรผิดปกติ ให้บอกฉันทันที"

ชวี่ยี่พยักหน้า หันกลับออกไป

เฟิงจิ่งเหยามองเขาที่จากไป นาทั้งคู่ก็หรี่ลงเล็กน้อย

ไม่ว่าคนคนนั้นจะไปจริงๆหรือแกล้งหรอก บางครั้งก็เผยหางจิ้งจอกออกมา

แต่สองวันต่อมา ทางด้านชวี่ยี่นี้ก็ไม่ทีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ทำให้เฟิงจิ่งเหยาเริ่มสงสัยเอง

หรือว่าชายคนนั้นจะจากไปแล้วจริงๆ?

เขาคิดจบ ก็รู้สึกว่าเป็นไปได้ ถึงอย่างไรเรื่องที่มั่วจุยทำอยู่ต่างประเทศก็ไม่ได้ง่ายๆ

คิดจบ เขาคิดจะบอกข่าวดีนี้กับกู้ฉางฉิง เธอจะได้ไม่กังวลอยู่ทุกๆวัน

ตอนเย็นในวันเดียวกัน เฟิงจิ่งเหยาก็โทรหากู้ฉางฉิง รับเธอไปทานอาหารข้างนอก

กู้ฉางฉิงเพิ่งจะแต่งตัวเสร็จ เฟิงจิ่งเหยากลับมาแล้ว

เธอนั่งบนรถ มองเฟิงจิ่งเหยาที่ดูเหมือนจะอารมณ์ดี พูดอย่างแปลกใจว่า : "วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอ? ดูคนอารมณ์ดีมาก"

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน อมยิ้มพูดว่า : "มีข่าวดี"

เขาพูดจบ ก็บอกข่าวที่ว่าเย่าซือไปแล้ว ในแววตามีความดีใจ

สองสามวันที่กลับมานี้ กู้ฉางฉิงพักอยู่ในบ้านตลอด ประตูใหญ่ก็ไม่ออกประตูสองก็ไม่ไป กลัวว่าจะมีโอกาสให้เย่าซือจับเธออีกครั้ง จะทำให้เฟิงจิ่งเหยาเดือดร้อน

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูด แต่เฟิงจิ่งเหยาก็เห็น

เย่าซือไปจากที่นี่แล้ว เขาก็อยากพากู้ฉางฉิงออกมาเดินเล่น

กู้ฉางฉิงไม่รู้ความคิดในใจของเขา หลังจากได้ยินการจากไปของเย่าซือ สิ่งที่แบกอยู่ในใจตลอดในที่สุดก็ปลิ่ยวางลง

ไปแล้วก็ดี"

เธอถอนหายใจเบาๆ ไม่นานก็อดไม่ได้ที่จะกังวลใจ : "งั้นเขายังสามารถกลับมาได้ใช่ไหม?"

เฟิงจิ่งเหยารับรู้ถึงความกังวลภายในใจของเธอ เธอจับมือไว้แน่นเพราะความตึงเครียด กล่าวปลอบโยนว่า: "วางใจเถอะ ถึงแม้เขาจะกลับมา ฉันก็จะไม่ให้เขาทำอะไรคุณได้แม้แต่ปลายขน"

กู้ฉางฉิงได้ยินคำพูดของเขา ฉับพลันในใจก็สงบลงมา

"ตัวคุณเองก็ต้องระวังตัวด้วยนะ"

เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า หลังจากนั้นคนทั้งสองก็มาถึงร้านอาหารจีนที่จองไว้ล่วงหน้า

คนทั้งสองรับประทานอาหารด้วยบรรยากาศที่กลมเกลียว ด้วยเพราะอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจะหมดไปชั่วคราว กู้ฉางฉิงอดไม่ได้ที่จะดื่มเหล้าด้วยความดีใจ

พอรับประทานอาหารเสร็จ คนก็พิงเฟิงจิ่งเหยาด้วยความเมาเล็กน้อย

"เฟิงจิ่งเหยา ทำไมคุณกลายเป็นสองคน อย่าขยับนะ"

เธอคว้าเฟิงจิ่งเหย่อย่างเซไปเซมา จ้องมองเขาอย่างขัดเคือง

เฟิงจิ่งเหยาเห็นกู้ฉางฉิงดื่มจนเมา ก็ประคองคนออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"ฉันไม่ได้ขยับ คุณเมาแล้ว"

เวลานี้กู้ฉางฉิงเมาจนสติสายตาเลอะเลือน ได้ยินคำพูดของเฟิงจิ่งเหยา ก็บ่นพึมพำขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

"ฉันไม่ได้เมา ฉันคอแข็ง"

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินคำพูดนี้ของเธอก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ก็ไม่คิดจะโต้เถียงกับเธอที่เมาอยู่นี้

เขาก็ปลอบกู้ฉางฉิงให้ขึ้นรถ แล้วพาเธอกลับไปยังตระกูลเฟิงทันที

ขณะเดินทาง ก็ไม่รู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาขับรถนิ่งเกินไปหรือเปล่า กู้ฉางฉิงพิงที่ประตูรถ แล้วค่อยๆหลับไป

เฟิงจิ่งเหยาเห็น อารมณ์บนใบหน้าก็อ่อนโยนอย่างมาก

เขาปรับอุณหภูมิในรถให้สูงขึ้น เพราะกลัวว่ากู้ฉางฉิงหลับไปแล้วจะเป็นหวัด

กู้ฉางฉิงหลับไม่รู้เรื่องมาตลอดทาง หลับสนิทอย่างมาก

อย่างรวดเร็ว ก็มาถึงตระกูลเฟิงแล้ว เฟิงจิ่งเหยาเห็นกู้ฉางฉิงหลับสนิท ก็ไม่ได้เรียกเธอให้ตื่น อุ้มคนลงมาจากรถโดยตรง

มั่วหลีที่เดิมทีทราบว่าคนทั้งสองออกจากบ้าน ก็นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกอย่างไม่สบายใจ เวลานี้เห็นคุณผู้ชายของตนเองอุ้มกู้ฉางฉิงกลับมาอย่างระมัดระวัง ในใจก็กลับมาอิจฉาริษยา

เธอกำหมัดแน่น ไม่ให้อารมณ์ความรู้สึกของตนเองเปิดเผย

"คุณผู้ชาย อาการบาดเจ็บของคุณยังไม่หายดี ให้ฉันอุ้มคุณนายรองขึ้นไปเถอะ"

เธอไม่ต้องการให้กู้ฉางฉิงอยู่ในอ้อมกอดของเฟิงจิ่งเหยา จึงยื่นมือออกไปแล้วเสนอ

ใครจะรู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาหลีกเลี่ยงเธอโดยตรง

"ไม่ต้องหรอก คุณไปห้องครัวต้มซุปแก้เมาค้างเถอะ อีกสักครู่ก็เอามาส่งที่ห้อง"

เฟิงจิ่งเหยาสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วก็อุ้มกู้ฉางฉิงขึ้นไปที่ชั้นบน

มั่วหลีมิงภาพทั้งสองคนที่ออกไป ใบหน้าก็บูดเบี้ยว

ไม่นาน เธอจึงหายใจเพื่อให้สงบลงมา แล้วไปต้มซุปแก้เมาค้างให้กู้ฉางฉิง

แต่เมื่อเธอขึ้นไปชั้นบนพร้อมยกซุปแก้เมาค้างขึ้นมา ก็เห็นภาพลึกซึ้งที่ทิ่มแทงใจเธอ

ในห้อง เฟิงจิ่งเหยาวางกู้ฉางฉิงลงบนที่นอนทาทามิ ค่อยๆถอดเสื้อคลุมของเธอออกอย่างอ่อนโยน แล้วเช็ดมือเท้าให้

ไม่รู้ว่าอาจเป็นความแข็งแกร่งของเขาหรือเปล่า ที่ทำให้กู้ฉางฉิงไม่สบายใจ จึงครวญครางออกมา

ในความเมามายของกู้ฉางฉิงเมื่อได้กลิ่นที่คุ้นเคย ก็ไม่ได้ปฏิเสธจูบนี้ กลับกันเปลี่ยนจากฝ่ายถูกกระทำเป็นฝ่ายกระทำ

ไม่ทีใครอยู่ระหว่างการจูบของทั้งสองคน ดูเหมือนว่ามั่วหลีจะจับถ้วยไว้แน่น จนเล็บหักไม่รู้ตัว ไฟริษยาในใจก็ลุกโชนขึ้น

แต่เธอรู้ว่าเธอทำอะไรไม่ได้

เธอบังคับให้ตนเองสงบลงมา ก็ไม่ได้ออกมาอย่างวางตัว แต่กลับเคาะประตูตัดบทเรื่องราวดีๆของทั้งสองคน

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินเสียงเคาะประตู สติจึงกลับมาจากความหวานของกู้ฉางฉิง

เขาหอบเล็กน้อย แววตาประกายความไม่พอใจ หันมองไป

"มีธุระอะไร?"

เป็นธรรมดาที่มั่วหลีจะพบความไม่พอใจในแววตาของเขา ในใจก็เป็นทุกข์อย่างมาก ฉีกรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้ ยกถ้วยในมือ พูดเบาๆว่า : "ซุปแก้เมาค้างต้มเสร็จแล้ว……"

เธอพูดยักไม่ทันจบ เฟิงจิ่งเหยาก็ออกมาจากห้อง ใบหน้าเย็นชารับซุปแก้เมาค้าง : "ขอบใจ คุณกลับไปพักผ่อนที่ห้องได้แล้ว"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา