สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก นิยาย บท 226

คิดถึงตรงนี้ เฟิงเชียนเสวี่ยก็มืออ่อน ไม่ได้ผลักเขาอีก แต่กัดเยี่ยเจิ้นถิงที่ไหล่อย่างแรงเป็นการแก้แค้น

เธอใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดกัดไปอย่างแรงที่เนื้อของเขาแล้ว แต่ดูเหมือนเยี่ยเจิ้นถิงจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยสักนิดเดียว เขาไม่ขัดขืนและไม่ได้ผลักเธอออก แต่กลับปล่อยให้เธอกัดเขาไป…

จนกระทั่งในปากได้ลิ้มรสเลือด เฟิงเชียนเสวี่ยถึงได้หยุด เธอจ้องไปที่เยี่ยเจิ้นถิงและไม่ได้แสดงความอ่อนแอใดๆ

“ดีมาก…”

เยี่ยเจิ้นถิงชอบสัญชาติญาณดิบของเธอ เขาบีบแก้มเธอ ใช้นิ้วหัวแม่มือลูบริมฝีปากของเธอที่มีเลือดของเขาติดอยู่เบาๆ

ความปราถนาอันดำมืดพลุ่งพล่านในดวงตาของเขา ลำคอของเขาขยับเล็กน้อย เสียงเขาแหบแห้งและทุ้มต่ำ “คืนนี้ จะจัดการเธอแน่ๆ…”

เขาเตรียมตัวจะผละออกไป…

เขามีธุระต้องทำหลังจากนั้น เขาไม่ใช่ประเภทยึดติดในความรักจนลืมการลืมงาน

แต่เฟิงเชียนเสวี่ยจะยอมเสียโอกาสเช่นนี้ไปได้ยังไง เธอรีบโอบคอของเขา และมอบจูบที่เร่าร้อนของตัวเองให้…

เยี่ยเจิ้นถิงตะลึง ร่างกายของเขาแข็งราวกับรูปปั้นอยู่ตรงนั้น

จูบของเฟิงเชียนเสวี่ยเหมือนไฟเหมือนเมฆและเหมือนฝน ทั้งเงอะงะทั้งรุนแรง แต่นำมาด้วยความเร่าร้อนที่กล้าหาญ

ดูเหมือนว่าเธอจะใช้ความพยายามทั้งหมดจูบเขา รั้งเขาไว้ด้วยวิธีการของเขาเอง…

เพื่อที่เขาจะได้ยกเลิกสืบสวนสอบสวน

เพื่อที่จะได้เก็บความลับของลูกๆไว้…

แต่เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเล่นกับไฟ

ไม่ช้าความปราถนาที่เยี่ยเจิ้นถิงสะกดไว้ก็ถูกเธอทำให้ประทุขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ เขามิอาจควบคุมมันไว้ได้อีกและกดร่างของเธอให้อยู่ภายใต้ร่างของเขาอีกครั้ง กระแทกจูบเธออย่างรุนแรงพร้อมมือไม้ไต่ไปรอบกาย…

แม้เฟิงเชียนเสวี่ยจะกลัวจนตัวสั่น แต่กลับให้ความร่วมมืออย่างแข็งขัน

ในไม่ช้าทั้งคู่ก็โรมรันพันตู คล้ายกำลังบรรเลงเพลงซิมโฟนีหมายเลขห้าที่รักอย่างฝังลึกและเกลียดอย่างลึกล้ำ…

หลายคราที่เฟิงเชียนเสวี่ยคิดอยากจะเลิกเสื้อเชิ๊ตของเขาเพื่อดูที่เอวด้านหลัง แต่โดนเขาจับมือไว้

จากนั้นจึงลงโทษจูบเธออย่างป่าเถื่อนยิ่งขึ้น

และเธอก็ไม่มีเรี่ยวแรงไปดูต่อแล้ว…

แต่ว่า การระวังของเขาบ่งบอกว่าตัวเองกำลังกินปูนร้อนท้อง

ห้องคนขับ อาไห่บอดี้การ์ดที่ขับรถอยู่รู้สึกได้ถึงความเคลื่อนไหวที่ด้านหลัง หน้าเขาแดงด้วยความเขินอาย

เยี่ยฮุยที่นั่งเบาะข้างๆกระแอมสองสามที และพูดเสียงต่ำๆว่า “ขับรถของนายไปให้ดีๆ อย่าคิดอะไรเหลวไหล”

“ไม่ใช่ครับ ผมไม่กล้าคิดเหลวไหล” อาไห่บอดี้การ์ดรีบพูด “ แต่ว่า พี่ฮุย ตอนนี้พวกเรายังต้องขับไปห้องลับนั่นอีกไหมครับ”

“อันนี้…” เยี่ยฮุยคิดอย่างถี่ถ้วน “พวกเราไม่สามารถขัดคำสั่งของคุณชายเยี่ยได้ แต่ฉันเดาว่า ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาน่าจะสงบสติอารมณ์ลงไม่ได้ในชั่วครู่ชั่วยาม”

“ดังนั้น…”

“หาที่เงียบๆจอดก่อน”

“เข้าใจแล้วครับ”

แป็บเดียวก็เข้าสู่เวลากลางคืน

เฟิงเชียนเสวี่ยหมดแรงจนฟุบหลับลึกไปบนโซฟา

เยี่ยเจิ้นถิงใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย เขานั่งสูบบุหรี่บนโซฟา มองดูเฟิงเชียนเสวี่ยที่นอนสลบไสล แววตาของเขาดูสลับซับซ้อนเล็กน้อย

เมื่อบุหรี่ใกล้มอด เยี่ยเจิ้นถิงดับก้นบุหรี่ เขาเปิดกระจกรถให้มีช่องว่าง แล้วสั่งเยี่ยฮุยที่อยู่ไม่ไกล “กลับไป”

“อ่า? ไม่ไปสอบสวนแล้วเหรอครับ” เยี่ยฮุยประหลาดใจมาก

“ไม่ไปแล้ว” เยี่ยเจิ้นถิงพูดเบาๆ “ขังสองผัวเมียนั่นไว้สักสองสามวัน พอพวกมันใกล้จะอดตายค่อยปล่อยออกมา ให้พวกมันจำบทเรียนในครั้งนี้เอาไว้จะได้เข็ดหลาบ!”

“ครับ” เยี่ยฮุยสั่งการต่อ บอดี้การ์ดจึงขึ้นรถและสตาร์ทรถขับออกไป

เยี่ยเจิ้นถิงใช้สูทของเขาคลุมร่างให้เฟิงเชียนเสวี่ย นั่งอยู่ข้างๆเธออย่างเงียบๆ

ในห้องคนขับ อาไห่บอดี้การ์ดถามอย่างสงสัยว่า “พี่ฮุย ทำไมจู่ๆคุณชายเยี่ยถึงเปลี่ยนใจ”

“น่าจะเพราะคุณหนูเฟิงไม่อยากให้คุณชายรู้ความลับบางอย่าง และเพื่อให้เธอสบายใจเลยไม่ไปสืบหาข้อเท็จจริงอีก” เยี่ยฮุยเข้าใจเยี่ยเจิ้นถิงเป็นอย่างดี

“อ้อ…” อาไห่พยักหน้าเหมือนเข้าใจ “ไม่เข้าใจ!”

“ไม่เข้าใจน่ะถูกแล้ว ขับรถของนายให้ดีๆ” เยี่ยฮุยตบท้ายทอยเขาไปทีหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก