สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 65

สรุปบท บทที่ 65 ยังคงเขินอายเช่นนี้: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

บทที่ 65 ยังคงเขินอายเช่นนี้ – ตอนที่ต้องอ่านของ สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

ตอนนี้ของ สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา โดย หมัง กั่ว มู่ ซือ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 65 ยังคงเขินอายเช่นนี้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เฟิงจิ่งเหยาไม่ใช่คนที่จะฝืนใจคนอื่น

เนื่องจากเขาเกิดความรัก เขาจึงแสดงออก

เขาพลิกตัวกดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา และจับริมฝีปากสีแดงที่มีกลิ่นหอมหวาน

สัมผัสที่นุ่มนวล ทำให้เขาอยากลิ้มรส และอยากดูดซับให้มาก

ลิ้นงัดฟันของเธอออก โจมตีบุกเข้าไป

นิ้วมื้อเหมือนจะเป็นไฟลุกลามไปทีละนิ้วทีละนิ้ว จนเผาผิวของเธอ

กู้ฉางชิงรู้สึกราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายของเธอ และความรู้สึกชาก็แผ่ซ่านไปจนถึงปลายประสาท ปลุกเธอจากการหลับใหล

“อืม……”

เธอฮึมฮำโดยไม่รู้ตัว แววตาเป็นประกาย ออดอ้อนฉอเลาะ

เฟิงจิ่งเหยาจ้องมองไปที่หน้าตาน่ารักของเธอ แล้วก็รุกไล่ไปตามตามสัญชาตญาณ

กู้ฉางชิงไม่มีพลังที่จะต้านทาน ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่ยอมรับอย่างเชื่อฟัง

……

วันรุ่งขึ้น กู้ฉางชิงตื่นขึ้นมาก็ปวดเมื่อยไปทั้งตัว ความทรงจำของคืนที่ผ่านมาเหมือนการฉายภาพยนตร์ซ้ำ ใบหน้าของเธอแดงก่ำ

เมื่อคืนไม่รู้ว่าเฟิงจิ่งเหยาต้องการเธอไปกี่ครั้ง เธอจำได้ว่าตัวเองมึนแล้วก็ผ่านไป

เธอรูสึกสบายตัว คิดว่าเฟิ่งจิ่งเหยาช่วยเธอทำความสะอาด

เมื่อคิดแล้วเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปด้านข้าง แล้วก็ไม่พบร่างของเฟิงจิ่งเหยา แต่มีเสียงน้ำในห้องน้ำ

ขณะที่เธอกำลังจะลุกจากเตียงประตูห้องน้ำก็เปิดออกจากด้านใน

ก็เห็นเฟิงจิ่งเหยานุ่งผ้าขนหนูออกมา อนบนที่เปลือยเปล่าของเขายังคงเต็มไปด้วยความชื้นและหยดน้ำ รูปร่างแข็งแรง ดูเย้ายวนและเซ็กซี่มากๆ

กู้ฉางชิงเพียงจ้องมอง จากนั้นก็ละสายตาออกอย่างรวดเร็ว แต่แก้มสีแดงยังคงทรยศต่ออารมณ์ของเธอในเวลานั้น

เฟิงจิ่งเหยาสังเกตเห็นท่าทางของเธอ จึงหลบสายตาและยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ทำไมนานขนาดนี้แล้ว ยังคงเขินอายเช่นนี้?”

เขาอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อกู้ฉางชิง และหัวเราะเยาะเย้ย

ในขณะเดียวกันความสงสัยก็เกิดขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง

จากข้อมูลบอกว่าภรรยาองเขามีชีวิตส่วนตัวที่ไม่เป็นระเบียบ และเป็นคนใจกล้า ตอนนี้ดูจากร้างกายที่เปลีอยเปล่าและหน้าที่แดงของเขา เหมือนกับข่าวคราวนี้ไม่ถูกต้อง

ทันที่ที่เขานึกถึงสิ่งที่กู้ฉางชิงปกปิด ก็ต้องเก็บความสงสัยไว้ ดวงตาที่คลุมเคลือมองดูกู้ฉางชิง ดูท่าทีโต้ตอบของเธอ

“ใครบอกว่าฉันเขินอาย ฉันก็แค่เหนื่อย”

กู้ฉางชิงไม่ได้สังเกตสายตาที่มีเงื่อนงำของเขา โต้แย้งพาลโกรธเอาดื้อๆ

แล้วเฟิงจิ่งเหยาก็หรี่ตาลง และเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของกู้ฉางชิง

เมื่อคืนเขาคิดที่จะขอมันโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ และพูดเบาๆว่า:“งั้นวันนี้พักผ่อนที่บ้านก็ได้นะ”

กู้ฉางชิงได้ยินอย่างนั้น เธอก็ปฏิเสธโดยไม่คิด

เธอไม่อยากอยู่บ้านและไม่ทำอะไรเลย

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินดังนั้นเขาก็ไม่ได้บังคับ

จากนั้นทั้งสองก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และลงไปทานอาหารที่ชั้นล่าง

เมื่อเฟิงจิ่งเหยาทานอาหารเสร็จและกำลังจะออกไป กู้ฉางชิงก็ลังเลและเรียกให้เขาหยุด

“คือว่า เฟิงจิ่งเหยาวันนี้ฉันขอติดรถไปที่บริษัทด้วยได้ไหม”

เมื่อเฟิงจิ่งเหยาได้ยินก็ขมวดคิ้วและพูดว่า:“ทำไม?”

กู้ฉางชิงเม้มริมฝีปากและอธิบายว่า:“รถในโรงรถมีราคาแพงเกินไป ไม่สะดวกที่จะขับไปบริษัท”

ทันทีที่เธอพูดสิ่งนี้เฟิงจิงเหยาก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย และคำพูดอ้อมค้อมในตอนเช้าก็คค่อยๆเข้ามาอีกครั้ง

ถึงอย่างไรในวันหนึ่ง พวกเขายังสามารถเรียนรู้ได้อีกมาก โดยเฉพาะลู่ซือยวี่จะเปิดโปงข้อมูลของกู้ฉางชิงโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ

“ผู้จัดการบ้าไปแล้วหรอ ให้คนบ้านป่ามาเป็นหัวหน้าดีไซเนอร์ ไม่กลัวบริษัทเสียหายหรือไง”

“ไม่ ฉันได้ยินว่าดีไซเนอร์กู้จบเฉพาะทางด้านการเงิน และงานอดิเรกคืออกแบบ”

“พระเจ้า นั้นเธอก็ไม่มีประสบการณ์มาก่อน เธอออกแบบมาแล้วจะใช้งานหรอ”

เสียงเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นเสียงใหญ่หรือเสียงเล็ก แทบจะทุกคนที่ได้ยิน

เมื่อกู้ฉางชิงได้ยิน ก็ค่อยๆได้สติกลับมาจากความตกตลึงอย่างช้าๆ

เธอรู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังสงสัยรอบๆตัว เธอขมวดคิ้วและมองไปที่ลู่ซืออยู่ ด้วยความงงงวย

นี่มันท่ามวยจีนอะไรอีก หรือว่าไม่รู้จะทำยังไงเลยใช้งานทางธุรกิจเพื่อวางแผนจะข้าเธอหรอ?

ขณะคิดเธอก็อดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปากอย่างเยาะเย้ย

ไม่ใช่ว่าเธอโอ้อวด แต่เธอยังมีความมั่นใจในความสามารถของเธอ

ดังนั้นไม่ว่าลู่ซือยวี่จะสร้างความลำบากใจในที่ทำงานให้เธอยังไง เธอจะไม่มีทางให้มันเกิดผลกระทบกับเธอ

เมื่อคิดเช่นนี้แล้วเธอก็นั่งลงอย่างราบเรียบ และปล่อยให้คนรอบข้างพินิจพิเคาระห์

แต่ลู่ซืออยู่เห็นว่าเธอสงบมากท่ามกลางข่าวลือ และอดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มในใจ

ในความคิดของเธอกู้ฉางชิงกำลังแสร้งทำเป็นสงบ รอหลังจากที่เธอโดดเดี่ยว ดูซิว่าเธอจะแสร้งทำยังไง

เธอหันกลับมาจ้องมองด้วยสายตาความเย็นชา พูดอีกสองสามคำ แล้วประกาศปิดการประชุม

เมื่อกู้ฉางชิงได้ยินคำว่าเลิกประชุม เธอก็ลุกขึ้นโดยไม่รู้ตัวและเตรียมที่จะออกไป เธอไม่ต้องการให้รอยจูบที่คอของเธอถูกเปิดเผย เพราะว่าเวลาเสื้อผ้าขยับก็จะโผล่ให้เห็น แต่ลู่ซือยวี่ก็บังเอิญเห็นมันเข้า

ทันใดนั้นเธอก็จ้องมองกู้ฉางชิงราวกับว่าสายตาเป็นคมมีด อยากจะสับเธอให้ละเอียดเป็นหมื่นๆชิิ้น

ก่อให้เกิดความอิจฉาริษยาขึ้นในใจเธออย่างบ้าคลั่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา