สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 361

วันต่อมา เพราะว่าเฟิงจิ่งเหยาเริ่มคิดบัญชีกับเย่าซือ อุตสาหกรรมภายใต้การบริหารของJKก็ได้รับการโจมตีอีกครั้ง

เพียงแค่ครึ่งวัน หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจโลก เป็นข่าวเกี่ยวกับJKทั้งหมด

ต้องบอกก่อนว่า หลักๆของJKทำการวิจัยและผลิตยา

เมื่อไม่นานมานี้การชี้เป้าของเฟิงจิ่งเหยา รายงานว่าพวกเขาผลิตยาต้องห้ามอย่างผิดกฏหมาย

ครั้งนี้เฟิงจิ่งเหยาสร้างความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ให้กับพวกเขาโดยตรง——ขายยาปลอม!

นอกจากนี้เขายังให้มั่วจุยประโคมข่าวที่ต่างประเทศ

พูดได้ว่าเพียงครึ่งวันนี้ JKต้องประสบกับสภาวะตกต่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

"คุณชายรอง ผู้ถือหุ้นบริษัทต้องการเรียกประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น!"

ที่ต่างประเทศ อาคารอำนวยการสำนักงานใหญ่JK ผู้ช่วยเคาะประตูเข้ามาด้วยความเคารพและแจ้งให้ทราบ

เย่าซือได้ยิน สีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด

เขาไม่อยากรู้ด้วยซ้ำว่าผู้ถือหุ้นกลุ่มนี้ประชุมกันเพื่ออะไร

เกรงว่าจะใช้เรื่องนี้ฉุดเขาให้ตกต่ำลง

เขาโกรธมากจนปัดเอกสารทั้งหมดตรงหน้าลงจากโต๊ะ หลังจากที่ระบายอารมณ์ เขาจึงค่อยๆสงบลง

"คุณไปให้คนตรวจสอบดู ว่าข่าวนี้เผยแพร่ออกมาจากไหน และใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้“

เขาพูดจบ ก็ดูเหมือนว่าจะคิดอะไรได้ ก็ปรากฏความเคร่งขรึม : "ใช่สิ ส่งคนไปจับตาดูเฟิงซื่อกรุ๊ปให้ฉันด้วย ดูว่าเรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับพวกไหม"

ผู้ช่วยพยักหน้า รับคำสั่งแล้วออกไปจัดการ

พร้อมกับผู้ช่วยออกไป เย่าซือก็จัดการรูปลักษณ์ภายนอกให้เป็นระเบียบแล้วไปที่ห้องประชุม

ห้องประชุมที่ตกแต่งอย่างหรูหราในเวลานี้มีคนนั่งอยู่แล้ว

ทันทีที่เย่าซือเข้ามา เดิมทีห้องประชุมที่มีเสียงพูดคุยไม่ได้ขาดก็เงียบลง

ทุกๆคนมองไปที่เย่าซือ

ดวงตาเหล่านั้นมีความหวาดกลัว ไม่ยินยอม แล้วก็เกลียดชัง

เป็นธรรมดาที่เย่าซือจะสังเกตเห็นสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังโกรธแค้นเหล่านั้น แต่กลับมองข้ามไปอย่างเย็นชา เป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่ชายเขานั่งเอง กลินตัน ล็อบ

รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาแต่บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเคียดแค้นอย่างที่สุด

เย้าซือเพียงแค่ชำเลืองมอง แล้วก็ละสายตากลับมา

"คนมากันพร้อมเพียงจริงๆ"

เขายิ้มอย่างเยือกเย็น มองไปที่ที่นั่งหลัก

"พูดเถอะ ที่เรียกประชุมครั้งนี้ พวกคุณอยากจะพูดอะไร?"

เขาพูดจบ ก็นั่งอย่างเบื่อหน่ายบนเก้าอี้ทำงาน กวาดสายตามองทุกคนอย่างเย่อหยิ่ง

ผู้ถือหุ้นทุกคนมองหน้ากัน เดิมทีก็พร้อมรบแล้ว แต่หลังจากที่เห็นเย่าซือ คนเหล่านี้ก็ไม่กล้าเอ่ยปาก

กลินตันที่ถูกเย่าซือมองข้ามไป ความโกรธในแววตาก็ยิ่งมากขึ้น

เขามองผู้ถือหุ้นโดยรอบที่ไม่กล้าพูดอะไร กัดฟันทองเย่าซือแล้วเริ่มพูดคัดค้านขึ้นมา

"ทำอะไรนะหรอ ท่านประธานของพวกเราคงไม่เข้าใจสินะ? ตอนนี้บริษัทเกิดสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงชื่อเสียงที่ย่อยยับป่นปี้ ก่อให้เกิดผลเสียทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง คุณควรให้คำอธิบายแก่เราไม่ใช่หรอ?"

เย่าซือฟังคำพูดของเขาจบ แววตาก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

กลินตันสบกับดวงตาที่ดำขลับของเขา นึกถึงกลอุบายอันโหดเหี้ยมของเขา ร่างกายก็สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ แต่นึกถึงความเคียดแค้นของตนเอง เขาฝืนกัดฟัน และมองตาเย่าซือ

เย่าซือมองคนที่เห็นได้ชัดว่ากลัวตนมากทว่ายังฝืนมองหน้าตน ในแววตาก็ประหลาดใจ

ดูแล้วช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ จะเกิดเรื่องราวที่เขาไม่รู้อยู่ไม่น้อย

เขาคิดพลาว ก็ยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น กวาดสายตามองผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ

"ดังนั้น ความหายของคุณคือเหมือนกันกับเขางั้นหรอ?"

ทุกคนได้ยิน ก็มองหน้ากันไปมา

ก็ไม่รู้ว่าเพราะโดดเด่นเกินไปหรือเปล่า ผู้ถือหุ้นต่างก็ทยอยแสดงความคิดเห็นของพวกเขาออกมา

"คุณชายรอง สำหรับคำพูดของคุณชายสาม พวกเราเห็นด้วย ขณะนี้อสังหาริมทรัพย์ครึ่งหนึ่งของบริษัทล้วนต้องปิดปรับปรุงกิจการ ไม่ต้องพูดถึงความสูญเสีย กระทั่งความปั่นป่วนในตลาดหุ้นที่มีอย่างมาก ถ้าไม่รีบตัดการโดยเร็วที่สุด JKก็ยากที่จะดำเนินการ"

"ใช่ ตอนนี้ภายนอกทุกหนทุกแห่งต่างซักถามเกี่ยวกับข้อสงสัยของพวกเรา"

"วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่บ้านฉันเพื่อทำการสอบสวน ถ้าหากไม่รีบจัดการ เกรงว่าร่องรอยก่อนหน้านั้นที่ยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อย ล้วนสามารถตรวจสอบออกมาได้"

ทุกคนพูดทางซ้ายทีทางขวาที เย่าซือฟังแล้วก็หน้าดำคร่ำเครียด

"จัดการ? พวกคุณต้องการให้ฉันจัดการยังไง? ในตอนแรกธุรกิจเหล่านี้ฉันก็จะหยุดมันตั้งแต่รับช่วงต่อแล้ว ก็เป็นพวกแกหนังเหนียวอย่างพวกคุณที่ใช้อำนาจคุกคามให้เก็บรักษาไว้จนกระทั่งวันนี้ เวลานี้เกิดเรื่อง พวกคุณแต่ละคนก็จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบงั้นหรอ?"

เขาถากถางกลับไป ทำให้สีหน้าของผู้ถือหุ้นทุกคนไม่น่าดูถึงขีดสุด

แท้จริงแล้วในตอนแรกพวกเขาก็ตัดใจทิ้งผลกำไรจากสิ่งเหล่านี้ไม่ลง บวกกับเวลานั้นในบริษัทก็ได้ล้างไพ่ใหม่อีดครั้ง พวกเขาเป็นกังวลอย่างมากว่าเย่าซือจะจัดการสิ่งเหล่านี้ต่อจากนั้นก็จะจัดการผู้ร่วมงานแก่ๆอย่างพวกเขา จนอดไม่ได้ที่จะร่วมมือกันคัดค้าน

พวกเขาถูกโจมตีจนพูดไม่ออก บางคนไม่ยินยอม บ่นถึงพี่ชายของเย่าซือขึ้นมา

"ตอนนั้นที่คุณชายใหญ่อยู่ ธุรกิจเหล่านี้ล้วนไม่มีปัญหา"

ความหมายโดยนัย ชัดเจนว่ากำลังพูดว่าความสามารถของเย่าซือใช้ไม่ได้

แน่นอนว่าเย่าซือฟังออก สีหน้าคร่ำเครียดเหมือนหยดหมึก ในสายตาดั่งพายุรวมตัวกัน

ต้องรู้ว่า สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือมีคนนำเขาไปเปรียบเทียบกับคนอายุสั้นคนนั้น

ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเห็นถึงอารมณ์ร้ายที่เขาส่งออกมา พูดคล้อยตามอีกว่า: "ใช่ ตอนที่พี่ใหญ่อยู่ พาพวกเราได้กำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำ ตอนนี้บริษัทเปลี่ยนคน ขาดทุนก็แล้วไป ยังจะถูกตรวจสอบอีก เย่าซือ ถ้าคุณไม่มีความสามารถ ก็ควรจะสละตำแหน่งเปิดทางให้คนมีความสามารถโดยเร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นไม่ช้าJKก็จะต้องสูญสิ้นด้วยมือของคุณ"

กลินตันมองไปยังเย่าซืออย่างยั่วยุ ปลุกปั่นผู้ถือหุ้นอย่างมาก

บรรดาผู้ถือหุ้นใจเต้นกับคำพูดของเขา นึกถึงความสูญเสียและความวุ่นวายในช่วงเวลานี้ ในที่สุดความโลภในเงินทองก็อยู่เหนือความหวาดกลัวที่พวกเขามีต่อเย่าซือ จึงพูดคล้อยตามกัน

"คำพูดคุณชายสามไม่ผิด ในตอนแรกพวกเราสนับสนุนให้คุณชายรองนั่งในตำแหน่งนี้ เพราะคุณชายรองรับปากว่าจะทำให้บริษัทจากเงียบเปลี่ยนเป็นสว่างไสว นำผลกำไรที่มากกว่ามาให้ทุกคน แต่ขณะนี้ไม่สามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้เลย คุณชายรองควรจะลองคิดว่าปัญหาของตนเองคือไม่เหมาะสมที่จะบริหารบริษัทแล้วหรือเปล่า?"

"คำพูดนี้ไม่ผิด แม้ว่าปัญหาที่พบจะเป็นสาเหตุของพวกเราเองก็ตาม แต่เรื่องเหล่านี้ในตอนที่คุณชายใหญ่อยู่ก็ไม่มีปัญหา ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นแบบนี้ ก็ทำได้เพียงพูดว่าคุณชายรองไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้"

เย่าซือเห็นคำพูดของพวกเขาล้วนเป็นความหมายที่ให้ตนเองสละตำแหน่ง อารมณ์บนใบหน้าก็ยิ่งเยือกเย็น

"ได้ฟังคำพูดของทุกคน ทำให้ฉันเข้าใจเรื่องนี้ในทันที"

ทุกคนไม่เข้าใจ มองเขาอย่างงุนงง

เย่าซือยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น: "ฉันไม่รู้ว่าคำพูดนั้นของฉันจะทำให้พวกคุณคิดว่าสิ่งที่อยู่ในมือฉันยังสามารถเอากลับไปได้"

เขาพูดจบ ขณะที่ทุกคนยังไม่ได้ตอบโต้ ก็ดึงปืนที่พกไว้ออกมาโดยตรง ยิงไปยังไหล่ขวาของกลินตันโดยไม่กระพริบตา

'ปัง'

"อ๊า——"

เสียงปืนพร้อมกับเสียงร้องของกลินตันทำให้ใบหน้าของผู้ถือหุ้นทุกคนไม่น่าดูอย่างมาก

"คุณชายรองนี่มันอะไรกัน? จะเผด็จการหรอ?"

ผู้ถือหุ้นที่เก่าแก่ที่สุดในJKกล่าวถามด้วยน้ำเสียงรุนแรง

เย่าซือมองเขา ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ทำงาน มองลงไปยังทุกคน

"เปล่า ฉันไม่เคยเผด็จการ เพียงอยากจะบอกพวกคุณว่า เรื่องที่เย่าซือรับปาก ไม่มีทางผิดสัญญา ดังนั้นเก็บความคิดเล็กคิดน้อยของพวกคุณซะ โดยเฉพาะคนบางคน!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา