สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก นิยาย บท 124

พอคิดถึงเรื่องพวกนี้เฟิงเชียนเสวี่ยก็ปวดหัว ไม่สนใจแล้ว ตอนนี้แม้แต่เงินกินข้าวยังไม่พอ จะมีเวลามาคิดถึงผู้ชายได้อย่างไร…

ต้องคิดหาเงินซะแล้ว!

ตอนที่คิดไปเรื่อยเปื่อย เสียงประตูก็ดังขึ้น “คุณหนู ยังไม่นอนใช่ไหมคะ”

“ยังค่ะ เข้ามาสิ แม่จู” เฟิงเชียนเสวี่ยตอบ

แม่จูเปิดประตูแล้วเดินเข้ามาพร้อมกับใบเสร็จหลายใบ “คุณหนูคะ พรุ่งนี้ห้องดอกทานตะวันจะไปทัศนศึกษากัน วันนี้จะต้องไปจ่ายเงินที่โรงเรียน คุณหนูจะไปเองหรือให้ฉันไปดีคะ?”

“แม่จูไปเถอะ ฉันเจ็บแผล อยากจะพักสักหน่อย” เฟิงเชียนเสวี่ยรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโอนเงินให้แม่จู “ต้องจ่ายเท่าไหร่คะ”

“เด็กคนละแปดร้อยหยวน สามคนสองพันสี่ค่ะ” แม่จูยื่นใบเสร็จให้เธอ

เฟิงเชียนเสวี่ยมองดูใบเสร็จแล้วถึงกับงง นี่มันโรงเรียนอนุบาลอะไรกัน ไปทัศนศึกษาแค่หนึ่งวันเก็บเด็กคนละแปดร้อยหยวนเลย? จะไปเที่ยวเล่นบนฟ้าหรือไงกัน

แม่จูเห็นยอดเงินเหลือในบัญชีของเธอ จึงรีบบอกว่า “ฉันเพิ่งนึกได้ เงินที่คุณหนูให้ไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ครั้งก่อน ยังเหลืออยู่สามพันหยวน ฉันเอาเงินก้อนนั้นไปจ่ายก่อนแล้วกันค่ะ”

“ฉันให้……”

“คุณหนู ฉันไปโรงเรียนอนุบาลก่อนนะคะ คุณหนูพักผ่อนเถอะ กลับมาจะทำกับข้าวให้ค่ะ”

พูดจบ แม่จูก็รีบวิ่งออกไปด้วยร่างกายที่อ้วนท้วน

เฟิงเชียนเสวี่ยมองดูแผ่นหลังของแม่จู ในใจรู้สึกผิดอย่างมาก เงินที่เธอให้ไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ครั้งก่อนแค่หนึ่งพันหยวนเท่านั้น

แม่จูซื้อตู้เก็บรองเท้าและชั้นวางหนังสือจากตลาดขายของเก่า แล้วยังมีเงินทอนให้เธอสามร้อยหยวน

จะมีเพิ่มมาสามพันหยวนได้อย่างไร

แม่จูเอาเครื่องประดับของตนเองไปขายแล้วเอาเงินมาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในบ้านชัดๆ

เฟิงเชียนเสวี่ยรู้สึกว่าตนเองนั้นไม่ได้เรื่องเลย หลายปีที่ผ่านมา แม่จูต้องลำบากมาดูแลเธอกับลูกๆ เธอไม่ได้ให้เงินเดือนแม่จู แล้วยังต้องให้แม่จูมาเสียเงินอีก…

เฟิงเชียนเสวี่ยรู้สึกผิดอย่างมาก จึงรีบหางานพาร์ทไทม์บนอินเตอร์เน็ต

ตอนนี้มีโอกาสมากมาย ถ้าขยันอีกนิด ยังไงก็ไม่หิวตายหรอก

ขับรถจองผ่านอินเตอร์เน็ต ส่งอาหาร……

งานพวกนี้คงไม่ได้ ไม่มีรถ แค่จักรยานไฟฟ้าที่ไว้ส่งอาหารเธอยังไม่มีเงินจะซื้อ…

ทำอะไรได้อีกนะ

ตอนที่กำลังคิดๆ อยู่ เธอก็เห็นว่ามีผับแห่งหนึ่งกำลังรับสมัครนักร้องอยู่ ต้องการคนหน้าตาดี หุ่นดี เล่นเครื่องดนตรีเป็น ชั่วโมงละสองร้อยแปดสิบหยวน!

นี่เป็นผับที่เปิดใหม่ ก็เหมือนเป็นผับนั่งชิลล์ ลูกค้าที่ไปส่วนใหญ่ก็แค่ไปฟังเพลง กินเหล้า พูดคุย เล่นเกมกันบ้าง กุ๊กกิ๊กกันบ้าง…

มันคนละระดับกับผับที่เร่าร้อนอย่างบาร์แสงจันทร์

ดังนั้นผับนั่งชิลล์แบบนี้คงไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรมาก

อีกอย่าง คงจะไม่เจอ ‘โฮสหนุ่มลูกหนี้’

เฟิงเชียเสวี่ยจึงรีบส่งเรซูเม่ไป

เธอเรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็ก สอบผ่านระดับสิบมานานแล้ว ทั้งยังเคยได้รับรางวัลระดับสากลมาไม่น้อย แต่มันก็เป็นแค่งานอดิเรกเท่านั้น

เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าสักวันเธอจะต้องอาศัยมันในการหาเงินกินข้าว!

คิดไปคิดมา เฟิงเชียนเสี่ยเลยโทรไปสอบถามตามรายละเอียดที่ให้มาในใบสมัคร

อีกฝ่ายคงเป็นผับที่เพิ่งเปิดใหม่ ต้องการรับคนมาก จึงรีบตอบกลับทันที “คืนนี้ประมาณสองทุ่มเธอมาลองดู ถ้าสัมภาษณ์ผ่าน ก็เริ่มงานคืนนี้ได้เลย”

“ถ้าอย่างนั้น ค่าแรงให้เป็นรายวันไหมคะ?”

“จ่ายเป็นรายวันได้ ขอแค่เธอหน้าตาดี ร้องเพลงเพราะ เรื่องค่าแรงเราคุยกันได้”

“ได้ค่ะ คืนนี้สองทุ่มฉันจะไปตรงเวลา ขอบคุณมากค่ะ!”

พอวางสายไป เด็กๆ ก็ส่งเสียงดังมาจากด้านนอก “หม่ามี้กลับมาหรือยัง”

“ต้าเป่าเอ้อเป่าซานเป่าซื่อเป่า!”

เฟิงเชียนเสวี่ยรีบวิ่งออกไป

“หม่ามี้!” ลูกรักทั้งสามก็เข้าโผล่กอดเธอ ส่วนซื่อเป่าน้อยก็บินวนอยู่บนหัวเธอ ร้องว่า ‘หม่ามี้หม่ามี้!’

“ซานเป่า ลูกเอาซื่อเป่าน้อยไปโรงเรียนอนุบาลอีกแล้วเหรอ”

เฟิงเชียนเสวี่ยจุ๊บเข้าที่แก้มของเย่ว์เย่ว์

“มันบินเข้ามาซ่อนในกระเป๋าของหนูค่ะ หนูเพิ่งมารู้ตอนถึงโรงเรียนอนุบาลเองค่ะ”

เย่ว์เย่ว์พยายามอธิบายด้วยปากอันเล็กๆ ของเธอ…

“คุณครูไม่ได้ดุหนูค่ะ เพราะซื่อเป่าน้อยไม่ได้รบกวนเพื่อนๆ ในเวลาเรียน แถมยังเล่นเกมกับเพื่อนๆ อีกด้วยค่ะ ทุกคนชอบมันมากเลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก