สาวใช้ตกใจกับเสียงดุและมองไปที่ลู่ซือหยี่โดยไม่รู้ตัว
ลู่ซือหยี่สังเกตเห็นสายตาของเธอก็แอบพยักหน้าไป สาวใช้ถึงได้ออกไปตามหมอ
เมื่อสาวใช้จากไปแล้ว กู้ฉางฉิงก็ดึงสติกลับมาและสังเกตเห็นว่าลู่ซือหยี่ดูแปลก ๆ ไป
"เธอเป็นอะไรไป?"
"ถูกคนวางยาน่ะ"
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้วและตอบ กู้ฉางฉิงมองดูลู่ซือหยี่ด้วยความประหลาดใจ
ก็เห็นว่าลู่ซือหยี่ในตอนนี้ดูไม่สวยสดใสเหมือนตอนแรก
ผมเผ้ายุ่งเหยิงและเสื้อผ้าหลุดลุ่ย
เธอดูไม่ดีเอาเสียเลย
แต่แววตาของเธอค่อนข้างน่ากลัว ราวกับเพิ่งถูกขัดจังหวะจากการกินอย่างหิวโหย
เมื่อกู้ฉางฉิงคิดดังนั้น เธอมองไปที่ลู่ซือหยี่อีกครั้งด้วยแววตาเป็นประกาย
ลู่ซือหยี่สังเกตเห็นแววตาของเธอ เดาว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะดูแผนของตัวเองออกแล้ว
เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกเปิดเผย เธอจึงชิงเย้ยขึ้นว่า "กู้ฉางซิน เธอมองแบบนั้นหมายความว่าอะไร ฉันกับพี่จิ่งเหยาบริสุทธิ์ใจ แต่เธอน่ะ ทำไมยังมีหน้าโผล่มาให้เห็นอีก ทั้งที่เพิ่งจะลักลอบเจอกับผู้ชายคนอื่นที่สวนหลังบ้าน ฉุดกระชากลากถูกัน แล้วยังมีหน้ามาตำหนิฉันกับพี่จิ่งเหยาอีก"
กู้ฉางฉิงรู้สึกอึ้งกับการที่จู่ ๆ ก็ถูกเธอตำหนิ พอได้สติ เธอก็เกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
ผู้หญิงคนนี้ช่างร้ายจริง ๆ รีบฟ้องเรื่องคนอื่นออกมาก่อน
"น้องซือหยี่นี่มีญาณวิเศษหรือย่างไรกัน ตัวเองเป็นถึงขนาดนี้ ยังรู้ทุกการเคลื่อนไหวของฉันอีก"
เมื่อพูดจบ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความประชดประชันและพูดต่อว่า "น้องซือหยี่คงจะจับตาดูฉันตลอดเวลาล่ะสิท่า? ไม่เช่นนั้นจะรู้ทุกเรื่องที่เกิดกับฉันได้อย่างไร?"
เมื่อเฟิงจิ่งเหยาเห็นว่ากู้ฉางฉิงไม่ได้ปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้นที่สวน ดวงตาของเขาก็เย็นชาลงและพูดด้วยเสียงเข้มว่า "เพราะฉะนั้นเรื่องที่ซือหยี่พูดมานั้นเป็นความจริง มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง?"
กู้ฉางฉิงสะดุ้งเมื่อได้ยินเขาพูด เธอพยักหน้ารับตอบว่า "มีเรื่องนี้จริง ๆ แต่ว่ามันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น"
เธออธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สวน
"ตอนแรกฉันไปถึงที่สวนก่อน ต่อมาก็มีคนมา ก็คุยความหลังกันตามประสาเพื่อนเก่า ส่วนที่จับมือถือแขนกัน เพราะมันมืดมาก และฉันก็ไม่ระวังสะดุดก้อนหินเข้า เขาก็ดึงฉันไว้ เรื่องก็แค่นี้เองค่ะ"
เฟิงจิ่งเหยามองไปที่เธออย่างไม่ค่อยเชื่อนัก
กู้ฉางฉิงรู้ว่าเขาไม่เชื่อเธอ เธอยักไหล่และพูดต่อ "ฉันคิดว่าที่สวนน่าจะมีกล้องวงจรปิดอยู่ ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็เชิญตรวจสอบได้ทุกเมื่อ"
เฟิงจิ่งเหยามองดูเธอที่มีท่าทีตรงไปตรงมา พลันความสงสัยในใจก็หายไปมากกว่าครึ่ง
ลู่ซือหยี่จึงรีบพูดขึ้นมาด้วยความกังวลใจ "กู้ฉางซิน เธอหยุดตีสองหน้าได้แล้ว มีใครไม่รู้บ้างว่าก่อนที่พี่จิ่งเหยาจะกลับมา เธอปล่อยตัวขนาดไหน ตอนนี้พออยู่ต่อหน้าพี่จิ่งเหยาเธอก็ช่างเสแสร้งเก่งเหลือเกิน"
เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินคำนี้ ก็จ้องเธอกลับด้วยสายตาเย็นชา
ลู่ซือหยี่ถูกเธอมองจนรู้สึกอึดอัด "มองฉันทำไม หรือที่ฉันพูดมาจะไม่จริง?"
"จริงไม่จริงเราต่างรู้ดี แต่อย่างไรก็ตาม ฉันก็ชื่นชมเธอจริง ๆ เธอมีสภาพแบบนี้แล้วยังมีใจที่จะห่วงคนอื่นอีก ดูแล้วเหมือนจะไม่กังวลเกี่ยวกับตัวเองเลยสักนิด"
กู้ฉางฉิงพูดแววตาเข้มพร้อมกับแสยะยิ้ม
ลู่ซือหยี่มองเธอและรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
โดยไม่รอให้เธอได้เปิดปากพูด กู้ฉางฉิงก็พูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมาว่า "ฉันแปลกใจเหลือเกิน งานเลี้ยงวันเกิดในคืนนี้มีเธอเป็นตัวเอกแท้ ๆ แต่กลับถูกวางยา สงสัยว่าจะมีคนวางแผนคิดร้ายกับเธอ......แต่คนที่คิดร้ายนี้ ทำไมจนป่านนี้ยังไม่เผยตัวตนออกมาอีกนะ?"
เมื่อพูดจบเธอก็มองไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างมีความหมาย
เฟิงจิ่งเหยาไม่ใช่คนโง่ เขาฟังออกว่ากู้ฉางฉิงหมายถึงอะไร ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นทันที
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้บอกว่าเขาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด แต่กำลังจะบอกว่าไม่มีใครวางแผนทำร้ายลู่ซือหยี่ เธอวางยาตัวเอง และหลอกให้เขาขึ้นมา เป็นแผนการที่วางไว้สำหรับเขานั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา